พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7510/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์ การลงลายมือชื่อในสัญญาซื้อขายผูกพันโจทก์ จำเลยต้องชำระหนี้
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความพิมพ์ไว้ชัดจำเลยที่1มิได้นำสืบพิสูจน์หักล้างว่าหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้เพิ่งทำภายหลังที่มีการทำสัญญาซื้อขายแล้วลงวันที่ย้อนหลังไปแม้โจทก์ไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวไปแสดงต่อจำเลยในวันที่ทำสัญญาซื้อขายก็ไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือมีกฎหมายกำหนดว่าให้โจทก์ต้องแสดงต่อจำเลยในวันทำสัญญาจึงฟังได้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้บ. ดำเนินการแทนโจทก์ตามที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจนั้นการที่บ.ลงลายมือชื่อเป็นผู้ขายในสัญญาซื้อขายซึ่งมีตราของโจทก์ประกันก็เท่ากับบ.เป็นตัวแทนของโจทก์ส่วนที่บ.ลงลายมือชื่อในฐานะเป็นผู้มอบอำนาจกับในฐานะเป็นผู้รับมอบอำนาจโดยมีท.เป็นกรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจก็หาใช่ว่ากรรมการของโจทก์ไม่ครบ2คนตามที่จดทะเบียนไว้ไม่ส่วนการที่โจทก์มีกรรมการถึง6คนแล้วให้บ.ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจในฐานะเป็นผู้มอบอำนาจกับเป็นผู้รับมอบอำนาจรวม2ตำแหน่งก็มิใช่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายแต่ประการใดและพฤติการณ์ดังนี้ก็ไม่อาจถือว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทน: แม้โจทก์ผิดสัญญา ส่งผ้าไม่ครบ/ล่าช้า จำเลยก็ต้องชำระค่าผ้าที่รับไป
จำเลยให้การว่า โจทก์ผิดสัญญาส่งผ้าให้แก่จำเลยล่าช้าและไม่ครบจำนวนตามสัญญา ทำให้จำเลยเสียหาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับจำเลยให้ชดใช้ราคาค่าผ้าที่โจทก์ส่งมอบให้แก่จำเลยตามฟ้องจำเลยอุทธรณ์ว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนเมื่อโจทก์ชำระหนี้ไม่ถูกต้องครบถ้วนในเวลาที่กำหนดไว้ จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตอบแทน ดังนี้ แม้คำให้การดังกล่าวจำเลยจะไม่ได้ให้การให้ปรากฏถ้อยคำว่า "สัญญาต่างตอบแทน" ไว้ด้วย แต่ก็มีความหมายอยู่ในตัวแล้วว่า สัญญาซื้อขายผ้าตามฟ้องเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์ไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาจำเลยจึงไม่มีหน้าที่ชำระราคาเป็นการตอบแทน ข้ออุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวกับคำให้การจำเลยเป็นเรื่องเดียวกันและเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้จึงไม่ชอบ แต่เมื่อจำเลยได้ยกประเด็นดังกล่าวเป็นข้อฎีกาขึ้นมาแล้วศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาตามประเด็นข้อนี้เสียเอง โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยเกินกฎหมายทำให้ดอกเบี้ยเป็นโมฆะ จำเลยต้องชำระต้นเงินกู้
จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์โดยโจทก์จำเลยตกลงให้มีการคิดดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ดอกเบี้ยสำหรับต้นเงินกู้จึงตกเป็นโมฆะทั้งหมด จำเลยไม่มีสิทธินำดอกเบี้ยที่ชำระให้โจทก์ไปแล้วซึ่งตกเป็นโมฆะนั้นไปหักกับต้นเงินให้ลดน้อยลงไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 407 เมื่อจำเลยยังไม่ได้ชำระต้นเงิน จำเลยจึงยังต้องรับผิดชำระต้นเงินให้แก่โจทก์.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1487/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียม: ผลผูกพันจนคดีถึงที่สุด แม้จำเลยชำระหนี้แล้ว
ศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 253ย่อมมีผลอยู่จนคดีถึงที่สุด แม้ต่อมาศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ก็ตาม แต่เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุดโจทก์ก็ต้องวางเงินตามที่ศาลกำหนด