คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำสั่งไม่รับคำให้การ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำให้การและการห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำให้การของจำเลยที่1เมื่อวันที่27เมษายน2537จำเลยที่1อุทธรณ์คำสั่งในวันที่17มิถุนายน2537แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์เนื่องจากมิได้อุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกรณีจึงต้องถือว่าจำเลยที่1ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำให้การของจำเลยที่1ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา228วรรคสองแล้วฉะนั้นจำเลยที่1จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งเดียวกันภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาคดีตามวรรคท้ายแห่งมาตราดังกล่าวไว้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9117/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่รับคำให้การและการพิจารณาคดีต่อเนื่อง ผลกระทบต่อคำพิพากษาถึงที่สุด
ศาลสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับคำให้การของจำเลย เป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตาม ป.วิ.พ.มาตรา 18 จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ทันที ตามป.วิ.พ.มาตรา 228 (3)
ในระหว่างที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำให้การ ศาลชั้นต้นได้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป และศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาคดีไว้ก่อน ตาม ป.วิ.พ. 228 วรรคสอง จนศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาคดีไปโดยจำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นแต่อย่างใด คำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว การที่จะให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนและมีคำสั่งรับหรือไม่รับคำให้การใหม่ ไม่ว่าผลการไต่สวนจะเป็นประการใดย่อมไม่อาจจะทำให้ผลของคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้วเปลี่ยนแปลงไปได้ อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9117/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาถึงที่สุดและการอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับคำให้การ การดำเนินการหลังจากศาลชั้นต้นพิจารณาคดีเสร็จสิ้น
คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับคำให้การของจำเลยเป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ทันทีตามมาตรา 228(3)แต่เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ศาลชั้นต้นคงดำเนินการพิจารณาต่อไป และศาลอุทธรณ์ก็มิได้สั่งให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาไว้ก่อนตามมาตรา 228 วรรคสองจนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีไปแล้ว โดยจำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น คำพิพากษาของศาลชั้นต้นจึงเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว ดังนั้น การที่จะให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีไม่ว่าศาลชั้นต้นจะสั่งรับหรือไม่รับคำให้การของจำเลยย่อมไม่อาจจะทำให้ผลของคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้วเปลี่ยนแปลงไปได้อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัย