คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าทำศพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3924/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงสภาพการจ้างยังผูกพันแม้สิ้นสุดอายุ สิทธิสวัสดิการค่าทำศพลูกจ้างยังคงมีผล
แม้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมสิ้นสุดลง แต่จำเลยกับสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมอาภรณ์ไทยก็มิได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างกันใหม่ ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมจึงยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปอีกคราวละ 1 ปี จนกว่าจะได้มีการทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างกันใหม่ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 12 การนัดหยุดงานเป็นเพียงการที่ลูกจ้างร่วมกันหยุดงานชั่วคราวเนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน หามีผลทำให้สัญญาจ้างแรงงานระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างสิ้นสุดลง ทั้งเงินช่วยเหลือค่าทำศพเป็นเงินสวัสดิการที่จำเลยจ่ายให้เมื่อลูกจ้างถึงแก่กรรมมิได้จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติ จึงเป็นสวัสดิการที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานตามปกติ จำเลยจึงต้องจ่ายค่าทำศพให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4367/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือค่าทำศพไม่ใช่การยอมรับผิด ค่าเสียหายทางแพ่ง
เงินจำนวน 3,000 บาทที่จำเลยที่ 3 ช่วยค่าทำศพในขณะที่จำเลยที่ 3 มิได้ยอมรับผิดว่าการตายเกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกจ้างของตน และมิได้มอบให้ในฐานะเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่ง แต่เป็นการให้ในลักษณะร่วมทำบุญอันเป็นสำนึกในด้านศีลธรรมและเรื่องการบุญการกุศลของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 ผู้รับประกันภัยจะนำมาหักกับจำนวนเงินค่าทำศพที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเรียกค่าทำศพ: ต้องมีฐานะเป็นผู้จัดการทำศพที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าโจทก์เป็นญาติของนางเหมียน ไชยพิทักษ์ผู้ตาย โจทก์ได้จัดการศพของผู้ตายตามฐานานุรูปของผู้ตายสิ้นเงินไป 22,899 บาท ต่อมาจำเลยทั้งอสงเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับผู้ตายได้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายต่อศาลจังหวัภูเก็ต ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งจำเลยทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดก ตามฟ้องของโจทก์แสดงว่าผู้ตายมิได้ตั้งโจทก์ให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และไม่ได้ความว่าผู้ตายหรือศาลตั้งโจทก์หรือทายาทได้มอบหมายตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการทำศพตามความในมาตรา 1649 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าทำศพที่โจทก์อ้างว่าได้ใช้จ่ายไปในการจัดการทำศพของผู้ตาย
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเรียกค่าทำศพ: ต้องมีฐานะเป็นผู้จัดการทำศพ หรือได้รับมอบหมายจากผู้ตาย/ศาล
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าโจทก์เป็นญาติของนางเหมียนไชยพิทักษ์ผู้ตาย โจทก์ได้จัดการศพของผู้ตายตามฐานานุรูปของผู้ตายสิ้นเงินไป 22,899 บาท ต่อมาจำเลยทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับผู้ตายได้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายต่อศาลจังหวัดภูเก็ตศาลมีคำสั่งแต่งตั้งจำเลยทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดก ตามฟ้องของโจทก์แสดงว่าผู้ตายมิได้ตั้งโจทก์ให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และไม่ได้ความว่าผู้ตายหรือศาลตั้งโจทก์หรือทายาทได้มอบหมายตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการทำศพตามความในมาตรา 1649 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าทำศพที่โจทก์อ้างว่าได้ใช้จ่ายไปในการจัดการทำศพของผู้ตาย
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2603/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าทำศพจากผู้ทำละเมิดแก่บิดาผู้รับรองบุตรนอกสมรส
ชายหญิงมิได้จดทะเบียนสมรสตามบรรพ 5 บุตรที่บิดารับรองแล้วตาม มาตรา 1627 ซึ่งปรากฏจากข้อเท็จจริงต่างๆ เรียกค่าทำศพจากผู้ทำละเมิดให้บิดาตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2363/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเบี้ยเลี้ยงเป็นค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน ต้องนำมาคำนวณค่าทดแทนและค่าทำศพ
คำว่า "ค่าจ้าง" ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 2(พ.ศ.2507) ให้คำวิเคราะห์ศัพท์ไว้หมายความถึงสินจ้างที่นายจ้างให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานของลูกจ้าง ไม่ว่าสินจ้างนั้นจะเรียกชื่อ กำหนด คำนวณ หรือจ่ายอย่างไรก็ตาม แต่ไม่รวมค่าล่วงเวลา ค่าล่วงเวลาในวันหยุด โบนัส หรือผลประโยชน์อย่างอื่นที่มีลักษณะเป็นการสงเคราะห์ลูกจ้าง
ขณะออกไปปฏิบัติงานต่างจังหวัด ลูกจ้างได้รับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 35 บาทจากนายจ้างเพิ่มจากค่าจ้างเดิมทุกวันที่ปฏิบัติงานวันที่ไม่มาทำงาน ไม่ว่าเพราะเหตุใด รวมทั้งวันหยุดงานประจำสัปดาห์และวันหยุดงานตามประเพณีนิยม นายจ้างไม่จ่ายให้ เงินที่นายจ้างจ่ายให้นี้ถือได้ว่าเป็นเงินค่าจ้างตามความหมายของคำวิเคราะห์ศัพท์ดังกล่าวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2363/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเบี้ยเลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้าง ต้องนำมารวมคำนวณค่าทดแทนและค่าทำศพ
คำว่า 'ค่าจ้าง' ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 2(พ.ศ.2507) ให้คำวิเคราะห์ศัพท์ไว้หมายความถึงสินจ้างที่นายจ้างให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานของลูกจ้าง ไม่ว่าสินจ้างนั้นจะเรียกชื่อ กำหนด คำนวณ หรือจ่ายอย่างไรก็ตาม แต่ไม่รวมค่าล่วงเวลา ค่าล่วงเวลาในวันหยุด โบนัส หรือผลประโยชน์อย่างอื่นที่มีลักษณะเป็นการสงเคราะห์ลูกจ้าง
ขณะออกไปปฏิบัติงานต่างจังหวัด ลูกจ้างได้รับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 35 บาทจากนายจ้างเพิ่มจากค่าจ้างเดิมทุกวันที่ปฏิบัติงานวันที่ไม่มาทำงาน ไม่ว่าเพราะเหตุใด รวมทั้งวันหยุดงานประจำสัปดาห์และวันหยุดงานตามประเพณีนิยม นายจ้างไม่จ่ายให้ เงินที่นายจ้างจ่ายให้นี้ถือได้ว่าเป็นเงินค่าจ้างตามความหมายของคำวิเคราะห์ศัพท์ดังกล่าวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าทำศพต้องมีฐานะเป็นผู้จัดการศพหรือมีส่วนได้เสียโดยชอบด้วยกฎหมาย การพิพากษาเกินคำขอเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง
ฟ้องว่าเป็นภรรยาผู้ตาย ขอให้ผู้รับมรดกตามพินัยกรรมจ่ายค่าทำศพ โดยไม่ได้ขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกหรือผู้จัดการศพมาด้วย ศาลจะพิพากษาตั้งให้เป็นผู้จัดการศพไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ
เมื่อศาลยังไม่ได้พิพากษาตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการศพ โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินค่าทำศพจากจำเลยผู้รับมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าทำศพของผู้ไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดก: การฟ้องต้องขอตั้งเป็นผู้จัดการศพก่อน
ฟ้องว่าเป็นภรรยาผู้ตาย ขอให้ผู้รับมรดกตามพินัยกรรมจ่ายค่าทำศพโดยไม่ได้ขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกหรือผู้จัดการศพมาด้วย ศาลจะพิพากษาตั้งให้เป็นผู้จัดการศพไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ
เมื่อศาลยังไม่ได้พิพากษาตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการศพโจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินค่าทำศพจากจำเลยผู้รับมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามเงื่อนไขพินัยกรรม: ศาลพิจารณาเจตนาผู้ทำพินัยกรรม และการหลีกเลี่ยงการเสียค่าทำศพ
บิดามารดาทำพินัยกรรมยกที่ดินให้บุตรคนหนึ่ง โดยเงื่อนไขว่าบุตรต้องออกเงินทำศพบิดามารดาคนละ 2,000 บาท ถ้าบุตรไม่ออกเงินค่าทำศพ ให้ที่ดินตกแก่ทายาทต่อไป บุตรปลอมใบมอบอำนาจของบิดามารดาโอนขายที่ดินนั้นให้บุตรเมื่อบิดาตายแล้ว มารดาทราบจึงฟ้องและศาลพิพากษาให้เพิกถอนการโอน บุตรขอรับมรดกของบิดามารดาจึงไปคัดค้าน บุตรจึง วางเงิน 2,000 บาท ค่าทำศพก่อนที่จะได้มีการเผาศพดังนี้ เป็นการที่บุตรไม่เจตนาเสียค่าทำศพมาตั้งแต่ต้นจนบิดพริ้วต่อไปไม่ได้จึงจำต้องวางเงินพอเป็นพิธีเพื่อฟ้องเรียกทรัพย์ตามพินัยกรรมหาใช่ปฏิบัติตามเงื่อนไขให้สมตามความมุ่งหมายของผู้ทำพินัยกรรมไม่ บุตรไม่มีสิทธิฟ้องร้องตามพินัยกรรม
of 3