คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ช่วยเหลือลูกค้า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4751/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเว้นหน้าที่ช่วยเหลือลูกค้าตรวจสอบเอกสารทางการเงิน ทำให้ไม่ทราบความเสียหายจากบัญชีธนาคาร
โจทก์ไปขอถอนเงินจากบัญชีเงินฝากที่ธนาคารออมสินพบว่าสมุดฝากเงินของโจทก์ซึ่งเก็บไว้ที่ธนาคารมีเงินเหลืออยู่ น้อยกว่าที่ฝากไว้จริง และตรวจสอบสมุดฝากเงินของ ฉ. ภริยาโจทก์ และสมุดฝากเงินของ จ. บุตรโจทก์ก็พบว่าเงินในสมุดฝากเงินเหลือน้อยผิดปกติเช่นกัน โจทก์จึงขอตรวจสอบ ใบถอนเงินจากบัญชีเงินฝากทั้งสามบัญชีดังกล่าว แต่จำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นพนักงานของธนาคารออมสินปฏิเสธไม่ยอมให้โจทก์ตรวจสอบใบถอนเงินตามที่โจทก์ขอตามสิทธิและความจำเป็น อันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ใน ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 123 ว่าด้วยวินัยของของพนักงานธนาคารออมสิน ข้อ 13 โดยมิชอบ เพื่อให้โจทก์ภริยาและบุตรเสียหาย เพราะโจทก์ไม่อาจทราบได้ว่าเงินในบัญชีเงินฝากของโจทก์ ภริยาและบุตรถูกคนร้ายปลอมลายมือชื่อถอนเงินจากบัญชีหรือไม่เพียงใด และไม่อาจเอาผิดกับผู้รับผิดชอบของธนาคารออมสินได้ จำเลยที่ 2 และที่ 3จึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4692/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือลูกค้าช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรง แม้ฝ่าฝืนระเบียบ หากมีเจตนาเพื่อประโยชน์ของธนาคาร
โจทก์มิได้ทุจริตหรือประมาทเลินเล่อในการฝ่าฝืนระเบียบและคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของจำเลยแต่เป็นการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาจากภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจโดยจำเลยก็ได้รับผลประโยชน์จากการเบิกเงินเกินบัญชีและรับซื้อลดตั๋วเงินที่ผิดระเบียบดังกล่าวด้วยและสาขาอื่นของจำเลยก็ปฏิบัติทำนองเดียวกันเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยจึงไม่อาจถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4692/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม: การผ่อนผันช่วยเหลือลูกค้าช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรง
โจทก์เป็นผู้จัดการสาขาธนาคารจำเลยมิได้ทุจริตหรือประมาทเลินเล่อในการฝ่าฝืนระเบียบและคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของจำเลยแต่เป็นการผ่อนสั้นผ่อนยาวช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาจากภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจโดยจำเลยก็ได้รับผลประโยชน์จากการที่โจทก์อนุมัติให้ลูกค้าเบิกเงินเกินบัญชีและรับซื้อลดตั๋วเงินที่ผิดระเบียบด้วยและสาขาอื่นของจำเลยก็ปฏิบัติทำนองเดียวกันเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยไม่อาจถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง