พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2548 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต การนับโทษต่อจากคดีก่อนหน้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในวันเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจเฝ้าดักจับจำเลยทั้งสองได้ขณะจำเลยทั้งสองขับรถถึงด่านเก็บเงิน และนำไปตรวจค้นพบเฮโรอีน 14 ถุง ต่อมาจึงได้นำจำเลยที่ 1 ไปตรวจค้นที่บ้านพักและพบเฮโรอีนอีกส่วนหนึ่ง แต่ได้มีการสอบสวนโดยแยกสำนวนจากกันเนื่องจากเป็นความผิดคนละกรรมและที่เกิดเหตุอยู่คนละท้องที่ ความผิดของจำเลยที่ 1 ทั้งสองสำนวนจึงเกี่ยวพันที่อาจถูกฟ้องคดีเดียวกันและอาจพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ เมื่อคดีหนึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต การที่ศาลล่างพิพากษาให้นับโทษจำคุกคดีนี้ต่อจากคดีดังกล่าว จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลฎีกามีอำนาจที่จะแก้ไขให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2548 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษคดีอาญาที่เกี่ยวพันกัน: ศาลแก้ไขการนับโทษต่อจากโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นไปตามกฎหมาย
วันเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจเฝ้าดักจับจำเลยทั้งสองได้ขณะที่จำเลยทั้งสองขับรถถึงด่านเก็บเงินอินทร์บุรี และนำไปตรวจค้นพบเฮโรอีน 14 ถุง ต่อมาได้นำจำเลยที่ 1 ไปตรวจค้นที่บ้านพักและพบเฮโรอีนอีกส่วนหนึ่ง แต่มีการสอบสวนโดยแยกสำนวนจากกันเนื่องจากเป็นความผิดคนละกรรมและที่เกิดเหตุอยู่คนละท้องที่ กรณีความผิดของจำเลยที่ 1 ทั้งสองสำนวนจึงเกี่ยวพันที่อาจถูกฟ้องคดีเดียวกันและอาจพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ เมื่อคดีหนึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต การที่ศาลพิพากษาให้นับโทษจำคุก 25 ปี ในคดีนี้ต่อจากศาลดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2548
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกในคดีเกี่ยวพันกัน เมื่อคดีหนึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต ศาลมีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ในวันเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจเฝ้าดักจับจำเลยทั้งสองได้ขณะจำเลยทั้งสองขับรถถึงด่านเก็บเงินที่เกิดเหตุ และนำไปตรวจค้นพบเฮโรอีน 14 ถุง ต่อมาจึงนำจำเลยที่ 1 ไปตรวจค้นที่บ้านพักและพบเฮโรอีนอีกส่วนหนึ่ง แต่มีการสอบสวนโดยแยกสำนวนจากกันเนื่องจากเป็นความผิดคนละกรรมและที่เกิดเหตุอยู่คนละท้องที่ กรณีความผิดของจำเลยที่ 1 ทั้งสองสำนวนจึงเกี่ยวพันที่อาจถูกฟ้องคดีเดียวกันและอาจพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ เมื่อคดีหนึ่งศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกตลอดชีวิต การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้นับโทษจำคุกคดีนี้ต่อจากคดีดังกล่าว จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะแก้ไขให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8131/2548
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมโทษจำคุกตลอดชีวิตกับโทษจำคุกมีกำหนดเวลา ต้องพิจารณาโทษที่แท้จริงหลังลดโทษแล้ว
คำว่า "เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต" ตาม ป.อ. มาตรา 91 (3) นั้น หมายความว่า หากความผิดกระทงใดกระทงหนึ่งมีโทษที่จะลงแก่จำเลยจริงๆ เป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้ว เมื่อนำเอาโทษจำคุกที่มีกำหนดเวลาในกระทงอื่นมารวม ศาลคงลงโทษจำเลยได้เพียงจำคุกตลอดชีวิตอย่างเดียวเท่านั้น แต่คดีนี้โทษจำคุกตลอดชีวิตของจำเลยทั้งสองในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายที่ศาลล่างทั้งสองนำมารวมกับโทษที่มีกำหนดเวลาในกระทงอื่นนั้น มิใช่โทษจำคุกตลอดชีวิตที่จะนำมาลงแก่จำเลยทั้งสองจริงๆ เนื่องจากยังจะต้องมีการลดโทษให้จำเลยทั้งสองกึ่งหนึ่ง ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองนำโทษจำคุกตลอดชีวิตของจำเลยทั้งสองในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และโทษจำคุก 12 ปี และ 8 ปี ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนมารวมกันแล้ว คงให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิตก่อนลดโทษให้จำเลยทั้งสองนั้น จึงไม่ชอบด้วย ป.อ. มาตรา 91 (3) แต่เนื่องจากโจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาขอให้รวมโทษจำเลยทั้งสองให้ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงไม่อาจแก้ไขในเรื่องดังกล่าวได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8492/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษหลายกระทงความผิดอาญา และข้อจำกัดในการเพิ่มโทษเมื่อมีโทษจำคุกตลอดชีวิต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 277 วรรคแรกและวรรคสาม, 317 วรรคสาม เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 91 ฐานพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีเพื่อการอนาจาร จำคุกกระทงละ 8 ปี รวม 2 กระทงจำคุก 16 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน จำคุก 10 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยใช้อาวุธ จำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ตาม ป.อ. มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีเพื่อการอนาจาร คงจำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 8 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน คงจำคุก 5 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยใช้อาวุธ คงจำคุก 25 ปี รวมจำคุก 38 ปี เมื่อวางโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้ว จึงไม่อาจเพิ่มโทษจำเลยได้ ยกคำขอให้เพิ่มโทษ นั้น ยังไม่ถูกต้อง เนื่องจากในการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิด? ตาม ป.อ. มาตรา 91 เมื่อจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน การเพิ่มโทษจำเลยต้องเพิ่มทุกกระทงของความผิด เว้นแต่ในความผิดฐานใดที่ศาลลงโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกเกินห้าสิบปี ตาม ป.อ. มาตรา 51 ที่ศาลชั้นต้นยกคำขอเพิ่มโทษและศาลอุทธรณ์ภาค 6 ไม่ได้วินิจฉัยและแก้ไขในส่วนนี้เป็นการไม่ชอบ แต่โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์และฎีกาในปัญหาดังกล่าว ศาลฎีกาจึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212, 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2806/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษประหารชีวิตในคดีเมทแอมเฟตามีน: ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตเหมาะสม
ป.อ. มาตรา 52 (2) บัญญัติว่า ในการลดโทษประหารชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษที่จะลง ถ้าจะลดกึ่งหนึ่ง ให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษจำคุกตั้งแต่ 25 ปี ถึง 50 ปี ดังนั้น จึงเป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่อง ๆ ไปว่าสมควรจะลดโทษเพียงใด คดีนี้จำเลยกับพวกกระทำความผิดโดยร่วมกันนำเมทแอมเฟตามีนจำนวน 490,000 เม็ด น้ำหนัก 48,564.1 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 12,275.86 กรัม เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายและร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวได้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นต้นเหตุทำให้ยาเสพติดให้โทษชนิดดังกล่าวแพร่ระบาดสู่ประชาชน และทำให้ประชาชนตกเป็นทาสของยาเสพติดให้โทษเพิ่มมากขึ้น ลักษณะของความผิดถือว่าเป็นภัยร้ายแรง สามารถทำลายทรัพยากรมนุษย์ และบั่นทอนความสงบสุขของสังคมโดยส่วนรวม ประกอบกับเมทแอมเฟตามีนของกลางมีจำนวนมาก ทั้งมีแหล่งที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งโดยปกติย่อมยากแก่การจับกุมปราบปรามของเจ้าพนักงานอยู่แล้ว พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจลดโทษประหารชีวิตให้จำเลยกึ่งหนึ่งโดยให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว
การใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี และสภาพความผิดนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวของจำเลยแต่ละคนในแต่ละคดี จะถือเอาคำพิพากษาคดีอื่นมาเป็นแนวทางในการกำหนดโทษของจำเลยคดีนี้หาได้ไม่
การใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี และสภาพความผิดนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวของจำเลยแต่ละคนในแต่ละคดี จะถือเอาคำพิพากษาคดีอื่นมาเป็นแนวทางในการกำหนดโทษของจำเลยคดีนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12477/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด: ศาลฎีกาพิพากษาว่าการลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตเหมาะสมกับพฤติการณ์ร้ายแรงของคดี
ตาม ป.อ. มาตรา 52 (2) ในการลดโทษประหารชีวิตถ้าจะลดกึ่งหนึ่ง ให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ 25 ปี ถึง 50 ปี ซึ่งศาลจะเห็นสมควรลดโทษให้เพียงใดเป็นดุลพินิจของศาล ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดว่าร้ายแรงหรือไม่เพียงใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยเจตนา: ศาลฎีกาแก้ไขโทษจากประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน
จำเลยเดินทางมาที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้เพื่อฟังการพิจารณาคดี โดยเก็บอาวุธปืนไว้ในรถยนต์ จำเลยกับผู้ตายมีเรื่องขึ้นโรงศาลหลายครั้งหลายหน แต่จำเลยไม่ได้ตระเตรียมหรือไตร่ตรองไว้ก่อนว่าจะมาดักฆ่าผู้ตายที่บริเวณที่เกิดเหตุในที่ชุมนุมชนกลางใจเมืองในกรุงเทพมหานคร ยังไม่พอฟังว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) คงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายทั้งสองโดยเจตนาตามมาตรา 288 มิได้เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนดังที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาและศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขและลงโทษจำเลยในความผิดดังกล่าวตามที่พิจารณาได้ความได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้ายประกอบมาตรา 185 วรรคสอง มาตรา 195 วรรคสอง และมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10815/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดียาเสพติด: การพิจารณาโทษสามเท่าและข้อยกเว้นเมื่อโทษจำคุกตลอดชีวิต
แม้การกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ต้องด้วย พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง , 66 วรรคสอง และ พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 10 ต้องระวางโทษหนังขึ้นเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้ในมาตรา 66 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ก็ตาม แต่โทษตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง บัญญัติไว้ให้จำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต เมื่อลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้ว ซึ่งก็ไม่อาจวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 10 ได้ ทั้งไม่อาจนำมาตรา 10 แห่งบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวมาปรับด้วยได้ จำเลยที่ 2 คงมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง , 66 วรรคสอง เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต: พิจารณาจากความร้ายแรงแห่งคดี
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52(2) ในการลดโทษประหารชีวิตถ้าจะลดกึ่งหนึ่งให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษจำคุกตั้งแต่ 25 ปีถึง 50 ปี ซึ่งศาลจะลดโทษให้เพียงใดเป็นดุลพินิจของศาล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดว่าร้ายแรงหรือไม่เพียงใด เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยที่ 1เป็นภริยาผู้ตายสมคบกับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ฆ่าผู้ตายแล้วยังใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาศพผู้ตายเพื่อปิดบังซ่อนเร้นการตาย พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นการกระทำความผิดร้ายแรงและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจลดโทษให้จำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่งจากโทษประหารชีวิตเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตนั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว