พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายบังคับคดี: สิทธิในการบอกเลิกสัญญาและการคืนเงินมัดจำเมื่อจำเลยคัดค้านการขาย
ตามสัญญาซื้อขายทรัพย์พิพาทจากการขายทอดตลาดระหว่างผู้ร้องกับเจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้ร้องจะต้องนำเงินที่ค้างชำระไปชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีให้เสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันซื้อ ถ้าไม่นำเงินที่เหลือมาชำระให้เสร็จภายในกำหนดดังกล่าว ผู้ร้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดีริบเงินมัดจำที่ได้วางไว้ ฯลฯ เช่นนี้ เป็นสัญญาซื้อขายที่บริบูรณ์และเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่ผู้ร้องขอรับเงินมัดจำคืนและเจ้าพนักงานบังคับคดียอมคืนเงินมัดจำให้แก่ผู้ร้องบางส่วนแต่ยังคงเหลือไว้ร้อยละ 5 ของราคาทรัพย์พิพาทนั้น เป็นการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ผู้ร้องเพราะผู้ร้องยังไม่อาจจดทะเบียนรับโอนทรัพย์พิพาทพร้อมทั้งวางเงินค่าทรัพย์พิพาทที่เหลือทั้งหมดเนื่องจากจำเลยคัดค้านการขายทอดตลาดส่วนการที่จำเลยคัดค้านการขายทอดตลาดเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถใช้สอยประโยชน์ในทรัพย์พิพาทได้ตามความประสงค์นั้นเป็นเรื่องความคาดหวังในการประกอบธุรกิจของผู้ร้องเอง แต่ทรัพย์พิพาทมิได้เสียหายแต่ประการใด ในทางตรงกันข้ามผู้ร้องยังกลับจะได้ประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิมเพราะระยะเวลาที่ผ่านไปหลายปีราคาทรัพย์พิพาทอาจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้ร้องยังสามารถซื้อทรัพย์พิพาทได้ในราคาเท่ากับเมื่อหลายปีที่ผ่านมาโดยวางเงินมัดจำเพียงร้อยละ 5 ของราคาทรัพย์พิพาทเท่านั้น กรณีมิใช่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. ภาค 4 ลักษณะ 2 อันว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งแต่อย่างใด ผู้ร้องจึงมิอาจขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดและขอคืนเงินมัดจำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5609/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยตัวแทน และการไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการคัดค้านการขาย
จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทเพียงลงชื่อเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทแทนบิดาเท่านั้นการที่โจทก์รับโอนที่ดินพิพาทจากจำเลยเป็นการกระทำตามคำสั่งของบิดาที่ต้องการให้โจทก์นำที่ดินพิพาทไปขายนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเนื่องจากบิดาไม่ไว้ใจจำเลยถือว่าการที่โจทก์มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทเป็นเพียงตัวแทนบิดาโจทก์โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินพิพาทแม้จำเลยจะคัดค้านการขายที่ดินพิพาทโจทก์ก็ไม่ได้รับความเสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้มีการคัดค้านการขาย ยังคงมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ครอบครอง
โจทก์ซื้อที่ดิน น.ส.3 แปลงพิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลในคดีอื่น และจดทะเบียนรับโอนที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดินแล้วจำเลยคดีนี้ซึ่งเป็นจำเลยในคดีดังกล่าวได้ร้องคัดค้านการขายทอดตลาดอ้างว่า ขายในราคาต่ำ ขอให้ยกเลิกการขาย คดีอยู่ระหว่างการไต่สวน แต่สิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลโดยสุจริตย่อมเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 โจทก์จึงได้ไปซึ่งสิทธิในที่ดินพิพาทมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้ และในกรณียึดทรัพย์ขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลนี้จำเลยหาอาจยกเหตุที่ได้ครอบครองที่ดินพิพาทเกินกว่า 1 ปีขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อที่ดินนั้นได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้มีการคัดค้านการขายและคดีไม่ถึงที่สุด ผู้ซื้อมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้
โจทก์ซื้อที่ดินได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลและได้จดทะเบียนรับโอนที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดินเรียบร้อยแล้วจำเลยคดีนี้เป็นจำเลยในคดีดังกล่าว และในการขายทอดตลาดนั้นจำเลยร้องคัดค้านการขายทอดตลาดอ้างว่าขายในราคาต่ำ ขอให้ยกเลิกการขาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ดังนี้ สิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลโดยสุจริตย่อมเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330โจทก์ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิในที่ดินมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่ซื้อได้ไม่ว่าคดีที่จำเลยร้องคัดค้านการขายทอดตลาดจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ ในกรณียึดที่ดินขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลนั้น จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกยึดหาอาจยกเหตุเพราะเป็นผู้แย่งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ขึ้นต่อสู้สิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดินจากการขายทอดตลาด กรณีมีผู้คัดค้านการขาย
พ.ร.บ. ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมฯ มาตรา 12 ไม่ให้ใช้ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวบังคับแก่นิติกรรมหรือสัญญาที่ทำขึ้นก่อนวันที่ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวใช้บังคับ ผู้ร้องทำสัญญาซื้อขายที่ดินจากการขายทอดตลาดกับผู้คัดค้านก่อนวันที่ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวใช้บังคับ จึงไม่อาจนำ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวมาปรับใช้กับข้อกำหนดตามสัญญาที่ดินระหว่างผู้ร้องกับผู้คัดค้านได้
ในการซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้นจะต้องปฏิบัติบังคับตาม ป.วิ.พ. ว่าด้วยการบังคับคดี และ พ.ร.บ. ล้มละลายฯ ซึ่งกฎหมายเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องคัดค้านการขายทอดตลาดได้ ผู้ร้องย่อมต้องทราบว่าผู้ซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดอาจไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นทันที เพราะอาจมีการร้องคัดค้านการขายทอดตลาด กรณีไม่ขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 388 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดิน
ในการซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้นจะต้องปฏิบัติบังคับตาม ป.วิ.พ. ว่าด้วยการบังคับคดี และ พ.ร.บ. ล้มละลายฯ ซึ่งกฎหมายเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องคัดค้านการขายทอดตลาดได้ ผู้ร้องย่อมต้องทราบว่าผู้ซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดอาจไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นทันที เพราะอาจมีการร้องคัดค้านการขายทอดตลาด กรณีไม่ขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 388 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดิน