พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์คูน้ำและการครอบครองปรปักษ์ หากมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนด โจทก์ขุดร่องน้ำพิพาทซึ่งอยู่ในเขตโฉนดเพื่อรับน้ำจากคลองสาธารณมาใช้ประโยชน์ต่อมาจำเลยทั้งสองทำทำนบกั้นร่องน้ำดังกล่าว ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนทำนบออกไป จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองใช้ร่องน้ำพิพาทติดต่อกันไม่น้อยกว่า 40 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ ดังนี้แม้คำขอท้ายฟ้องจะขอให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนทำนบที่ปิดกั้นร่องน้ำ ซึ่งเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ที่ไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ แต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้อ้างกรรมสิทธิ์จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ คำขอบังคับของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นผลต่อเนื่องมาจากประเด็นข้อพิพาทว่า คูน้ำพิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ เมื่อทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3428/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น: คูน้ำกว้างไม่ถึงขนาดเป็นอุปสรรคขัดขวางทางออกตาม กม.แพ่งฯ จึงไม่อาจบังคับเปิดทางได้
ที่ดินที่ถูกล้อมมีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ แต่ต้องข้ามคูน้ำกว้างประมาณ 4 - 5 เมตร มิใช่สระหรือบึงกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1349 วรรคสอง เจ้าของที่ดินดังกล่าวจึงฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3428/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น: คูน้ำกว้างไม่จัดเป็นอุปสรรคขัดขวางทางออกตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 1349 วรรคสอง
ที่ดินที่ถูกล้อมมีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ แต่ต้องข้ามคูน้ำกว้างประมาณ 4-5 เมตร มิใช่สระหรือบึงกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1349 วรรคสอง เจ้าของที่ดินดังกล่าวจึงฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สิน - การใช้คูน้ำร่วมกัน - ไม่เป็นละเมิด - ป้องกันทรัพย์สิน
จำเลยขุดคูเพื่อชักน้ำจากคลองใช้ทำสวน โจทก์ทำสวนในที่ดินแม่ยายและได้ขุดคูชักน้ำใช้ทำสวนต่อจากคูที่จำเลยขุดไว้ แล้วโจทก์ถือวิสาสะใช้เรือยนต์บรรทุกอุปกรณ์ในการทำสวนมีเครื่องสูบน้ำเป็นต้นผ่านคูที่จำเลยขุดเข้าไปในที่ดินที่โจทก์ทำสวนโดยไม่ขออนุญาตจากจำเลย ในหน้าน้ำจำเลยปักไม้ไผ่ขวางคูนั้นเป็นป้องกันคนร้ายนำเรือยนต์ผ่านคูที่จำเลยขุดมาขโมยผลไม้ในสวนของ จำเลย โจทก์นำเรือยนต์บรรทุกเครื่องยนต์เข้าไปสูบน้ำที่ท่วมในสวนของโจทก์ไม่ได้ ทำให้สวนของโจทก์ถูกน้ำท่วมเสียหายการกระทำของจำเลยเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์สินของจำเลยไม่ได้มีเจตนา กลั่นแกล้งจึงไม่เป็นการละเมิด และไม่ใช่กรณีที่จำเลยใช้สิทธิไม่สุจริตในอสังหาริมทรัพย์ทำให้โจทก์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินและการใช้ประโยชน์จากคูน้ำร่วมกัน การป้องกันทรัพย์สินไม่ถือเป็นการละเมิด
จำเลยขุดคูเพื่อชักน้ำจากคลองใช้ทำสวน โจทก์ทำสวนในที่ดินแม่ยายและได้ขุดคูชักน้ำใช้ทำสวนต่อจากคูที่จำเลยขุดไว้ แล้วโจทก์ถือวิสาสะใช้เรือยนต์บรรทุกอุปกรณ์ในการทำสวนมีเครื่องสูบน้ำเป็นต้นผ่านคูที่จำเลยขุดเข้าไปในที่ดินที่โจทก์ทำสวนโดยไม่ขออนุญาตจากจำเลย ในหน้าน้ำจำเลยปักไม้ไผ่ขวางคูนั้นเพื่อป้องกันคนร้ายนำเรือยนต์ผ่านคูที่จำเลยขุดมาขโมยผลไม้ในสวนของจำเลย โจทก์นำเรือยนต์บรรทุกเครื่องยนต์เข้าไปสูบน้ำที่ท่วมในสวนของโจทก์ไม่ได้ ทำให้สวนของโจทก์ถูกน้ำท่วมเสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์สินของจำเลยไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้ง จึงไม่เป็นการละเมิด และไม่ใช่กรณีที่จำเลยใช้สิทธิไม่สุจริตในอสังหาริมทรัพย์ทำให้โจทก์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คูน้ำสาธารณะที่ขุดเองไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คันและคูน้ำ หากไม่เป็นไปตามผังที่กรมชลประทานกำหนด
ตามพระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 และเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 บังคับในท้องที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ฯลฯ พ.ศ. 2509 นั้น เป็นเรื่องการทำคูน้ำจากคลองชลประทานตามโครงการเจ้าพระยาใหญ่ ซึ่งจะต้องทำตามผังและลักษณะที่อธิบดีกรมชลประทานกำหนดและประกาศแล้ว เมื่อคูน้ำที่ผู้เสียหายขุดทำขึ้นมิใช่เป็นคูน้ำที่ทำตามกฎหมายดังกล่าว แต่เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายกับพวกทำกันเอง คูน้ำนั้นจึงไม่ใช่คูน้ำที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 แม้จำเลยจะทำให้เกิดขัดข้อง น้ำไม่ไหลในคูของผู้เสียหาย จำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คูน้ำที่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คันและคูน้ำ คือคูน้ำที่สร้างตามผังที่กรมชลประทานกำหนด
คูน้ำที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ.2505 หมายถึงคูน้ำที่ทำตามผังและลักษณะที่อธิบดีกรมชลประทานกำหนดและประกาศแล้ว ดังนั้น แม้จำเลยทำให้เกิดขัดข้องน้ำไม่ไหลในคูน้ำที่ผู้เสียหายขุดทำขึ้นเอง จำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พระราชบัญญัติ ดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313-314/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตที่ดินติดกัน-คูน้ำ: ข้อสันนิษฐานเจ้าของร่วมและการพิสูจน์สิทธิ
คูพิพาทเป็นเขตระหว่างที่ของโจทก์และจำเลย จึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1344 ว่าเจ้าของที่ดินทั้งสองข้างเป็นเจ้าของรวมกันเมื่อจำเลยอ้างว่าคูซึ่งเป็นเขตระหว่างที่โจทก์และจำเลยเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมาย