พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องฐานผิดสัญญา: การคืนเช็คและการชำระหนี้เกินจำนวน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ตกลงจะคืนเช็คให้แก่โจทก์เมื่อโจทก์จ่ายเงินให้แก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 แล้ว จำเลยที่ 2ที่ 3 ไม่นำเช็คมาคืนแก่โจทก์ ในที่สุดโจทก์ถูกฟ้องตาม พ.ร.บ.เช็คพ.ศ. 2497 และต้องใช้เงินแก่ผู้ทรงเช็ค ดังนี้ เป็นคำฟ้องที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ผิดสัญญาโดยไม่คืนเช็คตามข้อตกลงโจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 2 ที่ 3 ฐานผิดสัญญาซึ่งกฎหมายมิได้บัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น ต้องใช้อายุความ 10 ปี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องผิดสัญญาคืนเช็ค: ฟ้องภายใน 10 ปี นับจากจำเลยไม่คืนเช็ค แม้มีประเด็นตัวการตัวแทน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์มอบเช็คพิพาทชำระหนี้ค่าจ้างตามสัญญาให้แก่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 3 แต่จำเลยที่ 1 ไม่มอบเช็คแก่จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 2 ขอให้โจทก์ชำระเงินค่าจ้างตามสัญญาให้แก่จำเลยที่ 3 อีก และขอให้โจทก์อายัดเช็ค โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 สัญญาว่าจะนำเช็คพิพาทมาคืนให้แก่โจทก์ แต่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ก็มิได้นำมาคืน จนโจทก์ทั้งสามถูกฟ้องและต้องใช้เงินแก่ผู้ทรงเช็ค ดังนี้เป็นคำฟ้องที่แสดงให้เห็นว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ผิดสัญญาไม่คืนเช็คให้ตามข้อตกลงเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย เป็นคำฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 2 ที่ 3 ฐานผิดสัญญา ซึ่งกฎหมายมิได้บัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่นจึงต้องใช้อายุความ 10 ปีแม้คำฟ้องจะได้บรรยายเกี่ยวกับตัวการตัวแทน หรือระบุว่าจำเลยทั้งสามจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมาย ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นเรื่องละเมิด หรือลาภมิควรได้.(ที่มา-เนติ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทนาย หากแก้ต่างไม่สำเร็จต้องคืนเช็ค ถือเป็นสัญญาที่ผูกพัน และมีอายุความ 10 ปี
โจทก์จำเลยทำสัญญาจ้างว่าความโดยมีข้อสัญญาว่า จำเลยจะ ต้องทำหน้าที่ทนายความแก้ต่างจนทำให้ ส. พ้นโทษมิฉะนั้นจำเลย จะต้องคืนเช็คให้แก่โจทก์เมื่อศาลสั่งจำหน่ายคดีเพราะ ส. ถึงแก่ความ ตายไม่ใช่เพราะการแก้ต่างของจำเลยจำเลยจึงต้องคืนเช็คให้โจทก์ จำเลยโอนเช็คให้บุคคลภายนอกเป็นเหตุให้โจทก์ถูกฟ้องและศาลพิพากษาให้โจทก์ชำระเงินทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยให้ ใช้เงินได้ โดยมีอายุความ 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีไม่มีทุนทรัพย์: การฟ้องขอคืนเช็คเพื่อระงับหนี้ ไม่ใช่การฟ้องเพื่อเอาทรัพย์สิน
ตามฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องอ้างว่าหนี้ระงับแล้ว ขอให้บังคับจำเลยส่งคืนเช็คสองฉบับให้โจทก์ตามสัญญา มิใช่เป็นการฟ้องเรียกร้องกระดาษเช็คในฐานะที่เป็นทรัพย์สินที่มีราคามาเป็นของโจทก์ เพราะโจทก์หาได้ประสงค์จะถือเอาประโยชน์จากเช็คอันมีมูลค่าฉบับละ 25 สตางค์นั้นไม่ และหาใช่หนี้ตามเช็คระงับต่อเมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมาไม่แต่เป็นคำฟ้องที่อ้างว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้แล้ว ดังนี้ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ อยู่ในอำนาจศาลจังหวัดพิจารณาพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงลดหนี้และการคืนเช็ค ถือเป็นการประนีประนอมยอมความ ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องบังคับคดีได้
ผู้ทรงเช็คชอบที่จะเรียกให้ผู้สั่งจ่ายชำระหนี้เต็มจำนวนตามเช็คได้ การที่ผู้ทรงและผู้สั่งจ่ายตกลงกัน โดยผู้ทรงยอมให้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และผู้ทรงยอมคืนเช็คให้ผู้สั่งจ่าย จึงเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน อันเป็นการประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืม ต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงินเต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไป ด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและคำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืม ต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงินเต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไป ด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและคำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงลดหนี้และการคืนเช็คถือเป็นการประนีประนอมยอมความ ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องบังคับคดีได้
ผู้ทรงเช็คชอบที่จะเรียกให้ผู้สั่งจ่ายชำระหนี้เต็มจำนวนตามเช็คได้ การที่ผู้ทรงและผู้สั่งจ่ายตกลงกัน โดยผู้ทรงยอมให้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และผู้ทรงยอมคืนเช็คให้ผู้สั่งจ่าย จึงเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันอันเป็น การประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืมต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย เป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงิน เต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไปด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็น สัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและ คำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตาม สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐาน เป็นหนังสือก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืมต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย เป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงิน เต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไปด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็น สัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและ คำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตาม สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐาน เป็นหนังสือก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851