คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่ารักษาทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึด: ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจกำหนดค่าธรรมเนียมได้ แม้ต่ำกว่าสัญญาก็ตาม
ค่ารักษาทรัพย์ (ที่ยึดไว้ในคดี) เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161 ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดค่ารักษาทรัพย์ให้ผู้ร้องต่ำกว่าจำนวนที่ระบุในหนังสือสัญญารักษาทรัพย์จึงเป็นอำนาจที่จะกระทำได้ หาเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่เมื่อค่ารักษาทรัพย์เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ศาลอาจสั่งให้ได้ การที่ผู้ร้องไม่พอใจคำสั่งกำหนดค่ารักษาทรัพย์ของศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ต่อมาก็เป็นการฟ้องคดีต่อศาลอุทธรณ์ ให้กำหนดค่ารักษาทรัพย์เช่นเดียวกันหาใช่เรื่องเรียกร้องค่ารักษาทรัพย์ไม่ จึงเป็นคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งค่ารักษาทรัพย์ยึดในคดีแพ่ง: ศาลใช้ดุลพินิจได้ แม้ไม่ตรงตามสัญญา
ค่ารักษาทรัพย์ (ที่ยึดไว้ในคดี) เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161 ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดค่ารักษาทรัพย์ให้ผู้ร้องต่ำกว่าจำนวนที่ระบุในหนังสือสัญญารักษาทรัพย์จึงเป็นอำนาจที่จะกระทำได้ หาเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่เมื่อค่ารักษาทรัพย์เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ศาลอาจสั่งให้ได้ การที่ผู้ร้องไม่พอใจคำสั่งกำหนดค่ารักษาทรัพย์ของศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ต่อมาก็เป็นการฟ้องคดีต่อศาลอุทธรณ์ ให้กำหนดค่ารักษาทรัพย์เช่นเดียวกัน หาใช่เรื่องเรียกร้องค่ารักษาทรัพย์ไม่ จึงเป็นคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์จากการยึดเรือ: ระยะเวลาการนับและการบังคับใช้ข้อตกลงระหว่างคู่ความ
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้จากจำเลย ระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยึดเรือเดินทะเลของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามมิให้เคลื่อนย้ายเรือลำดังกล่าวออกจากอู่เรือของผู้ร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้โจทก์ถอยเรือออกไปให้พ้นท่าเทียบเรือของผู้ร้อง ต่อมาโจทก์กับผู้ร้องได้ตกลงกันตามรายงานกระบวนพิจารณาว่า โจทก์ยอมให้เงินผู้ร้องในการที่เรือจอดอยู่ที่อู่ของผู้ร้องเดือนละ 3,000 บาท จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยจะจ่ายให้เมื่อได้ขายทอดตลาดเรือแล้ว และให้ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการบังคับคดี ต่อมาศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้โจทก์และโจทก์ขอหมายบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260 (2) ดังนี้ คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวที่ศาลได้สั่งไว้ในระหว่างการพิจารณาก่อนมีคำพิพากษาคงมีผลต่อไปไม่ได้ถูกยกเลิก ทั้งจะถือว่าศาลได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ห้ามเคลื่อนย้ายเรือเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดเรือนั้นไป การนับระยะเวลาที่ผู้ร้องจะได้รับค่ารักษาทรัพย์ 3,000 บาทนั้น จึงต้องนับถึงวันที่ได้ย้ายเรือออกไปจากอู่ของผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึดช้าง: ศาลมีอำนาจสั่งตามความเหมาะสมโดยอาศัย ป.วิ.พ. มาตรา 161
ค่ารักษาทรัพย์ เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควรตาม ป.วิ.พ.มาตรา 161.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึดช้าง: ศาลมีอำนาจสั่งจ่ายตามความเห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ค่ารักษาทรัพย์ เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควรตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึด: ศาลต้องกำหนดตามสมควร หากไม่มีข้อตกลง และไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อคำนวณจำนวนที่เหมาะสม
ในเรื่องค่ารักษาทรัพย์นั้นควรที่จะได้ตกลงกำหนดกันไว้แล้วตั้งแต่แรกพร้อมด้วยการรับรู้ของฝ่ายที่นำยึด เมื่อมิได้มีการตกลงกำหนดกันไว้ โดยปรกติผู้รักษาทรัพย์ก็ควรที่จะได้ค่ารักษาทรัพย์บ้างตามจำนวนเงินที่ศาลเห็นสมควร
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รักษาทรัพย์ที่ถูกยึดกับโจทก์ผู้นำยึดต่างโต้เถียงกันในเรื่องค่ารักษาทรัพย์ที่ถูกศาลสั่งยึด และมิได้ปรากฎว่ามีการรับรองกันในความข้อใดแม้ความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งเป็นคนกลางที่ใกล้ชิดกับความจริง ก็ไม่มีปรากฎในสำนวน จึงไม่มีข้อเท็จจริงประการใดในสำนวนเลยที่จะเป็นหลักเกณฑ์ในการคำนวณว่า มากน้อยเพียงใดจึงจะเป็นจำนวนเงินที่สมควรเช่นนี้ ศาลต้องดำเนินการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องในเรื่องค่ารักษาทรัพย์ แล้วสั่งตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึด: ศาลต้องไต่สวนและกำหนดจำนวนเงินที่สมควร แม้มิได้ตกลงกันตั้งแต่แรก
ในเรื่องค่ารักษาทรัพย์นั้นควรที่จะได้ตกลงกำหนดกันไว้แล้วตั้งแต่แรกพร้อมด้วยการรับรู้ของฝ่ายที่นำยึดเมื่อมิได้มีการตกลงกำหนดกันไว้ โดยปกติผู้รักษาทรัพย์ก็ควรที่จะได้ค่ารักษาทรัพย์บ้างตามจำนวนเงินที่ศาลเห็นสมควร
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รักษาทรัพย์ที่ถูกยึดกับโจทก์ผู้นำยึดต่างโต้เถียงกันในเรื่องค่ารักษาทรัพย์ที่ถูกศาลสั่งยึดและมิได้ปรากฏว่ามีการรับรองกันในความข้อใด แม้ความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งเป็นคนกลางที่ใกล้ชิดกับความจริง ก็ไม่มีปรากฏในสำนวนจึงไม่มีข้อเท็จจริงประการใดในสำนวนเลยที่จะเป็นหลักเกณฑ์ในการคำนวณว่า มากน้อยเพียงใดจึงจะเป็นจำนวนเงินที่สมควรเช่นนี้ ศาลต้องดำเนินการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องในเรื่องค่ารักษาทรัพย์แล้วสั่งตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึดก่อนมีคำพิพากษาเป็นค่าฤชาธรรมเนียมตามปกติ เว้นมีข้อตกลงอื่น
ค่ารักษาทรัพย์ที่ยึดไว้ก่อนมีคำพิพากษาย่อมถือได้ว่าเป็นค่าฤชาธรรมเนียม
ถ้าในข้อตกลงของคู่ความไม่มีว่ามิให้ถือว่าค่ารักษาทรัพย์เป็นค่าฤชาธรรมเนียมแล้ว ตามปกติก็ต้องถือว่าค่ารักษาทรัพย์เป็นค่าฤชาธรรมเนียม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ที่ถูกยึด: ผู้ขัดทรัพย์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ค่ารักษาทรัพย์ในระหว่างมีผู้ร้องขัดทรัพย์ ผู้แพ้คดีเปนผู้เสีย