คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำเลยหลบหนี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7561/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาต้องเปิดเผยต่อจำเลย หากจำเลยหลบหนี ศาลไม่อาจดำเนินกระบวนการลับหลังได้
ในคดีอาญา การพิจารณาและสืบพยานไม่ว่าในชั้นสืบพยานโจทก์หรือพยานจำเลยจะต้องทำโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย เว้นแต่ศาลจะอนุญาตให้จำเลยไม่มาฟังการพิจารณาและการสืบพยานนั้นได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 172 ทวิ
เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ถือว่าจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี และให้ออกหมายจับจำเลยแล้วศาลชั้นต้นก็ไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใดลับหลังจำเลยได้อีกต่อไปการที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโดยให้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานและเป็นอันหมดพยานจำเลย คดีเสร็จการพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษา กับได้มีคำพิพากษาคดีไป จึงเป็นการไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 172 วรรคหนึ่ง ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความมิได้ฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 195 ประกอบมาตรา225 ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาในขั้นตอนการสืบพยานจำเลยแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิโจทก์ถอนฟ้องคดีความผิดต่อส่วนตัวก่อนคดีถึงที่สุด แม้จำเลยหลบหนี
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง ก่อนสอบคำให้การจำเลยที่ ๑ หลบหนี ศาลชั้นต้นออกหมายจับและสั่ง จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ ๑ ชั่วคราว ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสอง จำเลยที่ ๒ ไม่คัดค้าน เมื่อคดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว โจทก์จะถอนฟ้องในเวลาใด ก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ แม้จำเลยที่ ๑ ยังมิได้ให้การ และอยู่ระหว่าง หลบหนี เมื่อไม่มีการคัดค้าน ศาลฎีกาก็อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลย ทั้งสองได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙(๒) จำหน่ายคดีจาก สารบบความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดสัญญาประกันตัว จำเลยหลบหนี ศาลสั่งปรับตามสัญญา และคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด
ผู้ประกันผิดสัญญาประกันและศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันแล้ว การที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายเวลาส่งตัวจำเลยที่ 2 ไป หรือลดค่าปรับลงโดยขอผ่อนชำระค่าปรับเป็นรายเดือน แต่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งบังคับตามสัญญาประกันตาม ป.วิ.อ. มาตรา 119ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อ. (ฉบับที่ 17)พ.ศ. 2532 มาตรา 4 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ประกันจึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ได้ เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวบัญญัติไว้ว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2225/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกันตามสัญญาประกัน กรณีจำเลยหลบหนี และการยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีที่ไม่ถูกต้อง
กรณีมีอุบัติเหตุรถยนต์ติดหล่มเดินทางไปยังศาลที่พิจารณาคดีไม่ทัน ผู้ประกันมีสิทธิยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีและผัดการส่งตัวจำเลยต่อศาลที่ผู้ประกันอยู่ในเขตในขณะนั้นโดยอาศัย ป.วิ.พ.มาตรา 10 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 ได้ แต่การที่ผู้ประกันยื่นคำร้องต่อศาลที่ผู้ประกันอยู่ในเขตขณะเกิดเหตุ เมื่อเวลา 13.40นาฬิกา ซึ่งล่วงเลยเวลานัดไปแล้ว โดยไม่ปรากฏเหตุผลว่าการเดินทางต่อไปยังศาลชั้นต้นคดีนี้ต้องใช้เวลามากกว่าหรือยากลำบากกว่าเพียงใด ผู้ประกันจึงไม่อาจนำจำเลยไปแสดงตัวต่อศาลชั้นต้นคดีนี้ได้ ทั้งยังปรากฏต่อมาว่าเมื่อศาลชั้นต้นที่พิจารณาคดีเลื่อนการพิจารณาไปเป็นวันอื่น ผู้ประกันก็ส่งตัวจำเลยตามสัญญาประกันไม่ได้ แม้ภายหลังจากที่ศาลสั่งปรับผู้ประกันฐานผิดสัญญาประกันแล้ว ผู้ประกันก็มิได้นำส่งตัวจำเลยต่อศาลเพื่อขอลดค่าปรับหรือบรรเทาผลร้ายอีก เช่นนี้เชื่อได้ว่าจำเลยหลบหนีไม่มาศาลชั้นต้นตามกำหนดนัดตั้งแต่วันที่อ้างว่ามีอุบัติเหตุแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกันเมื่อจำเลยหลบหนี แม้ศาลยกฟ้อง
การที่ผู้ประกันไม่สามารถส่งตัวจำเลยต่อศาลได้ภายในเวลาที่ศาลกำหนด จนศาลได้มีคำสั่งปรับนายประกันและออกหมายจับจำเลยไปแล้ว ครั้นเมื่อศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ผู้ประกันก็ไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ เป็นเหตุให้ศาลต้องเลื่อนการอ่านไปและออกหมายจับจำเลยอีก ต่อมาเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยไปแล้ว โดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ ผู้ประกันจึงเพิ่งนำตัวจำเลยมาส่งศาลและขอลดค่าปรับ พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเจตนาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาแม้ศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ก็ไม่ทำให้ผู้ประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกันไปได้ เพราะผลของคำพิพากษาไม่เป็นเหตุที่จะนำมาประกอบการพิจารณาว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันหรือไม่ ทั้งการไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาพิจารณาพิพากษาไม่ว่าจำเลยจะต้องถูกลงโทษหรือไม่ก็ตาม ย่อมทำให้เสียหายแก่การยุติธรรม จึงไม่มีเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัย: ความรับผิดของผู้ประกันเมื่อจำเลยหลบหนีไม่มาศาล แม้ศาลยกฟ้อง
ผู้ประกันไม่สามารถส่งตัวจำเลยต่อศาลได้ภายในเวลาที่ศาลกำหนด จนศาลได้มีคำสั่งปรับผู้ประกันและออก หมายจับจำเลยไปแล้ว ครั้นเมื่อศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาผู้ประกันก็ไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ เป็นเหตุให้ศาลต้องเลื่อนการอ่านไปและออก หมายจับจำเลยอีก ต่อมาเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยไปแล้ว โดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ผู้ประกันจึงเพิ่งนำตัวจำเลยมาส่งศาลและขอลดค่าปรับพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเจตนาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา แม้ศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ ก็ไม่ทำให้ผู้ประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกันไปได้เพราะผลของคำพิพากษาไม่เป็นเหตุที่จะนำมาประกอบการพิจารณา ว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันหรือไม่ ทั้งการไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาพิจารณา พิพากษาไม่ว่าจำเลยจะต้องถูกลงโทษหรือไม่ก็ตามย่อมทำให้เสียหายแก่การยุติธรรม ทั้งผู้ประกันนำจำเลยมาส่งศาลหลังจากที่ศาลได้ออก หมายจับจำเลยไปแล้วนานถึงแปดเดือนเศษและเป็นเวลาภายหลังจากที่ทราบผลคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกันตามสัญญาประกันเมื่อจำเลยหลบหนีและไม่มาศาล แม้ศาลฎีกายกฟ้อง
การที่ผู้ประกันไม่สามารถส่งตัวจำเลยต่อศาลได้ภายในเวลาที่ศาลกำหนด จนศาลได้มีคำสั่งปรับนายประกันและออกหมายจับจำเลยไปแล้ว ครั้นเมื่อศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ผู้ประกันก็ไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ เป็นเหตุให้ศาลต้องเลื่อนการอ่านไปและออกหมายจับจำเลยอีก ต่อมาเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยไปแล้ว โดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ ผู้ประกันจึงเพิ่งนำตัวจำเลยมาส่งศาลและขอลดค่าปรับ พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเจตนาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา แม้ศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ก็ไม่ทำให้ผู้ประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกันไปได้ เพราะผลของคำพิพากษาไม่เป็นเหตุที่จะนำมาประกอบการพิจารณาว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันหรือไม่ ทั้งการไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาพิจารณาพิพากษาไม่ว่าจำเลยจะต้องถูกลงโทษหรือไม่ก็ตาม ย่อมทำให้เสียหายแก่การยุติธรรม จึงไม่มีเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกันเมื่อจำเลยหลบหนี - แม้ศาลยกฟ้อง ก็ไม่ปลดเปลื้องความรับผิด
การที่ผู้ประกันไม่สามารถส่งตัวจำเลยต่อศาลได้ภายในเวลาที่ศาลกำหนด จนศาลได้มีคำสั่งปรับนายประกันและออกหมายจับจำเลยไปแล้ว ครั้นเมื่อศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ผู้ประกันก็ไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ เป็นเหตุให้ศาลต้องเลื่อนการอ่านไปและออกหมายจับจำเลยอีก ต่อมาเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยไปแล้ว โดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ ผู้ประกันจึงเพิ่งนำตัวจำเลยมาส่งศาลและขอลดค่าปรับ พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเจตนาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาแม้ศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ก็ไม่ทำให้ผู้ประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกันไปได้ เพราะผลของคำพิพากษาไม่เป็นเหตุที่จะนำมาประกอบการพิจารณาว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันหรือไม่ ทั้งการไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาพิจารณาพิพากษาไม่ว่าจำเลยจะต้องถูกลงโทษหรือไม่ก็ตาม ย่อมทำให้เสียหายแก่การยุติธรรม จึงไม่มีเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2011/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดตามสัญญาประกัน กรณีจำเลยหลบหนีไม่มาศาล ผู้ประกันต้องรับผิดแม้ศาลให้ปล่อยตัว
ผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพราะจำเลยหลบหนี ศาลชั้นต้นจึงปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกัน แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ปล่อยตัวจำเลย ก็มิใช่เหตุที่ทำให้ผู้ประกันไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันเพราะความรับผิดตามสัญญาประกันเกิดจากการผิดสัญญาประกัน เมื่อผู้ประกันผิดสัญญาประกันก็หาพ้นความรับผิดไม่ ส่วนผลของคำพิพากษาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่ช่วยให้ผู้ประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2011/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกันจากการที่จำเลยหลบหนีไม่มาศาล แม้ศาลมีคำพิพากษาปล่อยตัว ก็ยังต้องรับผิดตามสัญญาประกัน
ผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพราะจำเลยหลบหนี ศาลชั้นต้นจึงปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกันแม้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ปล่อยตัวจำเลยก็มิใช่เหตุที่ทำให้ผู้ประกันไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันเพราะความรับผิดตามสัญญาประกันเกิดจากการผิดสัญญาประกันเมื่อผู้ประกันผิดสัญญาประกันก็หาพ้นความรับผิดไม่ ส่วนผลของคำพิพากษาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่ช่วยให้ผู้ประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกัน.
of 4