คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าธรรมเนียมอุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในข้อเท็จจริง, ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกกรอบคำพิพากษาชั้นต้น, และผลของการไม่วางค่าธรรมเนียมอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงิน 177,561.50 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 93,600 บาท แก่โจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยชำระเงิน 34,028 บาท แก่โจทก์ โจทก์ฎีกาขอให้ชำระเงินตามฟ้อง จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงไม่เกินสองแสนบาท ที่โจทก์ฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยต้องรับผิดชำระเงินตามฟ้องแก่โจทก์เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลล่างทั้งสองเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 93,600 บาท แก่โจทก์ จำเลยมิได้อุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์หยิบยกคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยมาพิจารณาแล้วพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยชำระแก่โจทก์เพียง 34,028 บาท เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นฎีกาในข้อกฎหมายไม่ต้องห้ามฎีกา
จำเลยยื่นอุทธรณ์ แต่จำเลยมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยมิได้อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งดังกล่าว เท่ากับไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ การที่จำเลยยื่นคำแก้อุทธรณ์ของโจทก์ขอให้หักจำนวนเงินที่ต้องชำระให้แก่โจทก์ลดลงจาก 93,600 บาท หรือยกฟ้องโจทก์นั้น เป็นการขอนอกเหนือไปจากคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนั้น จำเลยต้องยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ตามมาตรา 223 จำเลยจะขอมาในคำแก้อุทธรณ์หาได้ไม่ การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยแล้วพิพากษาให้จำเลยรับผิดชำระเงินแก่โจทก์ 34,028 บาท ย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3153/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาคดีเนื่องจากจำเลยถึงแก่กรรมก่อนฟ้อง และผลของการไม่วางค่าธรรมเนียมในการอุทธรณ์
การขอให้พิจารณาใหม่หากได้ความตามคำร้องก็มีผลให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นต้องถูกเพิกถอนไปในตัว และศาลชั้นต้นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาขึ้นใหม่ ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง การที่ผู้ร้องอุทธรณ์ก็เท่ากับเป็นการขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ผู้ร้องจึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 ด้วย แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ อุทธรณ์ของผู้ร้องจึงมิชอบด้วยกฎหมาย ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องจึงไม่ชอบ ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยตามมาตรา 142(5) ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 247 ถือไม่ได้ว่าฎีกาของผู้ร้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ จึงต้องห้ามตามมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีฝ่ายเดียวและมีคำพิพากษา จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้จัดการมรดกของจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นรับคำร้อง ผู้ร้องได้อ้างส่งสำเนาคำสั่งศาลที่ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลยที่ 1 เข้ามาในสำนวนด้วยจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่าจำเลยที่ 1 ได้ถึงแก่กรรมไปก่อนที่จะถูกโจทก์ฟ้องคดี ฉะนั้น ฟ้องของโจทก์และกระบวนพิจารณาหลังจากนั้นเฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 จึงมิชอบมาแต่ต้น เพราะจำเลยที่ 1 ไม่มีสภาพบุคคลอยู่ในขณะโจทก์ยื่นฟ้องปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อสำนวนขึ้นสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยโดยให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาทั้งหมดเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 นับแต่ศาลชั้นต้นรับฟ้องตลอดมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6921/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์: เหตุผลพิเศษและเหตุสุดวิสัยที่ใช้ได้ตามกฎหมาย
คำร้องของจำเลยขอให้กำหนดเวลาให้จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์เป็นเรื่องการขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ย่อมเป็นผลสืบเนื่องมาจากการยกคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินของจำเลย หากศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินก็จะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไม่ได้ การอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงเป็นการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยขยายระยะเวลาวางเงิน จำเลยชอบที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่จำเลยทราบคำสั่งศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 หากศาลอุทธรณ์ขยายระยะเวลาวางเงินให้แก่จำเลย คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยย่อมเป็นอันตกไปเนื่องจากจำเลยยังสามารถวางเงินได้อีกจึงไม่ใช่กรณีอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ศาลอุทธรณ์จึงต้องวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยว่าสามารถขยายระยะเวลาวางเงินให้จำเลยหรือไม่ แล้วมีคำพิพากษาไปตามรูปคดี การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไปในกรณีอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ จึงเป็นการไม่ชอบ
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินไปถึงวันที่ 17 มีนาคมการที่จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินอีกครั้งในวันที่ 21 เมษายนจึงเป็นการขอขยายระยะเวลาภายหลังจากระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้สิ้นไปแล้ว ในกรณีเช่นนี้จะขยายระยะเวลาให้จำเลยได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและเหตุสุดวิสัย แต่ตามคำร้องของจำเลยอ้างว่าทนายจำเลยคนเดิมมิได้แจ้งให้ทนายจำเลยคนใหม่ทราบถึงเรื่องที่ยังไม่ได้วางเงิน ซึ่งเป็นความบกพร่องของทนายจำเลยเอง จึงไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษและเหตุสุดวิสัยที่จะขยายระยะเวลาวางเงินให้จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมอุทธรณ์และการปฏิบัติตามเงื่อนไขการอุทธรณ์หลังมีคำพิพากษา
แม้ศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองอุทธรณ์อย่างคนอนาถา และสั่งว่าหากจำเลยยังติดใจอุทธรณ์ ให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์มาชำระต่อศาลชั้นต้นใน 10 วันแต่เมื่อจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการชำระเงินออกไปอีก 15 วัน ศาลชั้นต้นก็ได้สั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาไปเพียง7 วัน อันเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่สั่งขยายระยะเวลาการชำระเงินให้จำเลยทั้งสอง เพื่อประโยชน์แก่ความยุติธรรม จำเลยจึงมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นในเรื่องการขอขยายระยะเวลาการชำระเงินดังกล่าวได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 223 การที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ในเรื่องเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์เป็นการยื่นอุทธรณ์ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว และย่อมทำให้การบังคับคดีต้องล่าช้าไป อันอาจเสียหายแก่โจทก์ผู้ชนะคดีได้ จำเลยจึงต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียมอุทธรณ์: คำสั่งศาลต้องไม่ทำให้โอกาสชำระค่าธรรมเนียมหมดไป
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องขงโจทก์ ให้ขยายระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ไปอีก 15 วัน โดยระบุวันเดือนปีที่ครบกำหนดไว้ด้วย ปรากฏว่าในวันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งให้โจทก์ฟังนั้น ได้ล่วงเลยวันที่ครบกำหนดตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ไปแล้ว ดังนี้ คำสั่งศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ เพราะมีผลเท่ากับไม่ได้ขยายระยะเวลาให้โจทก์ เมื่อโจทก์ทราบคำสั่งก็หมดโอกาสที่จะชำระค่าธรรมเนียมเสียแล้ว ขัดกับเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 กรณีเช่นนี้ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้เป็นว่าให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าธรรมเนียมอุทธรณ์หลังกำหนดเวลา ศาลไม่รับฟ้องอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยหากจำเลยยังติดใจอุทธรณ์ให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 15 วัน จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ และขอให้ศาลสั่งรอการนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระจนกว่าจะได้ไต่สวนคำร้องใหม่แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และกำหนดเวลาให้นำค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 7 วัน จำเลยอุทธรณ์ฎีกาต่อมา ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืน ดังนี้ เป็นการพิพากษายืนที่ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ให้พิจารณาคำขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่เท่านั้นมิใช่เห็นพ้องหรือเห็นชอบตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่กำหนดเวลาให้วางเงินค่าธรรมเนียม เพราะกำหนดเวลาให้ชำระเงินค่าธรรมเนียมเป็นอำนาจทั่วไปของศาลแต่ละชั้นศาล เมื่อศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาพิพากษาโดยมิได้กำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมให้ใหม่ การที่จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระเมื่อพ้นเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ย่อมถือว่ามิได้ยื่นอุทธรณ์ให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลา ไม่เป็นอุทธรณ์ที่จะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาวางค่าธรรมเนียมอุทธรณ์: เจตนาไม่แท้จริงและการยกอุทธรณ์
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้อุทธรณ์ขอให้อนุญาตขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมการอุทธรณ์ตามที่กฎหมายกำหนดบังคับไว้ก็เพื่อจะให้ได้รับอุทธรณ์นั่นเอง ศาลชั้นต้นได้อนุญาตขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมไว้และในชั้นอุทธรณ์ก็ได้อนุญาตอีกครั้งหนึ่ง และว่าถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติก็เป็นอันยกอุทธรณ์ของจำเลยเสีย การที่จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่ง ขอให้ศาลอุทธรณ์ขยายระยะเวลาให้อีกศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาต ให้ยกคำร้องกรณียุติในการที่จะให้รับอุทธรณ์ต่อไปแล้ว ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา236

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6099/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย กรณีจำเลยไม่สามารถวางเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ตามคำสั่งศาล เนื่องจากคำสั่งไม่อนุญาตอุทธรณ์อย่างคนอนาถาถึงที่สุด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถา จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง หากจำเลยติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ก็ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในเวลาที่กำหนด คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคท้าย และศาลชั้นต้นอนุญาตตามคำร้องของจำเลยที่ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมออกไปหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินดังกล่าวออกไปอีก เป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งต่อเนื่องจากคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถาซึ่งถึงสุดแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาโต้แย้งคำสั่งไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินของศาลอุทธรณ์ต่อไปอีก