พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2370/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินพระภิกษุ: การพิสูจน์พินัยกรรมและการตกได้แก่ วัดเมื่อไม่มีพินัยกรรมยกทรัพย์
เงินประมาณ 7 แสนบาท และที่ดิน 5 โฉนด เป็นทรัพย์สินของพระภิกษุ ช. เจ้ามรดกได้มาในระหว่างที่อยู่ในสมณเพศ โจทก์อ้างว่าพระภิกษุ ช.ได้ทำพินัยกรามยกทรัพย์มรดกให้แก่โจทก์ วัดผู้ร้องสอดต่อสู้ว่าพินัยกรรมนั้นปลอมขึ้นภายหลังพระภิกษุ ช.มรณภาพแล้ว เป็นหน้าที่ของโจทก์ผู้กล่าวอ้างจะต้องนำสืบว่าพินัยกรรมที่อ้างนั้นไม่ปลอม
ทรัพย์พิพาทพระภิกษุ ช. ได้มาในระหว่างอยู่ในสมณเพศแล้วถึงแก่กรรมและไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จึงตกได้แก่วัดผู้ร้องสอด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1623
ทรัพย์พิพาทพระภิกษุ ช. ได้มาในระหว่างอยู่ในสมณเพศแล้วถึงแก่กรรมและไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จึงตกได้แก่วัดผู้ร้องสอด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1623
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนพินัยกรรมและการตกได้ตามพินัยกรรมเมื่อทรัพย์สินโอนกลับมา
สามีโดยมิชอบด้วยกฎหมายทำพินัยกรรมยกทรัพย์ทั้งหมดให้ภริยาต่อมาสามีภริยานั้นได้ทำหนังสือแบ่งทรัพย์กันโดยสามีได้ทรัพย์ไปบางส่วน หนังสือแบ่งทรัพย์นั้นย่อมไม่เพิกถอนพินัยกรรม เพราะพินัยกรรมจะเพิกถอนไปได้ ก็ต้องกระทำด้วยพินัยกรรมฉบับหลังหรือทำลาย หรือขีดฆ่าพินัยกรรมนั้นด้วยความตั้งใจ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1694,1695 ถ้าทรัพย์สินอันเป็นวัตถุแห่งพินัยกรรมอย่างใดได้โอนไปโดยสมบูรณ์ด้วยความตั้งใจ ข้อกำหนดพินัยกรรมอันเกี่ยวกับทรัพย์สินนั้นเป็นอันเพิกถอนไปเฉพาะอย่าง มาตรา1696 แต่พินัยกรรมยังใช้ได้อยู่เมื่อทรัพย์ที่แบ่งกลับมาเป็นของสามีตามสัญญาแบ่งทรัพย์ก็ย่อมตกได้แก่ภริยาตามพินัยกรรมที่ยังมีผลสมบูรณ์อยู่นั้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทเรื่องสิทธิในมรดกและการตกได้ซึ่งทรัพย์มรดกเมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย
โจทย์ฟ้องขอแบ่งมรดกโดยอ้างว่าเป็นบุตรอันชอบด้วย ก.ม.ของเจ้ามรดกเช่นนี้ศาลย่อมจะวินิจฉัยไปถึงโจทก์เป็นบุตรที่บิดาได้รับรองแล้วตาม ป.พ.พ.ม. 1627 จึงมีสิทธิได้รับมรดกตาม ม.1533 ด้วยไม่ได้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อต่อสู้แห่งคดี
คำสั่งศาลว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วย ก.ม.นั้นมีผลตั้งแต่วันที่คดีถึงที่สุด แต่ทรัพย์มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทในทันทีที่เจ้ามรดกดตาย ฉะนั้นเมื่อศาลสั่งว่าโจทก์เป็นบุตร์โดยชอบด้วย ก.ม.ภายหลังเจ้ามรดกตายแล้ว จึงไม่มีทรัพย์มรดกเหลืออยู่ โจทก์ไม่มีทางได้รับส่วนแบ่ง
คำสั่งศาลว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วย ก.ม.นั้นมีผลตั้งแต่วันที่คดีถึงที่สุด แต่ทรัพย์มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทในทันทีที่เจ้ามรดกดตาย ฉะนั้นเมื่อศาลสั่งว่าโจทก์เป็นบุตร์โดยชอบด้วย ก.ม.ภายหลังเจ้ามรดกตายแล้ว จึงไม่มีทรัพย์มรดกเหลืออยู่ โจทก์ไม่มีทางได้รับส่วนแบ่ง