พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นรายการค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง: หลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วนไม่ถือว่าไม่ยื่นรายการ
การกระทำที่จะเป็นความผิดฐานไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายตามมาตรา 87 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 หมายถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตนสมัครรับเลือกตั้งภายในกำหนด 3 เดือนหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้ง หาได้หมายถึงการยื่นรายการค่าใช้จ่ายโดยหลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วนถูกต้องไม่ เมื่อจำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว แม้จำเลยไม่ได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็ไม่มีความผิดตามมาตรานี้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งโดยไม่ครบถ้วนไม่ถือเป็นความเท็จ ศาลฎีกายกฟ้อง
คดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาจำต้องฟัง ข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย การยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน หรือมีหลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วน ไม่ถือว่าเป็นการยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ เป็นเพียงการยื่นที่บกพร่องหรือไม่สมบูรณ์เท่านั้น ไม่มีบทบัญญัติกำหนดโทษไว้ลงโทษไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3436/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นค่าใช้จ่ายเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานไม่ถือเป็นเท็จตามกฎหมาย หากเป็นเพียงการยื่นเอกสารไม่สมบูรณ์
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 ไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติว่า การยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินหรือมีหลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วนตาม มาตรา 34(3) ให้ถือว่าการยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเท็จตาม มาตรา 87 ฉะนั้นการยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จที่จะต้องรับโทษตาม มาตรา 87 จึงหมายถึงการยื่นรายการค่าใช้จ่ายที่ไม่ตรงกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จำเลยได้จ่ายไปจริง การที่จำเลยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินตามรายการที่ยื่นไว้ให้ครบถ้วนตาม มาตรา 34 (3) เป็นการยื่นที่บกพร่องหรือไม่สมบูรณ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น ซึ่งไม่มีบทกำหนดโทษเอาไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3436/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นค่าใช้จ่ายเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐาน ไม่ถือเป็นความเท็จตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 ไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติว่า การยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินหรือมีหลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วนตาม มาตรา 34(3) ให้ถือว่าการยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเท็จตาม มาตรา 87 ฉะนั้นการยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จที่จะต้องรับโทษตาม มาตรา 87 จึงหมายถึงการยื่นรายการค่าใช้จ่ายที่ไม่ตรงกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จำเลยได้จ่ายไปจริง การที่จำเลยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินตามรายการที่ยื่นไว้ให้ครบถ้วนตาม มาตรา 34(3) เป็นการยื่นที่บกพร่องหรือไม่สมบูรณ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น ซึ่งไม่มีบทกำหนดโทษเอาไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2973/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งรายการค่าใช้จ่ายเลือกตั้งเป็นเท็จ ต้องมีหลักฐานสนับสนุนการกระทำความผิด โจทก์มีหน้าที่นำสืบพยาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 34, 87 แต่ตามคำบรรยายฟ้องเป็นเรื่องกล่าวหาว่าจำเลยซึ่งสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเท็จ และยืนยันความจริงว่าจำเลยมิได้ใช้จ่ายไปตามรายการที่แจ้งไว้เลย เพราะจำเลยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินมาแสดงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตามที่กฎหมายบังคับ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์มุ่งประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในฐานที่จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จเท่านั้น เมื่อจำเลยไม่ยอมรับว่ารายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ยื่นนั้นเป็นเท็จและโจทก์ไม่นำสืบพยานหลักฐานให้เห็นเป็นอย่างอื่น จึงไม่พอฟังว่ารายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จำเลยยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นเป็นเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10625/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าใช้จ่ายเลือกตั้งใหม่: จำเลยไม่ต้องชดใช้ หากการกระทำผิดไม่ได้เจตนาต่อการเลือกตั้ง
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 มาตรา 158 บัญญัติว่า "ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษผู้ใดฐานกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้และผู้นั้นเป็นผู้กระทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือเป็นผู้กระทำการใดอันเป็นเท็จเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือเพื่อไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั้งตามมาตรา 140 วรรคสอง อันเป็นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ในหน่วยเลือกตั้งหรือเขตเลือกตั้งใด ให้ศาลมีคำพิพากษาว่าผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งใหม่นั้นด้วย..." ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว จะเห็นได้ว่าผู้ที่กระทำความผิดตามมาตรา 158 จะต้องกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 แต่การที่จำเลยซึ่งได้รับการประกาศผลตามกฎหมายให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาแล้วแต่จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ จนกระทั่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลงโทษและให้จำเลยพ้นจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นผลทำให้ตำแหน่งวุฒิสภาว่างลงและโจทก์ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ก็ตามซึ่งเป็นกรณีที่จำเลยกระทำการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้เป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 แต่อย่างใด เมื่อกฎหมายได้บัญญัติถึงกรณีที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งใหม่เป็นการเฉพาะดังกล่าวข้างต้นแล้ว การที่จะนำบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 420 มาใช้บังคับ ก็ต้องได้ความชัดว่า จำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมาย การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความ กฎหมายกำหนดให้จำเลยยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มิได้มีบทบังคับให้จำเลยต้องยื่นต่อโจทก์ ส่วนการที่โจทก์ต้องเสียงบประมาณจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็เป็นผลแห่งคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ให้จำเลยพ้นจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา จำเลยมิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ที่จะทำให้โจทก์ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการเลือกตั้งใหม่แต่อย่างใด