พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9870/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่สาธารณะและการไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รุกล้ำหากไม่เกิดความเสียหายเป็นพิเศษ
บ้านจำเลยเฉพาะส่วนที่พิพาทปลูกอยู่ในที่ดินริมคลองอันเป็นที่สาธารณะและบังหน้าที่ดินโจทก์ที่จะออกสู่คลองสาธารณะมีความยาวถึง 16 เมตรแต่โจทก์ยังคงเหลือที่ดินติดคลองมีความยาว 9.5 เมตร ซึ่งไม่ถูกบัง ขณะยื่นฟ้องโจทก์ก็ไม่ได้ปลูกบ้านในที่ดินของโจทก์ โจทก์คงปล่อยที่ดินไว้โดยไม่ได้ทำประโยชน์ ส่วนจำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่ดังกล่าวมาประมาณ 20 ปีแล้ว กรณีถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรตาม ป.พ.พ. มาตรา 1337 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้อถอนบ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้างส่วนที่พิพาทออกไปจากที่ดินซึ่งเป็นที่สาธารณะหน้าที่ดินโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2415/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายจริงคือผู้ถูกกล่าวหาเมื่อได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ
จำเลยแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์ลักทรัพย์ของจำเลยซึ่งเป็นความเท็จ ทำให้โจทก์ถูกดำเนินคดีอาญา แม้ความผิดฐานแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137เป็นความผิดต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งปกติรัฐเป็นผู้เสียหายโดยตรงก็ตามแต่โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษจากการร้องทุกข์ของจำเลยซึ่งเป็นเท็จ โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงในข้อหาดังกล่าวและมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275-278/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่สาธารณะและผลกระทบต่อการใช้ประโยชน์ที่ดิน โจทก์ต้องพิสูจน์ความเสียหายเป็นพิเศษ
จำเลยปลูกบ้านสร้างรั้วในที่สาธารณะหน้าที่ดินของโจทก์แต่มีทางสาธารณะจากที่ดินของโจทก์ รถยนต์ออกชายทะเลได้ไม่ถือว่าโจทก์เสียหายพิเศษ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1337 ที่จะฟ้องให้จำเลยรื้อบ้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอนสิทธิการใช้ประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินทำให้เจ้าของที่ดินติดกันได้รับความเสียหายเป็นพิเศษและมีสิทธิฟ้องขับไล่
ที่ดินของโจทก์จดชายทะเลอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จำเลยเข้าปลูกเรือนในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินปิดเต็มหน้าที่ดินของโจทก์จนโจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นได้โดยสะดวก ถือว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน การรอนสิทธิของเจ้าของที่ดินติดทะเล
ที่ดินของโจทก์จดชายทะเลอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จำเลยเข้าปลูกเรือนในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินปิดเต็มหน้าที่ดินของโจทก์จนโจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นได้โดยสะดวก ถือว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีละเมิด แม้ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สิน หากได้รับความเสียหายเป็นพิเศษจากการกระทำละเมิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยกคันนากั้นน้ำในลำห้วยสาธารณะเป็นเหตุให้น้ำท่วมต้นข้าวโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและทำลายคันนา
ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 แม้นาที่โจทก์ปลูกข้าวจะไม่ใช่ของโจทก์ก็ดี โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้และในเรื่องห้วยสาธารณะก็เช่นเดียวกันเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำของจำเลย โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้
ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 แม้นาที่โจทก์ปลูกข้าวจะไม่ใช่ของโจทก์ก็ดี โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้และในเรื่องห้วยสาธารณะก็เช่นเดียวกันเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำของจำเลย โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้