คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าซ่อมรถยนต์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7274/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกร้องค่าซ่อมรถยนต์หลังการจ่ายค่าซ่อมแล้ว ผู้รับประกันภัยมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ก่อเหตุได้
โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้นำรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยซึ่งประกันภัยไว้กับโจทก์ไปซ่อมแล้ว ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้รับผิดค่าซ่อมรถยนต์คันดังกล่าว แม้ขณะฟ้องโจทก์จะยังไม่ได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์คันดังกล่าวเนื่องจากอู่ยังซ่อมรถยนต์คันดังกล่าวไม่เสร็จก็ตาม แต่การที่โจทก์นำรถยนต์คันที่รับประกันภัยไปให้อู่ซ่อมและทางอู่ได้รับทำการซ่อมให้ในราคาที่ตกลงกันไว้นั้น โจทก์ย่อมมีความผูกพันที่จะต้องชำระค่าซ่อมให้แก่อู่ตามจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ ทั้งข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่าทางอู่ได้ซ่อมรถยนต์จนเสร็จและมอบรถยนต์ให้แก่เจ้าของรถยนต์ไปเรียบร้อยแล้ว ถือได้ว่าโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วตามจำนวนเงินราคาค่าจ้างที่ได้ตกลงไว้กับอู่ผู้ทำการซ่อม โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของเจ้าของรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยมาเรียกร้องค่าซ่อมรถยนต์จำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าซ่อมรถยนต์จากการประกันภัย แม้มีข้อตกลงเรื่องค่าเสียหายอื่นแล้ว
แม้ข้อตกลงระหว่างพันจ่าอากาศเอก ส. กับจำเลยตามรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันจะมีใจความว่า พันจ่าอากาศเอก ส. ได้เรียกร้องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลตัวเองและของภรรยาเป็นเงินรวม 27,500 บาทและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายอื่นใดอีกต่อไปทั้งทางแพ่งและอาญาก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อความอีกว่า สำหรับรถยนต์ของพันจ่าอากาศเอก ส. นั้นคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะไปทำการเจรจากันในภายหลังต่อไป แสดงว่าคู่กรณีเจตนาแยกการเรียกค่าเสียหายจากการซ่อมแซมรถยนต์ออกจากค่าเสียหายจำนวน 27,500 บาท พันจ่าอากาศเอกส. จึงไม่สูญสิทธิที่จะเรียกร้องค่าซ่อมแซมรถยนต์ในภายหลังเมื่อโจทก์ผู้รับประกันภัยรถยนต์ของพันจ่าอากาศเอก ส. ได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปซ่อมแซมและชำระค่าซ่อมแซมแล้ว โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของพันจ่าอากาศเอก ส. ในอันทีจะเรียกร้องเงินค่าซ่อมแซมรถยนต์จากจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าซ่อมรถยนต์หลังตกลงค่าเสียหายส่วนบุคคล: ศาลยืนตามอุทธรณ์
แม้ข้อตกลงระหว่าง ส. กับจำเลยตามรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันมีใจความว่า ส.ได้เรียกร้องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลตัวเองและของภรรยาเป็นเงินรวม 27,500 บาท และไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายอื่นใดอีกต่อไปทั้งทางแพ่งและอาญาก็ตามแต่ยังมีข้อความอีกว่า สำหรับรถยนต์ของ ส. นั้น คู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะไปทำการเจรจากันในภายหลังต่อไปแสดงว่าคู่กรณีเจตนาแยกการเรียกค่าเสียหายจากการซ่อมแซมรถยนต์ออกจากค่าเสียหายจำนวน 27,500 บาทส.จึงไม่สูญสิทธิที่จะเรียกร้องค่าซ่อมแซมรถยนต์ในภายหลังเมื่อโจทก์ผู้รับประกันภัยรถยนต์ของ ส. ได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปซ่อมแซมและชำระค่าซ่อมแซมแล้ว โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของ ส.ในอันที่จะเรียกร้องเงินค่าซ่อมแซมรถยนต์จากจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จัดการงานนอกสั่งและการระงับหนี้ค่าซ่อมรถยนต์จากประกันภัยค้ำจุน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ของจำเลยตามกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า โจทก์จะใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกรายหนึ่ง ๆ ไม่เกิน 10,000 บาท รถยนต์ของจำเลยคันนั้นได้ชนกับรถยนต์คันอื่น ซึ่งจำเลยจะต้องรับผิดชอบโจทก์ได้ซ่อมรถคันที่ถูกชนนั้นสิ้นเงินไป 25,000 บาท ขอให้จำเลยใช้เงิน 15,000 บาท ที่โจทก์จ่ายเกินไปให้โจทก์ดังนี้ บุคคลภายนอกผู้ต้องเสียหายชอบที่จะได้รับเงินค่าซ่อมรถจากโจทก์เป็นจำนวนเท่าที่โจทก์กับจำเลยได้ตกลงกันไว้ในกรมธรรม์ส่วนจำนวนที่ยังขาดอยู่นั้นชอบที่จะเรียกร้องให้จำเลยใช้ให้ โจทก์ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะจ่ายเงินค่าซ่อมรถให้ผู้ต้องเสียหายเกินกว่าความรับผิดของตนซึ่งจำกัดไว้เพียง 10,000 บาท แต่เมื่อได้จ่ายไปแล้วแม้จำเลยจะไม่ได้มอบหมายให้จัดการแทนก็ตาม ก็ย่อมเป็นผลทำให้หนี้ค่าซ่อมรถที่ยังขาดอยู่นั้นระงับไป และจำเลยหลุดพ้นความรับผิดต่อผู้ต้องเสียหายจึงอาจสมประโยชน์ของจำเลยซึ่งเป็นตัวการและต้องตามความประสงค์อันแท้จริงของตัวการหรือความประสงค์ตามที่จะพึงสันนิษฐานได้ กรณีตามฟ้องเป็นเรื่องจัดการงานนอกสั่งที่อาจจะก่อให้เกิดหนี้ที่ผูกพันจำเลยให้ต้องชดใช้เงินที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการได้ออกทดรองจัดการงานให้จำเลยไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 401 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยศาลชอบที่จะรับฟ้องไว้พิจารณา