พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคืนการให้เนื่องจากความไม่เคารพและการหมิ่นประมาทของผู้รับ
จำเลยที่1ผู้ยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ที่1เป็นพี่ชายร่วมบิดามารดาเดียวกันกับโจทก์ที่1จึงเป็นญาติสนิทผู้มีอาวุโสของโจทก์ที่1สมควรที่โจทก์ที่1จะให้ความเคารพนับถือตามควรการที่โจทก์ที่1ด่าว่าจำเลยที่1ด้วยถ้อยคำหยาบคายแสดงถึงการเหยียดหยามไม่ให้ความเคารพนับถือถือว่าเป็นการ หมิ่นประมาทจำเลยที่1อย่าง ร้ายแรง จำเลยที่1จึง ถอนคืนการให้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา531(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมโมฆียะจากเจตนาบกพร่องของผู้ป่วยหนัก ญาติสนิททราบแต่ยังทำสัญญา
แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าในช่วงเวลาที่มีการโอนขายรถยนต์พิพาทส.ป่วยมากทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ก็ปรากฏในคำขอโอนทะเบียนรถยนต์ว่า ส.ลงชื่อในช่องผู้โอนในเอกสารดังกล่าวโดยวิธีลงลายมือชื่อ แสดงว่าขณะที่ ส.โอนขายรถยนต์พิพาทให้แก่จำเลยทั้งสองนั้น ส.มิได้ขาดเจตนาในการทำนิติกรรมเสียเลย แต่การกระทำโดยมีเจตนาบกพร่อง เนื่องจากขณะนั้น ส.มีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ซึ่งจำเลยทั้งสองในฐานะที่เป็นญาติสนิทย่อมต้องทราบดี นิติกรรมโอนขายรถยนต์พิพาท จึงตกเป็นโมฆียะ โจทก์ในฐานะทายาทย่อมมีสิทธิบอกล่างโมฆียกรรมดังกล่าว และการที่โจทก์ฟ้องคดี ถือได้ว่าเป็นการบอกล้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 143 แล้วนิติกรรมโอนขายรถยนต์พิพาทจึงตกเป็นโมฆะมาแต่แรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องถอนผู้อนุบาล: ความสัมพันธ์ญาติสนิทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มารดาของผู้ไร้ความสามารถเป็นน้องสาวร่วมบิดามารดาเดียวกันกับยายของโจทก์ ฐานะของโจทก์จึงเกี่ยวข้องเป็นหลานน้าของผู้ไร้ความสามารถ ซึ่งนับว่าอยู่ในลำดับญาติใกล้ชิดกว่าลูกพี่ลูกน้องนับได้เพียงภายในสามชั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 11(2) เสียอีกความเกี่ยวพันระหว่างโจทก์กับผู้ไร้ความสามารถจึงควรนับได้ว่าเป็นญาติสนิท ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1575 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ญาติสนิทมีอำนาจขอถอนผู้อนุบาลได้ หากความสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าลูกพี่ลูกน้องในสามชั้น
มารดาของผู้ไร้ความสามารถเป็นน้องสาวร่วมบิดามารดาเดียวกันกับยายของโจทก์ ฐานะของโจทก์จึงเกี่ยวข้องเป็นหลานน้าของผู้ไร้ความสามารถ ซึ่งนับว่าอยู่ในลำดับญาติใกล้ชิดกว่าลูกพี่ลูกน้องนับได้เพียงภายในสามชั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 11(2) เสียอีกความเกี่ยวพันระหว่างโจทก์กับผู้ไร้ความสามารถจึงควรนับได้ว่าเป็นญาติสนิท ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1575 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับทายาท & อายุความมรดก: โจทก์เป็นญาติสนิทกว่า ย่อมมีสิทธิเหนือกว่าจำเลย และตัดอายุความมรดก 1 ปี
ถ้าฟังว่าโจทก์เป็นญาตที่สนิทของเจ้ามรดกยิ่งกว่าจำเลยแล้ว จำเลยก็ย่อมไม่อาจยกอายุความ มรดก 1 ปี มาตัดฟ้องของโจทก์ได้
(เทียบฎีกาที่ 19/2495)
จำเลยกล่าวอ้างในคำให้การต่อสู้คดีว่า ตนเป็นทายาทโดยพินัยกรรม เพื่อตัดโจทก์ผู้เป็นทายาทโดยธรรมเช่นนี้ จำเลยต้องเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อน
(เทียบฎีกาที่ 19/2495)
จำเลยกล่าวอ้างในคำให้การต่อสู้คดีว่า ตนเป็นทายาทโดยพินัยกรรม เพื่อตัดโจทก์ผู้เป็นทายาทโดยธรรมเช่นนี้ จำเลยต้องเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2457/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์ญาติสนิท - พยานแวดล้อมน่าเชื่อถือ - รับสารภาพ - บังคับคดีตามศาลชั้นต้น
ส. พยานโจทก์เบิกความว่า พยานพบกับผู้เสียหาย ผู้เสียหายบอกว่าจำเลยลักสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองของผู้เสียหายไป ขอให้พยานช่วยทวงคืนให้พยานไปหาจำเลยและสอบถาม จำเลยรับว่าได้นำสิ่งของของผู้เสียหายไปจำนำไว้ เช้าวันรุ่งขึ้นพยานสอบถามจำเลยอีก จำเลยบอกว่าตั๋วจำนำอยู่ที่เพื่อน ประกอบกับ ช. และ น. พยานโจทก์อีกสองปากเบิกความตรงกันว่า ตอนเช้าวันที่ผู้เสียหายทราบว่าทรัพย์ของตนถูกลักไป จำเลยนำสร้อยคอและพระเลี่ยมทองของผู้เสียหายมาให้พยานทั้งสองดู และบอกว่าเก็บได้จากห้องน้ำหลังบ้าน พยานทั้งสองเป็นญาติสนิทกับผู้เสียหายและจำเลยพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน กับทั้งไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนจึงไม่มีเหตุที่จะเบิกความกลั่นแกล้งปรักปรำจำเลย ซึ่งสอดคล้องกับคำเบิกความของผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับ ง. และ ว. พยานอีกสองปากที่เบิกความว่าจำเลยเคยเล่าให้ฟังว่าเก็บสร้อยคอและพระเลี่ยมทองของผู้เสียหายได้ แต่ยังไม่คืนให้เพราะจะแกล้งผู้เสียหาย หากจำเลยไม่ได้ลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป จำเลยก็น่าจะปฏิเสธกับ ส. ตั้งแต่แรก แต่จำเลยกลับรับว่าเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปจำนำไว้ แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันการกระทำผิดของจำเลย มีเพียงแต่พยานแวดล้อม แต่พยานโจทก์ทุกปากเบิกความไม่มีข้อพิรุธน่าสงสัย ทำให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ที่ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนล่าช้าก็คงเป็นเพราะผู้เสียหายเป็นญาติสนิทกับจำเลย ไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยหากได้ทรัพย์ที่ถูกลักไปคืน หาเป็นข้อพิรุธแต่อย่างใดไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยลักทรัพย์ผู้เสียหายตามฟ้อง