พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3310/2549 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องเพิกถอนการขายทอดตลาดไม่มีมูล ศาลสั่งวางประกันแล้วไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งศาลเป็นที่สุด
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด คำร้องดังกล่าวจึงอยู่ภายใต้บังคับ ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคห้า ซึ่งบัญญัติว่า "ในการยื่นคำร้องต่อศาลตามมาตรานี้ หากมีพยานหลักฐานเบื้องต้นแสดงว่าคำร้องนั้นไม่มีมูลและยื่นเข้ามาเพื่อประวิงให้ชักช้า เมื่อศาลเห็นสมควรหรือเมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่อาจได้รับความเสียหาย เนื่องจากการยื่นคำร้องดังกล่าวร้องขอ ศาลมีอำนาจที่จะสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องวางเงินหรือหาประกันต่อศาลตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนด เพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลนั้นได้ ถ้าผู้ยื่นคำร้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ให้ศาลมีคำสั่งยกคำร้องนั้นเสีย คำสั่งของศาลที่ออกตามความในวรรคนี้ให้เป็นที่สุด" เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำเงินมาวางเป็นประกันค่าสินไหมทดแทนชั้นต้นกำหนด แต่กลับยื่นคำแถลงขอขยายระยะเวลาวางเงินออกไปอีก เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินประกันและมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของจำเลยที่ 2 คำสั่งศาลชั้นต้นย่อมเป็นที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7182-7183/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเงินประกันความเสียหายเพื่อคัดค้านการบังคับคดี: ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวน หากมีหลักฐานเบื้องต้นแสดงคำร้องไม่มีมูล
การวางเงินเพื่อประกันความเสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 วรรคสอง (1) มิได้บังคับให้ศาลชั้นต้นต้องทำการไต่สวนคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องเสมอไป เพียงแต่มีพยานหลักฐานเบื้องต้นแสดงว่าคำร้องขอนั้นไม่มีมูลโดยศาลอาจตรวจดูจากเอกสารในสำนวนรวมทั้งตัวคำร้องขอเอง ก็เพียงพอแล้วที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งดังกล่าว