พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1109/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาและดุลพินิจทางปกครองในการอนุมัติเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการทำเหมือง
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 เป็นข้าราชการตำแหน่งทรัพยากรธรณีจังหวัด รับเรื่องราวขอเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการทำเหมืองจากโจทก์แล้วมิได้นำเสนออธิบดีกรมทรัพยากรธรณีเพื่อพิจารณาอนุญาตโดยตรง หากแต่เสนอเรื่องราวดังกล่าวไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอความเห็นก่อน ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลหน่วยงานนี้สั่งการไว้ โดยคำสั่งดังกล่าวปฏิบัติตามแผนพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดและคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งมอบหมายให้ปฏิบัติราชการตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 218 ข้อ (1) (2) อีกทั้งไม่มีระเบียบทางราชการกำหนดวิธีการปฏิบัติเป็นอย่างอื่น จึงเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ชอบด้วยระเบียบแบบแผนของทางราชการ
พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 57 มิได้บังคับว่าอธิบดีของจำเลยที่ 1 ต้องอนุญาตให้ผู้ถือประทานบัตรเปลี่ยนแปลงวิธีการทำเหมืองเสมอไป หากแต่ให้อยู่ในดุลพินิจที่จะพิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นการที่จำเลยที่ 1 สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งต่อทรัพยากรธรณีจังหวัด ให้แจ้งต่อโจทก์ว่าการทำเหมืองแร่ให้ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นการปฏิบัติตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ให้นโยบายไว้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและไม่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 57 หรือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์.
พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 57 มิได้บังคับว่าอธิบดีของจำเลยที่ 1 ต้องอนุญาตให้ผู้ถือประทานบัตรเปลี่ยนแปลงวิธีการทำเหมืองเสมอไป หากแต่ให้อยู่ในดุลพินิจที่จะพิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นการที่จำเลยที่ 1 สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งต่อทรัพยากรธรณีจังหวัด ให้แจ้งต่อโจทก์ว่าการทำเหมืองแร่ให้ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นการปฏิบัติตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ให้นโยบายไว้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและไม่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 57 หรือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการยกเว้นความรับผิดตามมาตรา 70
ผู้บังคับกองตำรวจสั่งให้จำเลยซึ่งเป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาไปจับกุมผู้ต้องหาโดยไม่ได้ออกหมายจับจำเลยไปจับผู้ต้องหาโดยเข้าใจว่าคำสั่งนั้นเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะได้ถือเป็นหลักปฏิบัติกันตลอดมาว่าไปจับได้ แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นการมิชอบ จำเลยทั้งสองก็ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 70
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งผู้บังคับบัญชาขัดต่อกฎหมาย: การปฏิบัติตามคำสั่งโดยเข้าใจว่าชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ไม่ต้องรับโทษอาญา
ผู้บังคับกองตำรวจสั่งให้จำเลยซึ่งเป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาไปจับกุมผู้ต้องหาโดยไม่ได้ออกหมายจับ จำเลยไปจับผู้ต้องหาโดยเข้าใจว่าคำสั่งนั้นเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะได้ถือเป็นหลักปฏิบัติกันตลอดมาว่าไปจับได้ แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นการมิชอบ จำเลยทั้งสองก็ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 70
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย: เหตุยกเว้นโทษทางอาญา
ผู้บังคับกองตำรวจสั่งให้จำเลยซึ่งเป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาไปจับกุมผู้ต้องหาโดยไม่ได้ออกหมายจับ จำเลยไปจับผู้ต้องหาโดยเข้าใจว่าคำสั่งนั้นเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะได้ถือเป็นหลักปฏิบัติกันตลอดมาว่าไปจับได้ แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นการมิชอบ จำเลยทั้งสองก็ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 70
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786-788/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดพ.ร.บ.อากรฆ่าสัตว์และการยกเว้นความรับผิดตามมาตรา 52(2) กรณีปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
จำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 12 พฤษภาคม 2491 โจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2491 จึงยังอยู่ในกำหนดที่โจทก์จะยื่นฎีกาได้
การฆ่าสุกรก่อน วันที่ระบุไว้ในใบอนุญาตต้องมีความผิดตาม พระราชบัญญัติอากรฆ่าสัตว์ 2488 มาตรา 12 ไม่ใช่มาตรา11
ว. จำเลยเป็นพนักงานเทศบาลประจำโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับออกใบอนุญาตให้ฆ่าสัตว์แต่อย่างใด ว. จำเลยได้แก้วันที่ในใบอนุญาต โดย จ.จำเลยเทศมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งให้แก้ดังนี้ ถือได้ว่า ว. จำเลยได้ทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งตนอยู่ในบังคับบัญชาโดยเชื่อว่าเป็นการชอบและมีเหตุผลอันสมควรไม่ควรรับอาญาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 52(2)
การฆ่าสุกรก่อน วันที่ระบุไว้ในใบอนุญาตต้องมีความผิดตาม พระราชบัญญัติอากรฆ่าสัตว์ 2488 มาตรา 12 ไม่ใช่มาตรา11
ว. จำเลยเป็นพนักงานเทศบาลประจำโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับออกใบอนุญาตให้ฆ่าสัตว์แต่อย่างใด ว. จำเลยได้แก้วันที่ในใบอนุญาต โดย จ.จำเลยเทศมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งให้แก้ดังนี้ ถือได้ว่า ว. จำเลยได้ทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งตนอยู่ในบังคับบัญชาโดยเชื่อว่าเป็นการชอบและมีเหตุผลอันสมควรไม่ควรรับอาญาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 52(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตำรวจจับกุมโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แม้มีคำสั่งผู้บังคับบัญชา ก็ไม่อาจเป็นเหตุยกเว้นความผิดได้
ผู้บังคับบัญชาสั่งให้จำเลยสืบจับผู้ลักเล่นการพนัน จำเลยจะจับใครย่อมอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลย เมื่อปรากฏว่า จำเลยแกล้งจับโจทก์ซึ่งมิได้เป็นผู้เล่นการพนัน จำเลยก็ต้องมีความผิดจะอ้างคำสั่งผู้บังคับบัญชามาเป็นข้อยกเว้นโทษไม่ได้
ตำรวจแกล้งจับคนโดยไม่มีความผิด โดยมีอาวุธไปด้วย ต้องลงโทษตามมาตรา 268 ซึ่งเป็นบทหนัก
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยต่ำกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดถ้าโจทก์ไม่ฎีกา ศาลฎีกาไม่แก้กำหนดโทษ
ตำรวจแกล้งจับคนโดยไม่มีความผิด โดยมีอาวุธไปด้วย ต้องลงโทษตามมาตรา 268 ซึ่งเป็นบทหนัก
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยต่ำกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดถ้าโจทก์ไม่ฎีกา ศาลฎีกาไม่แก้กำหนดโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาและของกลางที่ไม่เข้าข่าย ทำให้ไม่ผิดฐานทำให้ของกลางสูญหาย
อย่างไรเรียกว่าของกลาง ตำรวจจับสุราจากผู้ที่นำมาจากอาณาเขตต์ฝรั่งเศสเพื่อกิน แต่นายตำรวจสั่งว่าผู้นำมาไม่มีผิด ตำรวจผู้จับจึงกินสุรานั้นเสียดังนี้ตำรวจผู้นั้นยังไม่มีผิดฐานทำให้ของกลางศูนย์หาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยสุจริตและมีเหตุผลสมควร ทำให้ไม่มีความผิด
จำเลยตรอกข้อความในใบเสร็จรับเงินตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยสุจริตและมีเหตุผลสมควรว่า "ได้ตรวจรับของไว้ถูกต้องตามใบสำคัญแล้ว" ดังนี้ จำเลยไม่มีผิดตาม ม.52