คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำสั่งห้ามชั่วคราว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1678/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวต้องไม่เกินขอบเขตคำฟ้อง การขอห้ามขุดแร่ในที่พิพาทที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นฟ้องเดิมเป็นเรื่องนอกคำขอ
ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทระหว่างจำเลยทั้งสอง และเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับที่พิพาทที่จำเลย ทั้งสองทำไว้ต่อศาล ให้โอนที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย ที่จำเลยที่ 1 ทำไว้กับโจทก์ เมื่อคำฟ้องของโจทก์ไม่เกี่ยวกับเหมืองแร่ ในที่พิพาทหรือสิทธิในประทานบัตรของจำเลยที่ 2 โจทก์จะร้องขอให้ ศาลมีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้จำเลยทั้งสองและบริวารขุดแร่ในที่พิพาท หาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับการกระทำที่จำเลยถูกฟ้อง เป็นเรื่องนอกคำขอท้ายฟ้อง จำเลยย่อมขอให้ยกเลิกคำสั่งห้ามชั่วคราวของศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวสิ้นผลเมื่อไม่ขอหมายบังคับคดีภายในกำหนดหลังประนีประนอมยอมความ
ศาลสั่งชั่วคราวห้ามจำเลยหลายอย่าง จำเลยฎีกาขอให้ยกเลิกคำสั่งระหว่างฎีกานี้โจทก์จำเลยยอมความกันในคดีเดิม มีหลายอย่างที่จำเลยต้องปฏิบัติตามยอม แต่โจทก์ไม่ได้ขอหมายบังคับคดีใน 15 วันคำสั่งห้ามชั่วคราวสิ้นผลตาม ม. 260(2) ศาลจำหน่ายคดีที่จำเลยฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2574/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวชอบด้วยกฎหมาย เมื่อโจทก์กระทำซ้ำการผิดสัญญาตามฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามชั่วคราวตามคำร้องขอของจำเลยที่ฟ้องแย้งให้โจทก์ระงับการก่อสร้างใด ๆ ในทางภาระจำยอม ให้โจทก์เปิดทางที่กั้นทั้งหมดรวมทั้งรื้อถอนเสาในถนนด้านทิศใต้ออก ให้โจทก์ขนสัมภาระที่กีดขวางทางภาระจำยอมออกไปให้หมด เพราะโจทก์กำลังทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซึ่งเป็นการผิดสัญญาตามที่จำเลยกล่าวอ้างในคำขอ โจทก์ขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว โดยอ้างลอย ๆ เพียงว่าโจทก์ไม่ได้กระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซึ่งการละเมิดหรือการผิดสัญญา ซึ่งข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์กระทำซ้ำตามที่ศาลสั่งห้ามนั้นโจทก์รับแล้วว่าขณะนั้นโจทก์กำลังกระทำอยู่จริง โจทก์ไม่ได้โต้เถียงว่าคำสั่งศาลชั้นต้นสั่งโดยไม่มีเหตุเพียงพอหรือไม่มีเหตุสมควรตามกฎหมายหรือมีเหตุอื่นที่จะเพิกถอนคำสั่งห้ามของศาลชั้นต้น กรณีไม่มีเหตุที่จะต้องทำการไต่สวนที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์โดยไม่ทำการไต่สวนนั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2574/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวชอบด้วยกฎหมายเมื่อโจทก์กระทำซ้ำการผิดสัญญาภารจำยอม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามชั่วคราวตามคำร้องขอของจำเลยที่ฟ้องแย้งให้โจทก์ระงับการก่อสร้างใดๆ ในทางภารจำยอม ให้โจทก์เปิดทางที่กั้นทั้งหมดรวมทั้งรื้อถอนเสาในถนนด้านทิศใต้ออก ให้โจทก์ขนสัมภาระที่กีดขวางทางภารจำยอมออกไปให้หมด เพราะโจทก์กำลังทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซึ่งเป็นการผิดสัญญาตามที่จำเลยกล่าวอ้างในคำขอ โจทก์ขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว โดยอ้างลอยๆ เพียงว่าโจทก์ไม่ได้กระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซึ่งการละเมิดหรือการผิดสัญญา ซึ่งข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์กระทำซ้ำตามที่ศาลสั่งห้ามนั้นโจทก์รับแล้วว่าขณะนั้นโจทก์กำลังกระทำอยู่จริง โจทก์ไม่ได้โต้เถียงว่าคำสั่งศาลชั้นต้นสั่งโดยไม่มีเหตุเพียงพอหรือไม่มีเหตุสมควรตามกฎหมายหรือมีเหตุอื่นที่จะเพิกถอนคำสั่งห้ามของศาลชั้นต้น กรณีไม่มีเหตุที่จะต้องทำการไต่สวน ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์โดยไม่ทำการไต่สวนนั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวสิ้นผลเมื่อศาลพิพากษายกฟ้อง แม้มีการฝ่าฝืนคำสั่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามชั่วคราว ให้จำเลยระงับการก่อสร้างชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อมาจำเลยฝ่าฝืน โจทก์ขอให้ออกหมายจับจำเลยมาคุมขังและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า จำเลยมิได้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชั่วคราว ยกคำร้องและต่อมาพิพากษายกฟ้องของโจทก์ โดยมิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวที่ได้สั่งไว้ในระหว่างพิจารณา ถือว่าคำสั่งกำหนดวิธีการ(หมายห้ามชั่วคราว) เป็นอันยกเลิกไปในตัวการที่จะจับและจำขังจำเลยเมื่อปฏิบัติตามกฎหมายชั่วคราวที่ยกเลิกไปแล้วไม่อาจกระทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257-258/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวไม่ใช่การบังคับคดี นายอำเภอมีอำนาจยึดทรัพย์เพื่อภาษีอากรได้ แม้มีคำสั่งห้ามชั่วคราว
คำสั่งห้ามชั่วคราวของศาลมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลยนั้น เป็นวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเพื่อคุ้มครองป้องกันผลประโยชน์ของเจ้าหนี้ให้ได้รับผลตามคำพิพากษา โดยบริบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง
คำสั่งห้ามชั่วคราวดังกล่าวแล้วมีผลเพียงห้ามจำเลยมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย การที่ศาลแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบก็เพื่อมิให้รับจดทะเบียนนิติกรรมใด ๆ ที่จำเลยจะลักลอบกระทำโดยไม่สุจริต มิได้หมายความว่า เป็นการห้ามยึดหรืออายัดตามบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหรือกฎหมายอื่นเสียเลย
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 นายอำเภอมีอำนาจยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรเพื่อชำระค่าภาษีอากรค้างได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องแม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย และแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบแล้ว แต่เมื่อจำเลยค้างชำระค่าภาษีอากร นายอำเภอก็มีอำนาจยึดตึกของจำเลยมาขายทอดตลาดชำระค่าภาษีอากรค้างนั้นได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อตึกของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดของนายอำเภอ และได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว การขายทอดตลาดบริบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว นายอำเภอจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดมิได้ แม้อำเภอจะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตึกให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 เมื่อการขายทอดตลาดตึกได้กระทำก่อนโจทก์บังคับคดี โจทก์บังคับคดีเอาแก่ตึกดังกล่าวให้เป็นการกระทบถึงสิทธิของผู้ร้อง ซึ่งอาจบังคับเหนือตึกนั้น หาได้ไม่
ผู้ร้องคนเดียวยื่นคำร้องขัดทรัพย์แยกกันเป็น 2 คดี คดีแรกร้องขัดทรัพย์เฉพาะตึก ส่วนคดีหลังร้องขัดทรัพย์เฉพาะเตียงโต๊ะเก้าอี้ และเครื่องที่นอน แม้ศาลจะร่วมพิจารณาพิพากษาและผู้ร้องฎีการวมกันมา ก็ต้องถือทุนทรัพย์แต่ละคดีเป็นเกณฑ์พิจารณาในการใช้สิทธิฎีกา เมื่อคดีหลังเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ย่อมต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับฎีกามา ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257-258/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดโดยนายอำเภอเพื่อชำระภาษีอากรชอบด้วยกฎหมาย แม้มีคำสั่งห้ามชั่วคราวคุ้มครองสิทธิเจ้าหนี้ก่อน
คำสั่งห้ามชั่วคราวของศาลมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลยนั้นเป็นวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเพื่อคุ้มครองป้องกันผลประโยชน์ของเจ้าหนี้ให้ได้รับผลตามคำพิพากษาโดยบริบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง
คำสั่งห้ามชั่วคราวดังกล่าวแล้วมีผลเพียงห้ามจำเลยมิให้ทำนิติกรรมใด ๆเกี่ยวกับตึกของจำเลย การที่ศาลแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบก็เพื่อมิให้รับจดทะเบียนนิติกรรมใด ๆ ที่จำเลยจะลักลอบกระทำโดยไม่สุจริต มิได้หมายความว่า เป็นการห้ามยึดหรืออายัดตามบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหรือกฎหมายอื่นเสียเลย
ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 12 นายอำเภอมีอำนาจยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรเพื่อชำระค่าภาษีอากรค้างได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้อง แม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย และแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบแล้ว แต่เมื่อจำเลยค้างชำระค่าภาษีอากร นายอำเภอก็มีอำนาจยึดตึกของจำเลยมาขายทอดตลาดชำระค่าภาษีอากรค้างนั้นได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อตึกของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดของนายอำเภอและได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว การขายทอดตลาดบริบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้วนายอำเภอจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดมิได้ แม้อำเภอจะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตึกให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 เมื่อการขายทอดตลาดตึกได้กระทำก่อนโจทก์จะบังคับคดี โจทก์จะบังคับคดีเอาแก่ตึกดังกล่าวให้เป็นการกระทบถึงสิทธิของผู้ร้องซึ่งอาจบังคับเหนือตึกนั้นหาได้ไม่
ผู้ร้องคนเดียวยื่นคำร้องขัดทรัพย์แยกกันเป็น 2 คดี คดีแรกร้องขัดทรัพย์เฉพาะตึก ส่วนคดีหลังร้องขัดทรัพย์เฉพาะเตียงโต๊ะเก้าอี้และเครื่องที่นอนแม้ศาลจะร่วมพิจารณาพิพากษาและผู้ร้องฎีการวมกันมา ก็ต้องถือทุนทรัพย์แต่ละคดีเป็นเกณฑ์พิจารณาในการใช้สิทธิฎีกา เมื่อคดีหลังเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ย่อมต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับฎีกามา ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวเป็นอันยกเลิกเมื่อศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้ว แม้โจทก์ชนะคดี แต่ไม่ได้ขอห้ามการกระทำต่อไป
การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลยโดยมิได้ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยกระทำซ้ำหรือกระทำต่อซึ่งการละเมิด แต่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกระทำละเมิดต่อไปชั่วคราวก่อนพิพากษา และศาลมีคำสั่งห้ามตามคำขอของโจทก์ไว้แล้ว ดังนี้เมื่อศาลตัดสินคดีแล้ว.ถึงแม้โจทก์จะเป็นฝ่ายชนะได้รับชดใช้ค่าเสียหาย คำสั่งห้ามนั้นก็เป็นอันยกเลิกไปในตัว เพราะโจทก์ไม่อาจขอให้บังคับคดีห้ามมิให้จำเลยกระทำการอันโจทก์ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวเป็นอันยกเลิกเมื่อคดีถึงที่สุด แม้โจทก์ชนะคดี หากมิได้ขอห้ามการกระทำนั้นต่อเนื่อง
การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลยโดยมิได้ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยกระทำซ้ำหรือกระทำต่อ ซึ่งการละเมิด แต่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกระทำละเมิดต่อไปชั่วคราวก่อนพิพากษา และศาลมีคำสั่งห้ามตามคำขอของโจทก์ไว้แล้ว ดังนี้เมื่อศาลตัดสินคดีแล้ว ถึงแม้โจทก์จะเป็นฝ่ายชนะได้รับชดใช้ค่าเสียหาย คำสั่งห้ามนั้นก็เป็นอันยกเลิกไปในตัว เพราะโจทก์ไม่อาจขอให้บังคับคดีห้ามมิให้จำเลยกระทำการอันโจทก์ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวเป็นอันยกเลิกเมื่อคดีถึงที่สุด แม้โจทก์ชนะคดีหากมิได้ขอห้ามต่อเนื่อง
การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลยโดยมิได้ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยกระทำซ้ำหรือกระทำต่อ.ซึ่งการละเมิด. แต่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกระทำละเมิดต่อไปชั่วคราวก่อนพิพากษา. และศาลมีคำสั่งห้ามตามคำขอของโจทก์ไว้แล้ว. ดังนี้เมื่อศาลตัดสินคดีแล้ว.ถึงแม้โจทก์จะเป็นฝ่ายชนะได้รับชดใช้ค่าเสียหาย. คำสั่งห้ามนั้นก็เป็นอันยกเลิกไปในตัว. เพราะโจทก์ไม่อาจขอให้บังคับคดีห้ามมิให้จำเลยกระทำการอันโจทก์ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อไปได้.