พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7471/2548
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเวนคืนที่ดิน: ค่าทดแทนต้นปาล์ม, สิ่งปลูกสร้าง, ค่าเสียโอกาส และดอกเบี้ย
แม้โจทก์ยังมีสิทธิและโอกาสในการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากต้นปาล์มน้ำมันที่ถูกเวนคืนอีกประมาณ 16 ปี แต่ผลผลิตและราคาของปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นผลิตผลทางเกษตรในอนาคตที่จะทำให้โจทก์ผู้ปลูกมีกำไรหรือขาดทุนขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่อาจควบคุมได้หลายประการ ทั้งจำเลยได้จ่ายเงินค่าทดแทนต้นปาล์มน้ำมันทั้งหมดที่ถูกเวนคืนให้แก่โจทก์ไปแล้วก่อนที่จำเลยจะเข้าครอบครองต้นปาล์มน้ำมันของโจทก์ที่ถูกเวนคืนและจ่ายเงินค่าทดแทนความเสียหายจากการขาดรายได้จากต้นปาล์มน้ำมันทั้งหมดที่ถูกเวนคืนเป็นระยะเวลา 6 ปี ที่รัฐมนตรี ฯ วินิจฉัยเพิ่มให้แก่โจทก์ไปแล้วเช่นกัน โจทก์ย่อมนำเงินทั้งสองจำนวนนี้ไปลงทุนแสวงหากำไรอันเป็นส่วนที่สามารถชดเชยผลประโยชน์ที่โจทก์คาดหมายว่าจะได้ผลผลิตในอนาคตระยะเวลาประมาณ 16 ปี ของต้นปาล์มน้ำมันทั้งหมดของโจทก์ที่ถูกเวนคืน ดังนั้นความเสียหายที่โจทก์ได้รับอันเนื่องมาจากต้นปาล์มน้ำมันของโจทก์ถูกเวนคืนกับความเสียหายเนื่องจากที่โจทก์ต้องออกจากอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเวนคืนรวมกันแล้วจึงไม่มากถึงจำนวนเงินที่โจทก์คำนวณกำไรคงที่จากผลผลิตของต้นปาล์มน้ำมันทั้งหมดของโจทก์ที่ถูกเวนคืนในระยะเวลา 16 ปี โจทก์ควรได้รับเงินค่าทดแทนส่วนนี้เพิ่มจากที่ฝ่ายจำเลยกำหนดไว้อีกเป็นจำนวนเท่ากับกำไรสุทธิจากผลผลิตต้นปาล์มน้ำมันต่อต้นต่อปีตามที่ฝ่ายจำเลยคำนวณไว้ของต้นปาล์มน้ำมันทั้งหมดที่ถูกเวนคืนในระยะเวลาอีก 2 ปี
โจทก์เป็นเพียงผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์เพื่อปลูกปาล์มน้ำมันในป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ต้องเสียค่าตอบแทนให้แก่ทางราชการ ทั้งไม่ใช่กรณีการเช่าตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 18 (3) และได้มีการกำหนดเงินค่าทดแทนความเสียหายเนื่องจากการที่โจทก์ต้องออกจากอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเวนคืนให้แก่โจทก์ตามมาตรา 21 วรรคท้ายแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าทดแทนเป็นค่าสละที่ดินตามข้ออ้างของโจทก์แยกต่างหากอีก
โจทก์เป็นเพียงผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์เพื่อปลูกปาล์มน้ำมันในป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ต้องเสียค่าตอบแทนให้แก่ทางราชการ ทั้งไม่ใช่กรณีการเช่าตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 18 (3) และได้มีการกำหนดเงินค่าทดแทนความเสียหายเนื่องจากการที่โจทก์ต้องออกจากอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเวนคืนให้แก่โจทก์ตามมาตรา 21 วรรคท้ายแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าทดแทนเป็นค่าสละที่ดินตามข้ออ้างของโจทก์แยกต่างหากอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดต่อค่าเสียหายจากการละเมิดของลูกจ้าง รวมถึงค่าเสียโอกาสในการทำกำไรจากการให้เช่า
รถยนต์บรรทุกของโจทก์ให้เช่าไม่ได้ เพราะการละเมิดของลูกจ้างจำเลยทำให้โจทก์ขาดผลกำไรจากการให้เช่าที่เคยได้รับ อันเป็นค่าเสียหายโดยตรงจากผลแห่งการที่ลูกจ้างจำเลยได้ละเมิดแก่โจทก์ ไม่ใช่ค่าเสียหายพิเศษจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดใช้ค่าเสียหายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนกรณีละเมิดทางร่างกาย ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียโอกาสในการทำงาน และค่าเสียหายจากการออกจากงาน
ในกรณีทำให้เสียหายแก่ร่างกายนั้น ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงาน และค่าเสียหายเพื่อการที่เสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วนทั้งในปัจจุบันและในเวลาอนาคตด้วย การที่โจทก์ต้องถูกออกจากราชการก่อนถึงกำหนดเกษียณอายุ เพราะเสียความสามารถประกอบการงาน ทำให้เสียอาชีพขาดประโยชน์ทำมาหาได้ตามปกติไป ต้องถือว่าเป็นค่าเสียหายตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ผู้ละเมิดจำต้องใช้ค่าเสียหายที่ขาดประโยชน์ทำมาหาได้นี้
ค่าสินไหมทดแทนในกรณีละเมิดจะพึงให้ใช้เพียงใด ศาลวินิจฉัยได้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
ค่าสินไหมทดแทนในกรณีละเมิดจะพึงให้ใช้เพียงใด ศาลวินิจฉัยได้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างและลูกจ้างในความเสียหายจากการขับรถประมาทเลินเล่อ และค่าเสียโอกาสในอาชีพ
คนขับรถยนต์ของมหาวิทยาลัยมีหน้าที่ขับรถยนต์รับและส่งนักเรียนและข้าราชการของมหาวิทยาลัยระหว่างมหาวิทยาลัยและที่ต่างๆ เมื่อขับไปชนรถยนต์อื่นโดยประมาทเลินเล่อ ในระหว่างทางที่ไปและกลับนั้นเป็นเหตุให้คนโดยสารในรถที่ถูกชนแขนหัก ดังนี้มหาวิทยาลัยผู้เป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับรถยนต์ ซึ่งเป็นลูกจ้างด้วย
ผู้โดยสารถูกรถชนแขนหักพิการก่อนแขนหักพิการ มีอาชีพในการถ่ายภาพยนต์และได้มีผู้ว่าจ้างไว้แล้ว เมื่อแขนหักพิการเขาจึงไม่จ้าง ดังนี้เป็นเรื่องเห็นได้ชัดว่าต้องขาดประโยชน์ทั้งปัจจุบันและอนาคต อันเป็นประโยชน์ชอบจะได้โดยตรง ฉะนั้น ผู้ขับรถยนต์ชนเขาและนายจ้าง ต้องรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวแล้วด้วย
ผู้โดยสารถูกรถชนแขนหักพิการก่อนแขนหักพิการ มีอาชีพในการถ่ายภาพยนต์และได้มีผู้ว่าจ้างไว้แล้ว เมื่อแขนหักพิการเขาจึงไม่จ้าง ดังนี้เป็นเรื่องเห็นได้ชัดว่าต้องขาดประโยชน์ทั้งปัจจุบันและอนาคต อันเป็นประโยชน์ชอบจะได้โดยตรง ฉะนั้น ผู้ขับรถยนต์ชนเขาและนายจ้าง ต้องรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวแล้วด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายผิดนัด: ดอกเบี้ยผิดสัญญาตามกฎหมาย และสิทธิเรียกร้องค่าเสียโอกาส
การซื้อขายโดยมีเงื่อนไขเมื่อผู้ชายส่งของให้ไม่ถูกตามสัญญา ผู้ซื้อไม่ยอมรับซื้อ แล้วจะเรียกเอาค่าเสียหายอันเปนผลกำไรซึ่งจะได้จากการใช้ของนั้นไม่ได้สัญญาซื้อขายไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้สำหรับการผิดสัญญา ต้องใช้อัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2567
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟ้องแย้งค่าเสียโอกาสทางธุรกิจจากสัญญาซื้อขายที่ดิน: มูลหนี้เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิมหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินรวม 7 โฉนด เนื่องจากจำเลยปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินตามสัญญาแปลงหนึ่งว่าไม่ได้อยู่ระหว่างการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งที่จำเลยยังมีคดีพิพาทกับเจ้าของที่ดินเดิมเกี่ยวกับที่ดินแปลงดังกล่าว อันเป็นการผิดคำรับรองที่ระบุไว้ในสัญญาจะซื้อจะขาย ขอให้จำเลยคืนเงินมัดจำและใช้เบี้ยปรับตามสัญญา จำเลยให้การว่า จำเลยแจ้งเรื่องข้อพิพาทระหว่างจำเลยกับเจ้าของที่ดินเดิมให้โจทก์ทราบแล้ว จำเลยไม่ได้ผิดสัญญา โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ไปรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเรียกเงินมัดจำ ค่าปรับหรือค่าเสียหายจากจำเลย และฟ้องแย้งว่าโจทก์ตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินดังกล่าวพร้อมอาคารสำนักงานขายและใบอนุญาตที่จำเลยได้รับอนุญาตให้จัดทำโครงการและก่อสร้างคอนโดมิเนียมจากจำเลย โครงการดังกล่าวจำเลยสร้างเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้า หากจำหน่ายหมดจะมีกำไร 283,160,000 บาท การที่โจทก์ผิดสัญญา ไม่ไปรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วไม่ส่งมอบพื้นที่และอาคารสำนักงานขายคืนแก่จำเลยในสภาพเดิมและโอนสิทธิใบอนุญาตกลับคืนให้จำเลย ทำให้จำเลยเสียโอกาสในทางธุรกิจ ขอให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนดังกล่าว สภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างอันอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามฟ้องแย้ง จึงเป็นเรื่องที่จำเลยอ้างว่าได้รับความเสียหายเป็นค่าเสียโอกาสในการทำธุรกิจที่จะได้กำไรจากการก่อสร้างและจำหน่ายห้องชุดด้วยตนเอง เพราะโจทก์ผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินฉบับเดียวกัน และโจทก์ทราบรายละเอียดโครงการของจำเลยมาตั้งแต่ต้น ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสาม