คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฐานฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5320/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทคู่ความเดิม: ห้ามเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในคดีใหม่ แม้เปลี่ยนฐานฟ้อง
คดีก่อนจำเลยที่ 2 ได้ฟ้องโจทก์คดีนี้ว่าเลิกจ้างไม่เป็นธรรมขอให้ชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมและเงินอื่น ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 กับพวกร่วมกันลักน้ำมันเบนซินชนิดพิเศษของโจทก์ไป ขอให้จำเลยที่ 2 กับพวกร่วมกันชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ย เหตุที่จำเลยที่ 2 อ้างในคดีก่อนว่าโจทก์เลิกจ้างไม่เป็นธรรม คือโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยที่ 2 กับพวกลักน้ำมันเบนซินชนิดพิเศษของโจทก์ไป โดยจำเลยที่ 2 มิได้กระทำผิดซึ่งโจทก์ก็ให้การในคดีดังกล่าวว่า โจทก์มีสิทธิเลิกจ้างจำเลยที่ 2 เพราะจำเลยที่ 2 ลักน้ำมันเบนซินชนิดพิเศษของโจทก์ไป ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยในคดีก่อนกับคดีนี้จึงเป็นปัญหาเดียวกันว่าจำเลยที่ 2 ลักน้ำมันเบนซินชนิดพิเศษของโจทก์ไปหรือไม่ และแม้คดีก่อนจำเลยที่ 2จะเป็นฝ่ายโจทก์ ส่วนคดีนี้โจทก์จะเป็นฝ่ายฟ้องจำเลยที่ 2 แต่โจทก์จำเลยในคดีทั้งสองก็เป็นคู่ความเดียวกัน จำเลยที่ 2 จึงเถียงข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 145 วรรคแรก ประกอบด้วย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3393/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกเงินคืนฐานลาภมิควรได้: การให้การไม่ชัดเจนและการระบุฐานฟ้อง
คำให้การของจำเลยที่ว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้วเพราะโจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกค่าสมนาคุณตอบแทนคืนเมื่อเกิน 1 ปีนับแต่วันที่โจทก์ทราบถึงการเบิกเงินของจำเลยนั้น เป็นคำให้การที่ชัดแจ้งและแสดงเหตุแห่งการขาดอายุความ ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสองแล้ว คำฟ้องโจทก์อ้างว่า โจทก์จ่ายเงินค่าสมนาคุณตอบแทนให้แก่จำเลยรับไปโดย ผิดหลง โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยนำเงินที่รับไปส่งคืนแก่โจทก์ แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินให้โจทก์โดยมิได้บรรยายมาในฟ้องว่า โจทก์มีสิทธิติดตามเอาเงินคืนจากจำเลยได้อันเป็นการใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 กรณีจึงเป็นเรื่องฟ้องให้คืนเงินฐานลาภมิควรได้ซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่เวลาที่โจทก์รู้ว่าตนมีสิทธิเรียกร้องตามมาตรา 419

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานฟ้อง: บิดาฟ้องแทนบุตรผู้เยาว์ และฟ้องในฐานะส่วนตัว พิจารณาจากฟ้องรวม
การที่จะถือว่าโจทก์ฟ้องในฐานะส่วนตัวโดยเฉพาะหรือในฐานะแทนเด็กผู้เป็นบุตรด้วยนั้น จะต้องพิจารณาฟ้องรวมกันทั้งฉบับ
หน้าฟ้องตรงช่องชื่อโจทก์ระบุว่า 'นายนวลบิดาเด็กชายยุทธนา พวงมาลัย' ดังนี้ นอกจากแสดงว่านายนวลเป็นบิดาเด็กชายยุทธนาแล้ว ยังแสดงว่ามีความหมายหรือความประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดด้วย มิฉะนั้นคงกล่าวง่ายๆ เพียงว่า นายนวลโจทก์
ในฟ้องระบุถึงการกระทำของจำเลยซึ่งกระทำละเมิดต่อเด็กชายยุทธนาทั้งกล่าวด้วยว่าการกระทำโดยประมาทของจำเลยเป็นเหตุให้เด็กชายยุทธนาบุตรโจทก์และโจทก์เสียหาย เรียกค่าเสียหาย 3 ประการ แม้ตามฟ้อง เมื่อกล่าวถึงเด็กชายยุทธนาจะใช้ถ้อยคำว่า 'บุตรโจทก์' ต่อท้ายจากคำว่าเด็กชายยุทธนาทุกแห่ง แต่เมื่อพิจารณาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1537 ที่ว่า อำนาจปกครองอยู่แก่บิดา มาตรา 1541 ที่ว่า ผู้ใช้อำนาจปกครองเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร อำนาจดังกล่าวเป็นอำนาจตามกฎหมาย โดยมิต้องมีการแต่งตั้งหรือมอบหมายแต่อย่างใด ดังนี้ แสดงว่าโจทก์เสนอฟ้องทั้งในฐานะส่วนตัวและแทนเด็กชายยุทธนาบุตรผู้เยาว์ด้วย