คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ซ่อนเร้นทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4283/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพบกระบือที่ถูกลัก แต่ไม่แจ้งเจ้าของและเรียกค่าตอบแทนเข้าข่ายรับของโจร
จำเลยทั้งสองติดตามไปพบกระบือผู้เสียหายที่ถูกลักไป แต่ไม่นำมาให้ผู้เสียหายหรือบอกให้ผู้เสียหายทราบตามที่ขอให้ช่วย เป็นเพียงปกปิดความจริงที่ควรบอกให้ผู้เสียหายทราบ ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับกระบือไว้จากคนร้าย หรือเอากระบือที่พบไปไว้ที่อื่นก่อน หรือร่วมรู้กับคนร้ายมาเรียกค่าไถ่กระบือจากผู้เสียหาย ไม่มีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนชื่อบริษัทลูกหนี้ไม่ใช่การซ่อนเร้นทรัพย์เพื่อโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
การที่จำเลยเปลี่ยนป้ายชื่อของบริษัทลูกหนี้เป็นชื่อของบริษัทใหม่นั้น แม้จะเป็นทางให้เจ้าหนี้เข้าใจผิดได้ก็จริง แต่ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการซ่อนเร้นทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้อันจะเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2426/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานซ่อนเร้นทรัพย์ที่รับผิดชอบ แม้ไม่มีเจตนาทุจริต ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158
จำเลยเป็นนายตรวจทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย มีหน้าที่เก็บรักษาไม้หมอน รางรถไฟ เครื่องประกอบราง และอื่น ๆ ได้นำรางรถไฟและเครื่องประกอบรางส่วนที่เดินบัญชีไปฝังซ่อนไว้ชั่วคราวโดยไม่มีเจตนาทุจริต เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบพัสดุเห็นว่าพัสดุในความดูแลรักษาของจำเลยมิได้เดินบัญชี อันจะทำให้จำเลยมีความผิดทางวินัยตามความเข้าใจของจำเลย การกระทำของจำเลยดังกล่าวแม้จะไม่ประกอบด้วยเจตนาทุจริต จำเลยก็หาพ้นผิดไม่ เพราะการที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทำการซ่อนเร้นทรัพย์อันเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะปกครองหรือรักษา การกระทำของจำเลยครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 158 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2426/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานซ่อนเร้นทรัพย์ที่รับผิดชอบ แม้ไม่มีเจตนาทุจริต ก็เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158
จำเลยเป็นนายตรวจทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย มีหน้าที่เก็บรักษาไม้หมอน รางรถไฟเครื่องประกอบราง และอื่นๆ ได้นำรางรถไฟและเครื่องประกอบรางส่วนที่เกินบัญชีไปฝังซ่อนไว้ชั่วคราวโดยไม่มีเจตนาทุจริต เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบพัสดุเห็นว่าพัสดุในความดูแลรักษาของจำเลยมิได้เกินบัญชี อันจะทำให้จำเลยมีความผิดทางวินัยตามความเข้าใจของจำเลย การกระทำของจำเลยดังกล่าวแม้จะไม่ประกอบด้วยเจตนาทุจริต จำเลยก็หาพ้นผิดไม่ เพราะการที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทำการซ่อนเร้นทรัพย์อันเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะปกครองหรือรักษา การกระทำของจำเลยครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9202/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฐานโกงเจ้าหนี้ต้องระบุเจตนาซ่อนเร้นทรัพย์สินเพื่อหนีการชำระหนี้
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อปี 2538 โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 กับพวกให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยที่ 1 กับพวกรับผิดต่อโจทก์ เมื่อโจทก์บังคับคดีแก่จำเลยที่ 1 จึงทราบว่าเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2538 จำเลยที่ 1 บังอาจจดทะเบียนยกที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 โดยเสน่หา การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงมีเจตนาซ่อนเร้นทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งโจทก์ได้ใช้สิทธิหรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลแล้วให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ เพื่อให้พ้นไปเสียจากการที่โจทก์จะบังคับคดีเอากับทรัพย์ดังกล่าวเพื่อชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนแก่โจทก์ โดยจำเลยทั้งสองทราบดีว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่จะให้โจทก์บังคับคดีได้อีก ตามคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมีความหมายให้เข้าใจได้อย่างชัดแจ้งแล้วว่า จำเลยทั้งสองได้กระทำไปโดยรู้ว่าเจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้แล้ว ซึ่งครบองค์ประกอบของความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตาม ป.อ. มาตรา 350 ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5811/2550 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดตามมาตรา 184 ช่วยซ่อนเร้นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าคน
จำเลยรับฝากรถจักรยานยนต์ไว้จาก ช. โดยทราบดีว่า ช. ใช้รถคันดังกล่าวเป็นพาหนะไปยิงผู้ตายและหลบหนี แล้วจำเลยซ่อนเร้นรถจักรยานยนต์ไว้ เพื่อจะช่วย ช. มิให้ต้องรับโทษตามที่ ช. ขอร้องให้ช่วยเหลือ จำเลยจึงมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 184
การที่ ช. ขับรถจักรยานยนต์ไปและใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายแล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป รถจักรยานยนต์จึงเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง และเป็นพยานหลักฐานสำคัญซึ่งสามารถใช้พิสูจน์การกระทำความผิดได้ การที่จำเลยช่วยซ่อนเร้นรถจักรยานยนต์จึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 184