พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4934/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องสมบูรณ์แม้ไม่อ้างมาตราเฉพาะ หากระบุพระราชบัญญัติและบรรยายลักษณะความผิดชัดเจน
แม้คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ระบุอ้างแต่ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 โดยมิได้อ้างมาตรา 4 ไว้ กับโจทก์อ้าง ป.อ. มาตรา 91 มาท้ายฟ้องก็ตามแต่โจทก์ก็ระบุไว้ที่หน้าคำฟ้องในช่องข้อหาหรือฐานความผิดว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แสดงว่าโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาหรือฐานความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 เมื่อพระราชบัญญัติดังกล่าวมีบทบัญญัติไว้เพียง11 มาตรา และมีเพียงมาตรา 4 มาตราเดียว ที่บัญญัติว่าการกระทำเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ ส่วนมาตราอื่น ๆ ล้วนบัญญัติในเรื่องอื่นไม่ได้บัญญัติว่าการกระทำเป็นความผิด และในคำฟ้องโจทก์ก็ได้บรรยายถึงการออกเช็คโดยมีลักษณะหรือการกระทำความผิดของจำเลยไว้ชัดแจ้งครบถ้วนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4ทั้งจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี และไม่หลงต่อสู้ ดังนี้ย่อมมีผลเท่ากับการอ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (6) แล้ว คำฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 โดยมิได้ยกบทมาตราแห่งกฎหมายขึ้นปรับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 186 (7) นั้น เป็นการไม่ชอบ สมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 โดยมิได้ยกบทมาตราแห่งกฎหมายขึ้นปรับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 186 (7) นั้น เป็นการไม่ชอบ สมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2572/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องสมบูรณ์: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการไม่ขนย้ายทรัพย์สินหลังสัญญาเช่าสิ้นสุด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า หลังจากสัญญาเช่าห้องแถวพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลยครบกำหนด โจทก์แจ้งให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารของจำเลยออกไปจากห้องแถวพิพาท เพราะโจทก์ต้องรื้อถอนห้องแถวพิพาทออกจากที่ดินที่ปลูกห้องแถว เนื่องจากสัญญาเช่าที่ดินที่โจทก์ทำไว้กับเจ้าของที่ดินได้ถูกยกเลิก แต่จำเลยกลับเพิกเฉย เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายไม่สามารถรื้อถอนห้องแถวพิพาทออกไปจากที่ดินได้ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้จากจำเลยเป็นรายเดือน
คำฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงความเสียหายที่โจทก์ได้รับ และบรรยายถึงสาเหตุแห่งการที่โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายเอาแก่จำเลย อันเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ จึงเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์หาได้เคลือบคลุมไม่
คำฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงความเสียหายที่โจทก์ได้รับ และบรรยายถึงสาเหตุแห่งการที่โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายเอาแก่จำเลย อันเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ จึงเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์หาได้เคลือบคลุมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องเบิกเงินเกินบัญชีที่สมบูรณ์ และประเด็นข้อต่อสู้ที่มิได้ยกขึ้นในคำให้การ
โจทก์บรรยายในคำฟ้องมีข้อความชัดเจนว่า จำเลยได้เปิดบัญชีเดินสะพัดเงินฝากกระแสรายวันไว้กับโจทก์ และได้ตกลงขอเบิกเงินเกินบัญชีจากโจทก์. แล้วจำเลยได้นำเงินสดและเช็คเข้าฝากและสั่งจ่ายเช็คเบิกเงินจากบัญชีเป็นการหมุนเวียนเดินสะพัดเรื่อยมา เมื่อตัดทอนแล้วเป็นหนี้โจทก์จำนวนหนึ่ง ขอให้จำเลยชำระหนี้ดังกล่าว ดังนี้ คำฟ้องได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น แม้โจทก์จะมิได้กล่าวถึงเช็คที่อ้างว่าจำเลยสั่งจ่ายเงินเป็นเช็คเลขที่เท่าใด เมื่อใด ก็เป็นรายละเอียดที่จะต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
การที่จำเลยนำสืบว่า จำเลยพาคนมาฝากเงินได้รับค่านายหน้าแล้วโจทก์จะนำไปหักหนี้ของจำเลย จำเลยจึงไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ นั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ให้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การ จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในหนี้สินที่จำเลยเบิกเงินเกินบัญชี มิได้ฟ้องว่ากรรมการผู้จัดการธนาคารโจทก์อนุญาตให้จำเลยเบิกเงินเกินบัญชีเกินขอบอำนาจ ทำให้โจทก์เสียหาย จึงไม่มีข้อต้องพิจารณาว่าการกระทำของกรรมการผู้จัดการธนาคารโจทก์เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอันจำเลยจะไม่ต้องรับผิด
การที่จำเลยนำสืบว่า จำเลยพาคนมาฝากเงินได้รับค่านายหน้าแล้วโจทก์จะนำไปหักหนี้ของจำเลย จำเลยจึงไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ นั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ให้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การ จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในหนี้สินที่จำเลยเบิกเงินเกินบัญชี มิได้ฟ้องว่ากรรมการผู้จัดการธนาคารโจทก์อนุญาตให้จำเลยเบิกเงินเกินบัญชีเกินขอบอำนาจ ทำให้โจทก์เสียหาย จึงไม่มีข้อต้องพิจารณาว่าการกระทำของกรรมการผู้จัดการธนาคารโจทก์เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอันจำเลยจะไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องตัดไม้หวงห้าม: การบรรยายพระราชกฤษฎีกาและประกาศในคำฟ้องถือว่าสมบูรณ์แล้ว
การฟ้องหาว่าตัดไม้ประเภทหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเมื่อโจทก์บรรยายว่าพระราชกฤษฎีกาและประกาศรัฐมนตรี ได้คัดสำเนาไว้แล้วดังปรากฏตามสำเนาท้ายฟ้อง ซึ่งมีหมายเหตุว่ารายการอันเป็นส่วนหนึ่งแห่งฟ้องระบุว่าได้ประกาศไว้ ณที่นั้นๆ แล้ว ดังนี้ถือว่าฟ้องโจทก์ในข้อนี้สมบูรณ์แล้ว