คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าป่วยการ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2545 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีกับเงินค่าป่วยการของข้าราชการ: เงินค่าป่วยการที่ไม่ใช่เงินเดือนและไม่อยู่ในข่ายได้รับการคุ้มครองตาม ป.วิ.พ. มาตรา 286(2)
เจตนารมย์ของบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ.มาตรา 286 (2) มุ่งหมายที่จะให้ความคุ้มครองข้าราชการแห่งรัฐที่เลี้ยงชีพด้วยเงินเดือนอันเป็นรายได้ประจำเพียงอย่างเดียวที่แน่นอนตายตัว แต่เงินที่โจทก์ขออายัดเป็นเงินค่าป่วยการรายเดือน และเงินค่าป่วยการประจำตำแหน่งซึ่งเหมาจ่ายเป็นรายเดือนโดยคำนวณจากรายได้จริงตามงบประมาณทั่วไปที่เทศบาลจัดเก็บเองจากภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีป้าย อากรฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต ค่าปรับและรายได้จากทรัพย์สินของเทศบาลของปีงบประมาณที่ผ่านมา จึงมีลักษณะไม่คงที่ อาจเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตามรายได้ของเทศบาล ซึ่งต่างจากเงินเดือนและค่าจ้างของข้าราชการประจำที่มีลักษณะคงที่แน่นอนไม่ผันแปรโดยง่าย ดังนั้นเงินค่าป่วยการรายเดือนและเงินค่าป่วยการประจำตำแหน่งจึงมิได้อยู่ในความหมายของคำว่า "เงินเดือน" ของข้าราชการหรือลูกจ้างของรัฐบาลตาม ป.วิ.พ.มาตรา 286 (2) โจทก์ย่อมขอบังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยที่อ้างตนเองเป็นพยาน ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายเรียกตนเอง และไม่ได้รับค่าป่วยการ/พาหนะ
จำเลยที่ 3 อ้างตนเองเป็นพยาน จึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลออกหมายเรียกตนเองมาเป็นพยานได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 106 แม้ตามคำขอให้ศาลออกหมายเรียกจะระบุว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขอแต่เพียงผู้เดียว แต่คำขอก็ระบุรวม ๆ กันว่า ขอให้หมายเรียกพยานจำเลยซึ่งทนายจำเลยที่ 3 เป็นผู้ลงชื่อในคำร้อง และจำเลยที่ 3 ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 3 มาศาลจึงไม่ใช่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียกศาลไม่มีอำนาจกำหนดให้จำเลยที่ 3 ได้รับค่าป่วยการและค่าพาหนะตามตาราง 4ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ค่าป่วยการและค่าพาหนะที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จ่ายให้แก่จำเลยที่ 3 จึงไม่ใช่ค่าฤชาธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 วรรคสอง โจทก์ทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความตนเองของจำเลยในฐานะพยาน: สิทธิในการเบิกค่าป่วยการและค่าพาหนะ
จำเลยที่3อ้างตนเองเป็นพยานจึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลออกหมายเรียกตนเองมาเป็นพยานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา106แม้ตามคำขอให้ศาลออกหมายเรียกจะระบุว่าจำเลยที่1เป็นผู้ขอแต่เพียงผู้เดียวแต่คำขอก็ระบุรวมๆกันว่าขอให้หมายเรียกพยานจำเลยซึ่งทนายจำเลยที่3เป็นผู้ลงชื่อในคำร้องและจำเลยที่3ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาจำเลยที่1การที่จำเลยที่3มาศาลจึงไม่ใช่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียกศาลไม่มีอำนาจกำหนดให้จำเลยที่3ได้รับค่าป่วยการและค่าพาหนะตามตาราง4ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งค่าป่วยการและค่าพาหนะที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จ่ายให้แก่จำเลยที่3จึงไม่ใช่ค่าฤชาธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา161วรรคสองโจทก์ทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ให้แก่จำเลยที่1และที่3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความ: การคิดคำนวณค่าบริการ, ค่าป่วยการ, และการกำหนดจำนวนเงินที่เหมาะสม
แม้โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยตกลงให้โจทก์เรียกค่าจ้างว่าความตามปริมาณและระยะเวลาการทำงาน แต่โจทก์ก็ได้แนบเอกสารท้ายฟ้องแสดงรายการค่าจ้างว่าความ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีและค่าป่วยการเป็นเงินรวม 249,440 บาท ให้จำเลยทราบ จึงเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจสภาพแห่งข้อหาตามฟ้อง ถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น โจทก์มีตัวโจทก์เบิกความประกอบเอกสารที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงสอดคล้องต้องกันสมเหตุสมผล มีน้ำหนักน่าเชื่อยิ่งกว่าพยานจำเลยซึ่งมีแต่เพียงพยานบุคคลเบิกความลอย ๆ โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน รูปคดีฟังได้ว่าจำเลยได้ตกลงว่าจ้างโจทก์ให้เป็นทนายความแก้ต่างให้แก่จำเลย ค่าบริการเมื่อไม่ปรากฏชัดแจ้งว่าเป็นค่าบริการอะไรในส่วนไหนศาลย่อมไม่กำหนดเงินในส่วนนี้ให้ สำหรับค่าสินจ้างว่าความที่โจทก์เรียกมาเป็นเงิน 200,000 บาท นั้น ปรากฏว่าในคดีที่จำเลยถูกธนาคารฟ้องมิใช่เป็นคดีที่มีปัญหายุ่งยากซับซ้อนมากนัก และไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ว่าความโดยต้องซักถามพยานเป็นข้อยุ่งยากและโจทก์ต้องไปแสวงหาพยานหลักฐานโดยยากลำบากแต่อย่างใดสมควรกำหนดสินจ้างว่าความตามส่วนของงานที่ทำไปเป็นเงิน 80,000 บาทส่วนค่าป่วยการนั้นตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน คำว่า"ป่วยการ" หมายถึงเสียงานเสียการ และ "ค่าป่วยการ" หมายถึงเรียกค่าชดเชยการงานเวลาที่เสียไปการที่โจทก์เดินทางไปว่าความต่างจังหวัดเป็นการเดินทางไปทำงานในหน้าที่ของทนายความโดยตรงจะเรียกว่าเป็นการเสียงานเสียเวลาไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีภาษี: การจ่ายค่าป่วยการและข้อยกเว้นรายจ่ายตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องกรมสรรพากรกับพวกเป็นจำเลย อ้างว่าการที่โจทก์จ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าป่วยการให้แก่ ป. เป็นการจ่ายเพื่อหากำไรมาให้โจทก์และโจทก์ได้จ่ายให้ ป. รับไปเป็นคราว ๆ มิใช่จ่ายจากผลกำไรที่ได้เมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีแล้ว โจทก์จึงไม่ต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับเงินที่ได้จ่ายไปนี้ ขอให้ศาลเพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และให้จำเลยคืนเงินค่าภาษี จำเลยให้การปฏิเสธข้ออ้างตามฟ้องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องนำสืบข้อเท็จจริงว่าเป็นดังที่โจทก์อ้างเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่ต้องเสียภาษีในเงินดังกล่าวจะถูกต้องหรือไม่ ถ้าโจทก์ไม่นำสืบก็ต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายค่าป่วยการสมาชิกสภาเทศบาลเมื่อถูกพิพากษาจำคุกแต่มีประกันตัว ต้องพิจารณาการจำคุกจริงเท่านั้น
ข้อบังคับว่าด้วยการจ่ายเงินค่าป่วยการสมาชิกสภาเทศบาลต้องพิเคราะห์รวมกันทั้งหมดจะแยกความหมายและตีความทีละตอนไม่ได้
สมาชิกสภาเทศบาลเพียงแต่ถูกศาลพิพากษาให้จำคุกแต่มีประกันตัวไป ยังไม่ต้องจำคุกจริง จะงดจ่ายค่าป่วยการไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดจ่ายค่าป่วยการสมาชิกสภาเทศบาลที่ถูกพิพากษาจำคุก แต่มีประกันตัว ต้องพิจารณาการจำคุกจริงเท่านั้น
ข้อบังคับว่าด้วยการจ่ายเงินค่าป่วยการสมาชิกสภาเทศบาลต้องพิเคราะห์รวมกันทั้งหมดจะแยกความหมายและตีความทีละตอนไม่ได้
สมาชิกสภาเทศบาลเพียงแต่ถูกศาลพิพากษาให้จำคุกแต่มีประกันตัวไป ยังไม่ต้องจำคุกจริง จะงดจ่ายค่าป่วยการไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103-104/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกจ่ายค่าป่วยการที่ไม่เป็นความผิดฐานทุจริต และการขาดอำนาจร้องทุกข์ในคดีฉ้อโกง
เทศมนตรีไม่ได้ไปทำงาน แต่ได้ลงลายมือชื่อในบัญชีรายวันมาทำงานว่า ได้มาทำงานในวันนั้น ผู้มีหน้าที่ตั้งฎีกาเบิกเงินหลงเชื่อ จึงเบิกเงินค่าป่วยการประจำวัน และเงินเพิ่มพิเศษมามอบให้เทศมนตรีรับไปดังนี้ การกระทำของเทศมนตรีดังกล่าวยังไม่เป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 133
ความผิดฐานฉ้อโกงเงินของเทศบาล นั้น สัตว์แพทย์ประจำเทศบาลไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์ตามกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103-104/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกจ่ายค่าป่วยการที่ไม่เป็นความผิดฐานเกี่ยวข้องหากำไรส่วนตัว และการไม่มีอำนาจร้องทุกข์
เทศมนตรีไม่ได้ไปทำงาน แต่ได้ลงลายมือชื่อในบัญชีรายวันมาทำงานว่า ได้มาทำงานในวันนั้นผู้มีหน้าที่ตั้งฎีกาเบิกเงินหลงเชื่อ จึงเบิกเงินค่าป่วยการประจำวันและเงินเพิ่มพิเศษมามอบให้เทศมนตรีรับไป ดังนี้การกระทำของเทศมนตรีดังกล่าวยังไม่เป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 133
ความผิดฐานฉ้อโกงเงินของเทศบาลนั้นสัตว์แพทย์ประจำเทศบาลไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์ตามกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำว่า 'หมอความ' ตามมาตรา 165(15) และการคิดอายุความค่าป่วยการที่ปรึกษากฎหมาย
"หมอความ" ตามมาตรา 165(15) นั้น ย่อมหมายถึงบุคคลผู้ถือเป็นอาชีพ หรือแสดงออกว่าเป็นผู้มีความรู้เพื่อรับจ้างในการใช้วิชากฎหมายโดยทั่วๆ ไป ที่ปรึกษากฎหมายจึงเป็นหมอความตามความหมายของมาตรา 165(15) ด้วย
of 2