คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชดใช้ค่าทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เลิกสัญญาเช่าซื้อและการชดใช้ค่าใช้ทรัพย์เมื่อมิได้เกิดจากฝ่ายผิดสัญญา
ฟ้องโจทก์อ้างว่า สัญญาเช่าซื้อได้กำหนดวันชำระค่าเช่าซื้อไว้แน่นอน เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ จึงถือว่าสัญญาเช่าซื้อเป็นอันเลิกกันโดยมิจำต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อน จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1มิได้เป็นผู้ผิดสัญญาเช่าซื้อ เป็นการต่อสู้ว่าสัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์และจำเลย-ทั้งสองยังไม่เลิกกัน ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเช่าซื้อหรือไม่ จึงรวมอยู่ในประเด็นที่ว่า สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์และจำเลย-ทั้งสองเลิกกันแล้วหรือไม่ด้วย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยที่ 1 มิได้ผิดสัญญาแต่โจทก์กับจำเลยทั้งสองตกลงเลิกสัญญาต่อกันแล้ว ดังนี้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์กับจำเลยทั้งสองตกลงเลิกสัญญาต่อกันแล้ว จึงมิใช่เป็นการพิพากษานอกฟ้องและนอกประเด็น
เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน ไม่ว่าจะโดยคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญาหรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือโดยคู่สัญญาตกลงเลิกสัญญากันก็ตาม คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม ส่วนที่เป็นการงานอันได้กระทำให้และเป็นการยอมให้ใช้ทรัพย์นั้น การที่จะชดใช้คืนให้ทำได้ด้วยใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้น ๆ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 391ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชดใช้เงินค่าใช้ทรัพย์ให้โจทก์นั้น หาเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นไม่ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาจึงไม่จำต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกสัญญาสัญญาเช่าซื้อโดยปริยายและการชดใช้ค่าใช้ทรัพย์
โจทก์ได้รับรถแทรกเตอร์ที่ให้เช่าซื้อคืนเมื่อวันที่ 24ธันวาคม 2528 เพราะเหตุที่จำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามกำหนดเวลาในสัญญา และจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืนโจทก์ เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ต่างสมัครใจที่จะเลิกสัญญาต่อกันโดยปริยายนับแต่วันที่โจทก์รับรถคืน คู่สัญญาจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดั่งที่เป็นอยู่เดิม เมื่อจำเลยที่ 1 ได้ใช้รถแทรกเตอร์ที่เช่าซื้อมาตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ คือ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2527 จนถึงวันที่ 24ธันวาคม 2528 โดยชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์เพียงบางส่วน โจทก์ย่อมเสียหายเนื่องจากไม่ได้ใช้รถแทรกเตอร์ในระยะเวลานั้น จำเลยที่ 1จึงต้องชดใช้ค่าใช้ทรัพย์ดังกล่าวให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4174/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยปริยายจากพฤติการณ์ และการชดใช้ค่าใช้ทรัพย์ของผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน
จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์ ตามสัญญาเช่าซื้อกำหนดเวลาให้ชำระค่าเช่าซื้อทุกวันที่ 13 ของเดือน หากจำเลยที่ 1ผิดนัดแม้เพียงงวดหนึ่งงวดใดถือเป็นการผิดสัญญาและยอมให้สัญญาเช่าซื้อเป็นอันเลิกกันทันทีแต่จำเลยที่ 1 ได้ชำระเงินค่าเช่าซื้อเกินกำหนดเวลาตลอดมาทุกงวดตั้งแต่งวดแรกเป็นต้นไปซึ่งฝ่ายโจทก์ยินยอมรับไว้โดยมิได้ทักท้วง ตามพฤติการณ์แสดงว่าในทางปฏิบัติคู่สัญญาไม่ถือเอากำหนดเวลาชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาเป็นสำคัญ จะถือว่าจำเลยที่ 1 ผิดนัดผิดสัญญาและสัญญาเช่าซื้อเลิกกันไม่ได้ กรณีนี้หากโจทก์ประสงค์จะเลิกสัญญาก็จะต้องบอกกล่าวให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 ก่อน แต่ไม่ปรากฏว่าหลังจากนั้นโจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยที่ 1อย่างไรก็ตามการที่โจทก์ไปยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อคืน เพราะเหตุที่จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อเกินกำหนดเวลา และจำเลยที่ 1 ก็ยินยอมให้ยึดไปโดยไม่ได้โต้แย้ง ก็เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ต่างสมัครใจที่จะเลิกสัญญาต่อกันโดยปริยายนับแต่วันที่โจทก์ยึดรถยนต์คืน คู่สัญญาจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดั่งที่เป็นอยู่เดิม จำเลยที่ 1 จึงต้องชดใช้ค่าใช้ทรัพย์ดังกล่าวให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม และเมื่อสัญญาเลิกกันโดยจำเลยที่ 1 มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยที่ 1 ก็ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ รวมทั้งค่าติดตามรถยนต์ให้โจทก์ ส่วนจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกัน ซึ่งยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่1 ในการปฏิบัติตามสัญญา ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในการชดใช้ค่าใช้ทรัพย์ให้โจทก์ด้วย.