พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7633/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของตัวแทนและผู้ขนส่งทางทะเลต่อการไม่ปฏิบิติตามสัญญาขนส่งและการชำระราคาสินค้า
จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนผู้ทำสัญญารับขนของทางทะเลแทนจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นตัวการอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดตามสัญญาตามป.พ.พ. มาตรา 824 ส่วนจำเลยที่ 2 แม้จะเป็นบริษัทในเครือเดียวกับจำเลยที่ 1 มีกรรมการของบริษัท จำนวนและรายชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้เป็นบุคคลชุดเดียวกัน แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นนิติบุคคลและทำกิจกรรมแยกต่างหากจากกันโดยจำเลยที่ 1 รับผิดชอบเกี่ยวกับการขนส่งไปสหรัฐอเมริกาและยุโรป ส่วนจำเลยที่ 2 รับผิดชอบเกี่ยวกับการขนส่งในทวีปเอเชีย ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้ลงนามในใบตราส่งแทนจำเลยที่ 3 ไว้ด้วย จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญารับขนของทางทะเลร่วมกับจำเลยทที่ 3
ใบตราส่งซึ่งจำเลยที่ 1 ในฐานะตัวแทนจำเลยที่ 3 ออกให้แก่โจทก์ระบุว่า ผู้รับตราส่งคือตามคำสั่งธนาคาร ค. จึงเป็นเงื่อนไขในสัญญารับขนของทางทะเลระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 3 ว่า จำเลยที่ 3 รับที่จะส่งมอบสินค้าของโจทก์ให้แก่ธนาคาร ค. หรือตามคำสั่งของธนาคาร ค. ซึ่งเป็นผู้รับตราส่งต่อเมื่อจำเลยที่ 3 ได้รับเวนคืนใบตราส่งแล้ว บริษัทผู้ซื้อจะเรียกให้จำเลยที่ 3 ส่งมอบสินค้าให้แก่ตนได้ต่อเมื่อบริษัทผู้ซื้อได้ชำระราคาสินค้าให้แก่ธนาคาร ค. ซึ่งเป็นผู้รับตราส่ง และธนาคาร ค. สลักหลังโอนส่งมอบใบตราส่งให้แก่บริษัทผู้ซื้อ เพื่อบริษัทผู้ซื้อจะได้นำใบตราส่งมาเป็นหลักฐานแลกรับเอาสินค้าจากจำเลยที่ 3 อันเป็นวิธีปฏิบัติในการชำระราคาสินค้าในการซื้อขายระหว่างประเทศ การที่จำเลยที่ 3 ผู้ขนส่งส่งมอบสินค้าของโจทก์ให้แก่บริษัทผู้ซื้อโดยมิได้รับเวนคืนใบตราส่ง ย่อมเป็นการไม่ชอบและเป็นการผิดสัญญารับขนของทางทะเลต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ส่งสินค้า จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงต้องร่วมกันชำระราคาสินค้าพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
ใบตราส่งซึ่งจำเลยที่ 1 ในฐานะตัวแทนจำเลยที่ 3 ออกให้แก่โจทก์ระบุว่า ผู้รับตราส่งคือตามคำสั่งธนาคาร ค. จึงเป็นเงื่อนไขในสัญญารับขนของทางทะเลระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 3 ว่า จำเลยที่ 3 รับที่จะส่งมอบสินค้าของโจทก์ให้แก่ธนาคาร ค. หรือตามคำสั่งของธนาคาร ค. ซึ่งเป็นผู้รับตราส่งต่อเมื่อจำเลยที่ 3 ได้รับเวนคืนใบตราส่งแล้ว บริษัทผู้ซื้อจะเรียกให้จำเลยที่ 3 ส่งมอบสินค้าให้แก่ตนได้ต่อเมื่อบริษัทผู้ซื้อได้ชำระราคาสินค้าให้แก่ธนาคาร ค. ซึ่งเป็นผู้รับตราส่ง และธนาคาร ค. สลักหลังโอนส่งมอบใบตราส่งให้แก่บริษัทผู้ซื้อ เพื่อบริษัทผู้ซื้อจะได้นำใบตราส่งมาเป็นหลักฐานแลกรับเอาสินค้าจากจำเลยที่ 3 อันเป็นวิธีปฏิบัติในการชำระราคาสินค้าในการซื้อขายระหว่างประเทศ การที่จำเลยที่ 3 ผู้ขนส่งส่งมอบสินค้าของโจทก์ให้แก่บริษัทผู้ซื้อโดยมิได้รับเวนคืนใบตราส่ง ย่อมเป็นการไม่ชอบและเป็นการผิดสัญญารับขนของทางทะเลต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ส่งสินค้า จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงต้องร่วมกันชำระราคาสินค้าพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความการชำระราคาสินค้า: กำหนดระยะเวลาให้สินเชื่อเป็นจุดเริ่มต้นอายุความ
ในการที่โจทก์ขายสินค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างให้แก่จำเลยนั้นตามทางปฏิบัติโจทก์ได้กำหนดระยะเวลาให้สินเชื่อแก่จำเลยเพื่อชำระราคาสินค้าภายในระยะเวลาประมาณ45ถึง60วันนับแต่วันรับมอบสินค้าจึงถือไม่ได้ว่าวันที่โจทก์ส่งมอบสินค้าเป็นวันที่จำเลยต้องชำระราคาสินค้าแล้วฉะนั้นสิทธิเรียกร้องให้ชำระราคาสินค้าของโจทก์ยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาให้สินเชื่อซึ่งปรากฏว่าตามใบแจ้งหนี้กำหนดให้จำเลยจะต้องชำระเงินเมื่อนับถึงวันฟ้องยังไม่เกิน2ปีคดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา193/34(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5327/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความล่าช้าในการตรวจรับสินค้าและการปฏิบัติตามระเบียบพัสดุ ทำให้จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาและต้องชำระราคาสินค้า
จำเลยทำสัญญาซื้อลูกสูบจากโจทก์ แม้ปรากฏว่าลูกสูบชุดแรกที่โจทก์ส่งมอบให้จำเลยเป็นลูกสูบที่ไม่ถูกต้องตามสัญญา แต่จำเลยก็ไม่ได้นำสืบว่าโจทก์รู้ดีอยู่แล้วว่าลูกสูบดังกล่าวเป็นลูกสูบที่ไม่ถูกต้อง ยังขืนนำมาส่งมอบให้แก่จำเลย ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่า จำเลยมีความสงสัยว่าลูกสูบนั้นไม่ถูกต้องตามสัญญาจึงได้บันทึกในใบส่งของว่า รับลูกสูบไว้เพื่อตรวจสอบ จำเลยจึงมีหน้าที่ตรวจสอบแล้วแจ้งให้โจทก์ทราบว่าถูกต้องตามสัญญาหรือไม่ เพื่อโจทก์จะได้จัดการหามาเปลี่ยนหรือแก้ไขให้ถูกต้องตามข้อสัญญา จำเลยก็ไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบดังกล่าว ต่อมาจำเลยกลับมีหนังสือถึงโจทก์ว่า บัดนี้ได้เกินกำหนดอายุสัญญาแล้ว โจทก์ไม่ส่งของให้จำเลยอันเป็นการผิดสัญญา โจทก์ได้ยืนยันว่าส่งลูกสูบให้จำเลยแล้ว แทนที่จำเลยจะมีหนังสือชี้แจงต่อโจทก์ว่าสินค้าของโจทก์ที่ส่งไปชุดแรกไม่ถูกต้องอย่างไร จำเลยกลับมีหนังสือเตือนให้โจทก์ส่งของตามสัญญาและให้นำค่าปรับมาชำระ โจทก์จึงยืนยันกลับไปยังจำเลยว่าส่งสินค้าให้จำเลยถูกต้องตามสัญญาแล้ว ต่อมาเพื่อตัดความรำคาญ โจทก์จึงส่งสินค้าลูกสูบอีกชุดหนึ่งให้จำเลย จำเลยรับว่าลูกสูบชุดหลังถูกต้องตามสัญญา ดังนี้ การที่โจทก์ส่งลูกสูบที่ถูกต้องให้จำเลยล่าช้าเกิดจากความล่าช้าในการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยซึ่งไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2521 ข้อ 48ประกอบระเบียบกรมชลประทานว่าด้วยการบริหารงานด้านพัสดุ พ.ศ.2522 ข้อ 91 โจทก์จึงไม่ใช่เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยไม่มีสิทธิปรับโจทก์ และเมื่อจำเลยได้รับลูกสูบชุดหลังไว้ถูกต้องตามสัญญาจำเลยจะต้องชำระราคาสินค้าดังกล่าวให้โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ชำระจึงตกเป็นผู้ผิดนัด ต้องชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันผิดนัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความการชำระราคาสินค้าจากการส่งมอบเป็นงวดและการมีตัวแทน
จำเลยซื้อหินและทรายจากโจทก์ ตกลงกันว่า หินและทรายที่โจทก์ส่งให้นั้นถึงสิ้นเดือนจึงจะคิดบัญชีกันครั้งหนึ่งและจำเลยจะต้องชำระราคาภายใน 7 วันนับแต่วันคิดบัญชี ดังนี้ สิทธิเรียกร้องให้ชำระราคาของโจทก์ย่อมจะเกิดขึ้นในวันสิ้นเดือนของแต่ละเดือนและสิทธิเรียกร้องดังกล่าวนั้น โจทก์จะต้องฟ้องเรียกร้องเสียภายในกำหนดสองปี มิฉะนั้นเป็นอันขาดอายุความ