คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเสียหายทางร่างกาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3807/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายทางร่างกายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การประเมินความเสียหายที่ไม่ใช่ตัวเงิน (ความเจ็บปวด, เสียขา) และดอกเบี้ย
การที่โจทก์เสียขาไปข้างหนึ่งและต้องเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานนับว่าเป็นความเสียหายแก่ร่างกายและอนามัยของโจทก์ ถือเป็นความเสียหายที่มิใช่ตัวเงินอย่างหนึ่ง ซึ่งโจทก์มีสิทธิจะเรียกค่าเสียหายส่วนนี้ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 446.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2501/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าทำศัลยกรรมตกแต่งเพื่อลบรอยแผลเป็นเป็นค่าสินไหมทดแทนความเสียหายทางร่างกาย แม้ยังไม่ได้ทำจริง
ค่าเสียหายที่โจทก์ต้องให้แพทย์ทำศัลยกรรมตกแต่งเพื่อลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าจัดเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างอื่นอันมิใช่ตัวเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 446แม้ขณะฟ้อง โจทก์ยังมิได้ให้แพทย์ทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า กล่าวคือโจทก์ยังมิได้เสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่งใบหน้าไปก็ตามโจทก์ก็มีสิทธิฟ้องเรียกร้องเอาจากจำเลยผู้ทำละเมิดได้ และจำนวนค่าเสียหายดังกล่าว ศาลย่อมวินิจฉัยให้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 438 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าของสัมปทานต่อการดำเนินงานของผู้อื่น และการเรียกค่าเสียหายจากความเสียหายทางร่างกายและขาดความสามารถในการประกอบอาชีพ
จำเลยที่ 3 ได้รับสัมปทานเดินรถ แล้วให้จำเลยที่ 2นำรถยนต์เข้าร่วมเดิน ทาสีบอกเครื่องหมายเหมือนรถของจำเลยที่ 3 คนขับและคนขายตั๋วก็แต่งตัวเหมือนพนักงานของจำเลยที่ 3. จำเลยที่ 3 ควบคุมการเดินรถของจำเลยที่ 2เช่นเดียวกับรถของจำเลยที่ 3 และได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์ค่าขายตั๋วเป็นค่าบริการของจำเลยที่ 3. เช่นนี้ ถือได้ว่าการเดินรถคันเกิดเหตุเป็นกิจการของจำเลยที่ 3. จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยในเหตุละเมิดที่จำเลยที่ 1 ลูกจ้างจำเลยที่ 2 ก่อขึ้นตามทางการที่จ้าง.(ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 841/2510).
ผลของการละเมิดของจำเลยที่ 1 ทำให้โจทก์เสียหาย โดยทุพพลภาพตลอดชีวิต. โจทก์จึงเรียกค่าการที่เสียความสามารถประกอบงานอาชีพได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 444. และความทุพพลภาพที่เกิดขึ้นยังเข้ากรณีเป็นความเสียหายแก่ร่างกายของโจทก์ด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 446. โจทก์จึงเรียกได้ทั้งสองประการ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดต่อความเสียหายทางร่างกายและอนาคตการทำงาน
กรณีละเมิดทำให้เขาเสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยนั้น ผู้ทำละเมิดจะต้องเสียค่าเสียหายเพื่อการเสียหายที่ผู้เสีย หายเสียความสามารถประกอบการงานทั้งในเวลาปัจจุบันและในอนาคตด้วย.
ขับรถยนต์ชนเด็กอายุ 11 ขวบโดยประมาท เป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส นายแพทย์ต้องบตัดขาขวาออกไป ข้างหนึ่ง ดังนี้ เด็กย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และมีสิทธิขอค่า+ ภายในอนาคต คิด คำนวนเป็นรายเดือนจนกว่าจะมีอายุบรรลุนิติภาวะได้อีกด้วย./