คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ช่วงเวลากระทำผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุช่วงเวลากระทำผิดที่ชัดเจนเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องในตอนแรกว่า เมื่อระหว่างวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ถึงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2511 เวลากลางวัน และกลางคืน จำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมายแล้วต่อมาบรรยายรายละเอียดว่าจำเลยคนไหนมีหน้าที่อย่างไร แล้วบรรยายว่าจำเลยได้รับมอบหมายจากสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันให้เป็นผู้ดำเนินการรับสมัครสมาชิกประเภทสามัญโดยรับเงินจากผู้สมัครส่งเป็นผลประโยชน์รายได้ของสมาคม แล้วบรรยายต่อไปว่า ตามวันเวลาดังกล่าวนี้ จำเลยทั้งสองได้รับเงินของสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันไว้จากประชาชนที่สมัครเป็นสมาชิกดังกล่าวแล้ว และเงินซึ่งสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันยืมจากบริษัทนฤมิตรธนาคมจำกัด แล้วจำเลยทั้งสองโดยเจตนาทุจริตได้บังอาจร่วมกันเบียดบังเงินค่าสมัคร... กับเงินยืมอันเป็นทรัพย์สินของสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตัน.... ดังนี้ คำฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงวันเวลาที่บ่งว่าจำเลยกระทำผิดพอสมควรที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นคำฟ้องสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6539/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตฟ้องอาญา: การกำหนดช่วงเวลากระทำผิด และเจตนาโจทก์ในการลงโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องระบุว่า เหตุเกิดเมื่อระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2545 เวลากลางวันถึงวันที่ 20 เมษายน 2545 เวลากลางวัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ฟ้องโจทก์ไม่ได้กล่าวว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2545 หรือวันที่ 20 เมษายน 2545 โดยเฉพาะเจาะจง จึงไม่ใช่จำกัดเวลาเกิดเหตุเฉพาะวันดังกล่าวเท่านั้น เมื่อทางพิจารณาได้ความว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นสองครั้ง ครั้งแรกเหตุเกิดในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2545 เวลาประมาณ 11 นาฬิกา ซึ่งตรงกับฟ้องของโจทก์ส่วนหนึ่งแล้วและปรากฏว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีในความผิดที่เกิดในวันดังกล่าวทั้งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยแล้ว โดยไม่ปรากฏว่ามีการร้องทุกข์และสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดครั้งที่สอง ดังนั้น จะฟังว่าความผิดที่เกิดขึ้นครั้งแรก เป็นข้อเท็จจริงในฟ้องและตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษอันเป็นเหตุห้ามมิให้ศาลลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงนั้น ๆ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสี่ หาได้ไม่