พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505-506/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวการร่วมในความผิดพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร ต้องแสดงการร่วมกระทำในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ
การเข้าร่วมกระทำความผิดด้วยกันที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นตัวการจะต้องเป็นการเข้าร่วมในระหว่างที่มีการกระทำความผิดแต่เมื่อไม่ปรากฏว่าระหว่างที่ อ. กับ น. ไปรับผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ออกมาจากบ้านจนถึงเวลาที่นำผู้เสียหายไปยังบ้านที่เกิดเหตุนั้นจำเลยทั้งสองได้มีส่วนร่วมรู้เห็นหรือร่วมกระทำการด้วยทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองร่วมคบคิดหรือนัดแนะกับ อ.และ น. อยู่ก่อนแล้วในการที่ อ. กับ น. จะพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารแม้จำเลยทั้งสองได้ตามไปยังบ้านที่เกิดเหตุและได้ร่วมประเวณีกับผู้เสียหายก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการร่วมกับ อ. และ น. พาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของคำฟ้องหมิ่นประมาท: การระบุช่วงเวลาเกิดเหตุที่ไม่ชัดเจน
คดีหมิ่นประมาทซึ่งหาว่าจำเลยใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สามคำฟ้องกล่าวถึงรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดว่าจำเลยกระทำผิดวันใด การสอบสวนไม่ปรากฏชัด ในระหว่างวันที่1 เมษายน ถึง 15 เมษายน 2513 เวลากลางวัน ดังนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ไม่เคลือบคลุม หรือทำให้จำเลยไม่อาจสู้คดีได้ถูกต้อง เพราะโจทก์ได้กล่าวแสดงเหตุผลที่ไม่อาจระบุวันกระทำผิดให้แน่ชัดไว้แล้วและเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นสำหรับข้อกล่าวหาเช่นนี้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2515)