พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ค้างจ่ายเกิน 5 ปี ทำให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมาย
โจทก์แถลงขอรับเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลสั่งคืน ศาลมีคำสั่งอนุญาต แต่โจทก์ไม่มารับ แสดงว่าเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลสั่งอนุญาตให้คืนแก่โจทก์ยังค้างจ่ายอยู่ในศาล โจทก์มาแถลงขอรับเงินดังกล่าวอีกเมื่อพ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์รับไป เงินดังกล่าวจึงตกเป็นของแผ่นดินไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 323
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ค้างจ่ายเกิน 5 ปี ทำให้ตกเป็นของแผ่นดิน
โจทก์แถลงขอรับเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลสั่งคืนตามคำพิพากษาตามยอม ศาลมีคำสั่งอนุญาต แต่โจทก์ไม่มารับ จึงเป็นเงินที่ยังค้างจ่ายอยู่ในศาล โจทก์มาแถลงขอรับอีกครั้งเมื่อพ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์รับไป เงินดังกล่าวจึงตกเป็นของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 323
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินค่าฤชาธรรมเนียมค้างจ่ายเกิน 5 ปี ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมาย
โจทก์แถลงขอรับเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลสั่งคืน ศาลมีคำสั่งอนุญาต แต่โจทก์ไม่มารับ แสดงว่าเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ ศาลสั่งอนุญาตให้คืนแก่โจทก์ยังค้างจ่ายอยู่ในศาล โจทก์มาแถลง ขอรับเงินดังกล่าวอีกเมื่อพ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่ศาลสั่งอนุญาต ให้โจทก์รับไป เงินดังกล่าวจึงตกเป็นของแผ่นดินไปแล้วตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 323.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3042/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าจ้าง: การคำนวณเริ่มจากวันสิ้นเดือนที่ค้างจ่าย ไม่ใช่แค่วันออกจากงาน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือนหมายความว่าหากไม่จ่ายค่าจ้างของเดือนใด นับแต่วันสิ้นเดือนนั้นโจทก์อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้อง ให้จำเลยจ่ายค่าจ้างได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 169 อายุความเรียกร้องค่าจ้างมีกำหนด 2 ปี ตามมาตรา 165(9) โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างค้างจ่ายเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2531 ค่าจ้างค้างจ่ายเดือนสุดท้ายที่โจทก์อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องได้ย้อนหลังไป 2 ปี คือค่าจ้างเดือนมีนาคม 2529 ค่าจ้างนอกจากนั้นขาดอายุความ
พ. กรรมการบริษัทจำเลยเบิกความต่อศาลแรงงานกลางว่า จำเลยค้างค่าจ้างโจทก์ตั้งแต่ปลายปี 2527 เป็นเพียงการเบิกความในฐานะพยานจำเลยจึงไม่ใช่เป็นการรับสภาพหนี้อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172.
พ. กรรมการบริษัทจำเลยเบิกความต่อศาลแรงงานกลางว่า จำเลยค้างค่าจ้างโจทก์ตั้งแต่ปลายปี 2527 เป็นเพียงการเบิกความในฐานะพยานจำเลยจึงไม่ใช่เป็นการรับสภาพหนี้อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลค้างจ่าย ผู้มีสิทธิไม่เรียกภายใน 5 ปี ตกเป็นของแผ่นดิน
จำเลยนำเงินมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์เป็นงวด ๆ ตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์มีสิทธิมารับเงินแต่ละงวดได้ทันทีหลังจากจำเลยนำเงินมาวาง เมื่อโจทก์ไม่มารับเงินงวดใดเงินงวดนั้น ๆ ก็เป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาล การที่โจทก์เพิกเฉยไม่เรียกเอาเสียภายในห้าปีนับแต่วันที่จำเลยนำเงินมาวางศาลเงินงวดนั้น ๆ จึงตกเป็นของแผ่นดิน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินค่าขึ้นศาลค้างจ่าย: ผู้รับสิทธิต้องเรียกรับเงินหรือนำเช็คไปขึ้นเงินภายใน 5 ปี มิฉะนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
ป.วิ.พ. มาตรา 323 บัญญัติว่า "บรรดาเงินต่างๆ ที่ค้างจ่ายอยู่ในศาลหรือที่เจ้าพนักงานบังคับคดี ถ้าผู้มีสิทธิมิได้เรียกเอาภายในห้าปี ให้ตกเป็นของแผ่นดิน" เมื่อพิจารณาคำว่า "เรียกเอา" ประกอบกับคำว่า "บรรดาเงินต่างๆ ที่ค้างจ่ายอยู่ในศาล" แล้วเป็นที่เข้าใจได้ว่าผู้มีสิทธิรับเงินจะต้องเรียกเอาเงินหรือขอรับเงินที่ตนมีสิทธิจะได้รับจากศาลและต้องมารับเงินตามที่เรียกหรือขอด้วย หรือในกรณีที่ศาลออกเช็คแทนการจ่ายเป็นเงินสดผู้มีสิทธิรับเงินก็ต้องนำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารหากผู้มีสิทธิรับเงินเพียงแต่แถลงขอรับเงินจากศาลแต่ไม่มารับเงินตามที่ขอ หรือมิได้นำเช็คที่ศาลออกให้ไปเรียกเก็บเงินจากธนาคาร เงินที่ศาลจะต้องจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิดังกล่าวจะยังคงอยู่ที่ศาลและถือเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาลตามบทบัญญัติดังกล่าว
โจทก์ยื่นคำบอกกล่าวขอถอนฟ้องพร้อมกับยื่นคำแถลงขอรับเงินค่าขึ้นศาลที่ศาลสั่งคืนเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2542 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องในวันเดียวกันและสั่งคืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์ 57,100 บาท โดยศาลชั้นต้นได้คืนเงินค่าขึ้นศาลให้โจทก์เป็นเช็ค แต่โจทก์มิได้มารับเช็คภายใน 1 ปี ศาลชั้นต้นจึงยกเลิกเช็คดังกล่าว เงินค่าขึ้นศาลสั่งคืนจึงเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาล การที่โจทก์ยื่นคำแถลงขอรับเงินค่าขึ้นศาลสั่งคืนแต่มิได้มารับเช็คค่าขึ้นศาลที่ศาลออกให้ไปเรียกเก็บเงินจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกเอาเงินดังกล่าวแล้ว และการที่ศาลชั้นต้นออกเช็คค่าขึ้นศาลให้โจทก์ก็ไม่มีผลทำให้เงินค่าขึ้นศาลสิ้นสภาพจากการเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาล
โจทก์ยื่นคำบอกกล่าวขอถอนฟ้องพร้อมกับยื่นคำแถลงขอรับเงินค่าขึ้นศาลที่ศาลสั่งคืนเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2542 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องในวันเดียวกันและสั่งคืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์ 57,100 บาท โดยศาลชั้นต้นได้คืนเงินค่าขึ้นศาลให้โจทก์เป็นเช็ค แต่โจทก์มิได้มารับเช็คภายใน 1 ปี ศาลชั้นต้นจึงยกเลิกเช็คดังกล่าว เงินค่าขึ้นศาลสั่งคืนจึงเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาล การที่โจทก์ยื่นคำแถลงขอรับเงินค่าขึ้นศาลสั่งคืนแต่มิได้มารับเช็คค่าขึ้นศาลที่ศาลออกให้ไปเรียกเก็บเงินจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกเอาเงินดังกล่าวแล้ว และการที่ศาลชั้นต้นออกเช็คค่าขึ้นศาลให้โจทก์ก็ไม่มีผลทำให้เงินค่าขึ้นศาลสิ้นสภาพจากการเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาล