พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหาในคำให้การ ศาลรับฟังได้ตามที่โจทก์กล่าวอ้าง และจำกัดการฎีกาเฉพาะประเด็นที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันในชั้นศาล
แม้โจทก์จะเป็นผู้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงและภาระการพิสูจน์ข้อเท็จจริงจะตกแก่โจทก์ แต่เมื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ไม่ได้ให้การปฏิเสธข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวอ้างโดยชัดแจ้งรวมทั้งเหตุแห่งการปฏิเสธด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง ถือว่าจำเลยที่ 2 รับข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวอ้างนั้นแล้ว และไม่เป็นประเด็นข้อพิพาท โจทก์จึงไม่จำต้องนำสืบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวซึ่งถือว่าคู่ความรับกันแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84(1) ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ จำเลยที่ 2จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาประกันภัยค้ำจุน
จำเลยที่ 2 ฎีกาแต่มิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องที่จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดของจำเลยที่ 1 ไว้ในคำให้การ จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาท ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ศาลชั้นต้นจะวินิจฉัยให้ก็เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นจึงไม่ชอบถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
จำเลยที่ 2 ฎีกาแต่มิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องที่จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดของจำเลยที่ 1 ไว้ในคำให้การ จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาท ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ศาลชั้นต้นจะวินิจฉัยให้ก็เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นจึงไม่ชอบถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง หากจำเลยไม่ปฏิเสธหรือต่อสู้ ถือเป็นประเด็นที่ยุติแล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องมาชัดเจนแล้ว แต่จำเลยมิได้ปฏิเสธหรือต่อสู้เป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่าจำเลยรับตามนั้น คดีไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบอีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4807/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดี: การที่จำเลยไม่ปฏิเสธการมอบอำนาจถือว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องชอบด้วยกฎหมาย แม้หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์มอบอำนาจให้ พ. ดำเนินคดีแทน แต่จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธว่าโจทก์มิได้มอบอำนาจดังกล่าว คดีจึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบหนังสือมอบอำนาจเป็นพยานหลักฐานอีกว่าถูกต้องหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังยุติได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องคดีโดยชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15045/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในคดีแพ่ง: แม้พยานหลักฐานขัดแย้งกับฟ้อง แต่จำเลยไม่ปฏิเสธ ศาลพิพากษาตามพยานโจทก์ได้
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทิศทางการขับรถของจำเลยที่ 1 กับ ป. ที่ปรากฏในทางนำสืบ แม้จะเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับที่บรรยายฟ้อง แต่เมื่อจำเลยทั้งสองมิได้ให้การหรือนำสืบปฏิเสธข้อเท็จจริงดังกล่าว ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงเป็นเพียงพลความในการวินิจฉัยคดีเท่านั้น ในคดีแพ่งเป็นเรื่องการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมีน้ำหนักรับฟังดีกว่าพยานหลักฐานจำเลย ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดี โดยโจทก์หาจำต้องนำสืบให้สมฟ้องดั่งคดีอาญาไม่ และมิต้องด้วยข้อห้ามมิให้พิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142