พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการซื้อที่ดินคืนหลังคำวินิจฉัย คชก. และการฟ้องซ้ำ: โจทก์ต้องเพิกถอนคำวินิจฉัยก่อนจึงมีสิทธิซื้อ
ก่อนฟ้องคดีนี้ โจทก์ได้ฟ้องจำเลยทั้งสามว่า โจทก์เป็นผู้เช่าที่ดินโฉนดเลขที่ 7308 ของ ฉ. และที่ดินโฉนดเลขที่ 7309 ของ ส. เพื่อใช้ทำนาต่อมา ฉ. และ ส.ได้ขายที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวให้แก่จำเลยทั้งสามในราคาไร่ละ30,000 บาท โดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบก่อน โจทก์เคยติดต่อขอซื้อที่ดินคืน แต่จำเลยทั้งสามเพิกเฉย โจทก์จึงร้องขอต่อ คชก.ตำบลให้มีคำวินิจฉัย คชก.ตำบลมีคำวินิจฉัยให้โจทก์ซื้อที่ดินทั้งสองแปลงจากจำเลยทั้งสามในราคาไร่ละ 250,000บาท โจทก์ไม่พอใจจึงได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อ คชก.จังหวัด คชก.จังหวัดพิจารณาและมีคำวินิจฉัยยืนตามคำวินิจฉัยของ คชก.ตำบล ซึ่งโจทก์เห็นว่าไม่ถูกต้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามขายที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวแก่โจทก์ในราคาไร่ละ 30,000 บาทคดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ซึ่งเป็นคู่กรณีหรือผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่พอใจคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดจะต้องฟ้อง คชก.จังหวัดเพื่อขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัด เพราะตราบใดคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดยังไม่ถูกเพิกถอนต้องถือว่าคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดยังมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์ไม่พอใจคำวินิจฉัยของคชก.จังหวัด แต่โจทก์ไม่ได้ฟ้อง คชก.จังหวัดเพื่อขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัด โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นผู้รับโอนที่ดินที่เช่าให้ขายที่ดินที่เช่าให้แก่โจทก์ตามราคาที่โจทก์ต้องการ แต่เป็นราคาที่แตกต่างไปจากราคาตามคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดได้ ดังนั้น การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยทั้งสามเป็นคดีนี้ทำนองเดียวกันอีกและอ้างว่าโจทก์เห็นว่าคำวินิจฉัยของคชก.ตำบล และ คชก.จังหวัดขัดต่อกฎหมาย โจทก์จึงต้องขอให้ศาลบังคับคดีตามมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของ คชก. ตำบล และ คชก.จังหวัด ให้จำเลยทั้งสามขายที่ดินโฉนดเลขที่ 7308 และ 7309 แก่โจทก์ในราคาไร่ละไม่เกิน 60,000 บาท นั้นประเด็นพิพาททั้งสองคดีจึงเป็นอย่างเดียวกันว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นผู้รับโอนที่ดินที่เช่าให้ขายที่ดินที่เช่าให้แก่โจทก์ตามราคาที่โจทก์ต้องการแต่เป็นราคาที่แตกต่างไปจากคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดได้หรือไม่ แม้ราคาที่โจทก์ขอซื้อคืนในคดีก่อนและในคดีนี้จะแตกต่างกันก็ตาม แต่ประเด็นพิพาททั้งสองคดีก็เป็นอย่างเดียวกันว่าการที่โจทก์ไม่ได้ฟ้อง คชก.จังหวัดนั้นจะเพิกถอนคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดได้หรือไม่ และโจทก์มีสิทธิขอซื้อที่ดินที่เช่าคืนตามราคาที่โจทก์ต้องการได้หรือไม่นั่นเอง จึงหาใช่เป็นเรื่องการบังคับคดีตามมาตรา 58 แต่อย่างใดเมื่อปรากฏว่าคู่ความในคดีก่อนและคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกัน และคดีก่อนศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5052/2562
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิซื้อที่ดินของผู้เช่านา: การปฏิเสธบังคับตามคำวินิจฉัย คชก. หากผู้เช่าไม่ได้ทำนาเอง
คำวินิจฉัยของ คชก. จังหวัดถือว่าเป็นคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ และการพิจารณาพิพากษาตามคำวินิจฉัยของ คชก. จังหวัดให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ ศาลจึงมีอำนาจทำคำสั่งปฏิเสธการขอบังคับตามคำชี้ขาดนั้นได้ถ้าการบังคับจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 41 และมาตรา 44
เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 มุ่งช่วยเหลือคุ้มครองเกษตรกรผู้เช่านาซึ่งเป็นผู้ทำนาโดยเฉพาะให้ได้สิทธิในที่ดินที่ตนทำนา เมื่อโจทก์ผู้เช่านาพิพาทผิดสัญญามิได้ทำนาด้วยตนเองแต่นำไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เช่านาเพื่อทำนาโดยแท้จริง ต้องถือว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เช่าตามความหมายในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะซื้อนาพิพาทจากจำเลยผู้รับโอนตามมาตรา 54 การที่โจทก์ฟ้องบังคับซื้อนาจากจำเลยเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และการบังคับตามคำชี้ขาดของ คชก. จังหวัดที่ให้โจทก์มีสิทธิซื้อนาพิพาทเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ชอบที่ศาลจะปฏิเสธการขอบังคับตามคำชี้ขาดนั้นได้
ราคาตลาดที่จำเลยยกขึ้นอ้างเพื่อปฏิเสธราคาที่โจทก์ขอซื้อที่นาไม่ใช่ทุนทรัพย์ที่จำเลยเรียกร้อง แม้จำเลยอุทธรณ์และฎีกาก็หาต้องเสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ตามราคาตลาดที่กล่าวอ้างไม่
เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 มุ่งช่วยเหลือคุ้มครองเกษตรกรผู้เช่านาซึ่งเป็นผู้ทำนาโดยเฉพาะให้ได้สิทธิในที่ดินที่ตนทำนา เมื่อโจทก์ผู้เช่านาพิพาทผิดสัญญามิได้ทำนาด้วยตนเองแต่นำไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เช่านาเพื่อทำนาโดยแท้จริง ต้องถือว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เช่าตามความหมายในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะซื้อนาพิพาทจากจำเลยผู้รับโอนตามมาตรา 54 การที่โจทก์ฟ้องบังคับซื้อนาจากจำเลยเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และการบังคับตามคำชี้ขาดของ คชก. จังหวัดที่ให้โจทก์มีสิทธิซื้อนาพิพาทเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ชอบที่ศาลจะปฏิเสธการขอบังคับตามคำชี้ขาดนั้นได้
ราคาตลาดที่จำเลยยกขึ้นอ้างเพื่อปฏิเสธราคาที่โจทก์ขอซื้อที่นาไม่ใช่ทุนทรัพย์ที่จำเลยเรียกร้อง แม้จำเลยอุทธรณ์และฎีกาก็หาต้องเสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ตามราคาตลาดที่กล่าวอ้างไม่