คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำเลยแพ้คดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำท้าทางกฎหมาย: ผลการรังวัดที่ดินพิพาทเป็นไปตามคำท้า จำเลยต้องแพ้คดี
ปัญหาตามที่จำเลยฎีกาว่าการรังวัดทำแผนที่พิพาทของเจ้าพนักงานที่ดินไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมที่ดิน จึงไม่เป็นไปตามคำท้านั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ได้วินิจฉัยไว้ครบถ้วนชัดแจ้งและโดยชอบแล้วว่าศาลชั้นต้นบันทึกสรุปใจความการสอบถามถ้อยคำของ ธ. ช่างรังวัดอ่านให้ทุกฝ่ายฟัง และ ธ. ลงชื่อไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้ว กรณีจึงเชื่อได้ว่าศาลชั้นต้นจดบันทึกครบตามคำแถลงของ ธ. แล้ว และจากแผนที่พิพาทที่ ธ. ทำมาปรากฏว่าที่ดินที่จำเลยนำชี้ว่าเป็นของจำเลยนั้นรุกล้ำเข้ามาในทางสาธารณะ จึงเป็นไปตามคำท้า จำเลยจึงต้องแพ้คดีดังนั้น ปัญหาตามฎีกาของจำเลยจึงเป็นปัญหาอันไม่ควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6032/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างสัญญาประกันชีวิตเนื่องจากปกปิดการเจ็บป่วยเกิน 1 เดือน ทำให้จำเลยแพ้คดี
โรงพยาบาลอุดรธานีได้ถ่ายสำเนาประวัติการรักษาตัวของบ.มอบให้ก.และก.ได้รายงานแจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ของจำเลยที่1เมื่อวันที่16พฤศจิกายน2533ซึ่งตามรายงานดังกล่าวระบุว่าจากการตรวจสอบเชื่อได้ว่าบ.มีสุขภาพไม่สมบูรณ์ก่อนทำประกันอย่างแน่นอนและป่วยเป็นมะเร็งทั้งตามหนังสือบอกล้างสัญญาประกันชีวิตจำเลยที่1ก็อ้างว่าแพทย์เคยวินิจฉัยว่าบ. ป่วยเป็นโรคมะเร็งของท่อน้ำดีจำเลยที่1ย่อมมีเหตุควรรู้ได้แล้วว่าบ. เคยป่วยเป็นโรคมะเร็งและเคยได้รับการตรวจรักษามาแล้วแต่บ. ปกปิดความจริงดังกล่าวฉะนั้นจึงฟังได้ว่าจำเลยที่1ได้รู้มูลเหตุที่จะบอกล้างสัญญาประกันชีวิตตั้งแต่วันที่16พฤศจิกายน2533ที่จำเลยที่1ได้รับรายงานของก. แล้วการที่จำเลยที่1บอกล้างสัญญาประกันชีวิตในวันที่19มิถุนายน2534จึงเกิน1เดือนนับแต่วันที่จำเลยที่1รู้มูลเหตุที่จะบอกล้างได้จำเลยที่1จึงต้องแก้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าพิสูจน์แนวเขตที่ดินมีผลผูกพัน เมื่อผลการรังวัดยืนยันตามข้อตกลง จำเลยต้องแพ้คดี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อถอนบ้านพิพาทออกจากที่ดินตามฟ้องจำเลยให้การว่าบ้านพิพาทปลูกอยู่บนที่สาธารณะชายทะเลห่างจากแนวเขตที่ดินตามฟ้องประมาณ 10 วา โจทก์จำเลยตกลงท้ากันว่าให้เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดแนวเขตที่ดินตามฟ้อง หากปรากฏว่าบ้านพิพาทอยู่ในแนวเขตที่ดินดังกล่าว จำเลยยอมแพ้ หากอยู่นอกเขตโจทก์ยอมแพ้ ต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินได้รังวัดและทำแผนที่พิพาทตามที่โจทก์จำเลยนำชี้แนวเขตที่ดินตามฟ้องตรงกันโดยมีเจ้าของที่ดินข้างเคียงยืนยันแนวเขตถูกต้อง ได้ความว่าบ้านพิพาทอยู่ในที่ดินตามฟ้อง จึงทำหนังสือพร้อมแนบแผนที่พิพาทส่งศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์จำเลยตรวจดู จำเลยตรวจดูเอกสารดังกล่าวแล้วลงลายมือชื่อโดยไม่ได้โต้แย้งข้อความในหนังสือและแผนที่พิพาทว่าไม่ถูกต้องถือได้ว่าจำเลยยอมรับว่าแผนที่พิพาทที่เจ้าพนักงานที่ดินทำขึ้นนั้นถูกต้อง อันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้ว ศาลต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้นจำเลยจะอ้างว่าเนื้อที่ดินที่เจ้าพนักงานที่ดินรังวัดนั้นเกินไปกว่าจำนวนที่ดินจริงตาม น.ส.3 ก. ของที่ดินตามฟ้องหาได้ไม่ เพราะน.ส.3 ก. ของที่ดินตามฟ้องมีเนื้อที่เท่าใดไม่เป็นประเด็นในคำท้าเมื่อปรากฏว่าบ้านพิพาทอยู่ในเขตที่ดินตามฟ้องจำเลยจึงต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำท้ากันในศาล: การรังวัดที่ดินพิพาทเป็นข้อตัดสิน หากผลเป็นไปตามเงื่อนไข จำเลยต้องแพ้คดี
ประเด็นสำคัญที่คู่ความท้ากันมีอยู่เพียงประการเดียวคือ ให้ฟังความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ออกไปรังวัดที่พิพาทว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์หรือไม่ โดยคู่ความยืนยันรับรองว่าหากเขตที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์แล้ว จำเลยยอมแพ้คดี หากอยู่นอกเขตโจทก์ก็ยอมแพ้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาลประการหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นข้อแพ้ชนะกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไปทำการรังวัดและรายงานว่าที่พิพาทอยู่ในที่ของโจทก์ซึ่งประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดอันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้ว ศาลก็ต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยไม่มีสิทธิจะโต้แย้งว่าจำเลยเข้าใจผิดในเรื่องเส้นทางสายโทรเลขเก่าว่าอยู่ทิศใดของที่พิพาทตามที่อ้างในคำร้องขอถอนคำท้าเพราะไม่มีประเด็นนี้ในค้าท้า และข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้ากันนั้นแล้ว จำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันมีผลผูกพันเมื่อจำเลยแพ้คดีและไม่ชำระหนี้ แม้เจ้าหนี้ยังไม่ขอบังคับคดี
ผู้ค้ำประกันจำเลยตามคำสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของศาลอุทธรณ์โดยมีข้อสัญญาค้ำประกันว่าถ้าจำเลยแพ้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์และจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ผู้ค้ำประกันยอมชำระให้โจทก์แทนจำเลยจนครบนั้นแม้ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยแพ้คดีและในระหว่างฎีกาโจทก์จะมิได้ขอให้บังคับคดีเอาแก่จำเลยจนศาลฎีกาพิพากษาแล้วจึงบังคับก็ตาม ก็ไม่ถือว่าโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ได้ผ่อนเวลาให้แก่จำเลยอันจะเป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันพ้นจากความรับผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันมีผลผูกพันเมื่อจำเลยแพ้คดีและไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา การไม่บังคับคดีทันทีไม่ถือเป็นการผ่อนเวลา
ผู้ค้ำประกันจำเลยตามคำสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของศาลอุทธรณ์โดยมีข้อสัญญาค้ำประกันว่า ถ้าจำเลยแพ้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์และจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลผู้ค้ำประกันยอมชำระให้โจทก์แทนจำเลยจนครบนั้น แม้ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยแพ้คดีและในระหว่างฎีกาโจทก์จะมิได้ขอให้บังคับคดีเอาแก่จำเลยจนศาลฎีกาพิพากษาแล้วจึงบังคับก็ตาม ก็ไม่ถือว่าโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ได้ผ่อนเวลาให้แก่จำเลยอันจะเป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันพ้นจากความรับผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมฎีกา: จำเลยแพ้คดีต้องวางค่าธรรมเนียมแทนโจทก์ก่อนยื่นฎีกา มิฉะนั้นศาลจะไม่รับฎีกา
ผู้ชะนะคดีในศาลชั้นต้น แต่แพ้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ ถ้ายื่นฏีกาก็ต้องวางค่าธรรมเนียมที่จะต้องเสียแทนอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์