คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ตราประทับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 22 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7739/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์ แม้ตราประทับไม่ตรงกับที่จดทะเบียน หากมีลักษณะคล้ายคลึงและกรรมการลงชื่อถูกต้อง
แม้ตราที่ประทับของบริษัทโจทก์ในหนังสือมอบอำนาจจะมิใช่ตราประทับอันเดียวกับตราที่ได้จดทะเบียนไว้ แต่ก็มีรูปลักษณ์ ขนาดและตัวอักษรชื่อบริษัทโจทก์เช่นเดียวกับที่จดทะเบียนไว้ ทำให้สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นตราของโจทก์ เมื่อกรรมการ 2 ใน 5 คน ลงชื่อกระทำการแทนบริษัทโจทก์ตามข้อบังคับถูกต้อง หนังสือมอบอำนาจจึงสมบูรณ์ใช้บังคับผูกพันโจทก์ได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3919/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามสัญญา แม้ใช้ตราประทับไม่ถูกต้อง หากได้รับประโยชน์จากสัญญานั้น
แม้ว่าตราประทับของบริษัทจำเลยที่ 1 ที่ใช้ประทับในสัญญาจะมิใช่ตราสำคัญที่บริษัทจำเลยที่ 1 ได้จดทะเบียนไว้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม แต่ก็เป็นตราที่จำเลยที่ 1 ได้ใช้ในการทำธุรกรรมทางการค้ากับโจทก์ตลอดมาเป็นเวลานานประมาณ 10 ปี เมื่อจำเลยที่ 1 ได้เข้ารับเอาประโยชน์ตามสัญญาแล้ว การทำสัญญาดังกล่าวจึงสมประโยชน์จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องผูกพันและรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2251/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัด แม้ไม่มีตราประทับ และความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ
จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด เดิมมีโจทก์ และจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ต่อมาโจทก์ถอนตัวออกจากการเป็นหุ้นส่วนโดยมีการทำบันทึกข้อตกลงแบ่งทรัพย์สินมีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อเป็น ผู้ให้สัญญา แต่ไม่ได้ประทับตราของจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 2 ได้ปฏิบัติการชำระหนี้ตามบันทึกข้อตกลงข้ออื่น ๆ ในนามของจำเลยที่ 1 ให้แก่โจทก์บางส่วนไปแล้ว ทั้งจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ก็จดทะเบียนถอนโจทก์ออกจากการเป็น ผู้ถือหุ้น ตามบันทึกข้อตกลงแล้ว ซึ่งเท่ากับจำเลยที่ 1 ยอมรับการกระทำของจำเลยที่ 2 ที่ปฏิบัติไปตามบันทึกข้อตกลงนั้นเป็นการกระทำในนามของจำเลยที่ 1 ดังนั้น แม้บันทึกข้อตกลงดังกล่าว จะไม่มีการประทับตราของจำเลยที่ 1 ก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการกระทำการแทนในนามของจำเลยที่ 1 บันทึกข้อตกลงดังกล่าวจึงผูกพันจำเลยที่ 1 ที่ต้องชำระหนี้ให้แก่โจทก์
เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระหนี้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดย่อมต้องร่วมรับผิดในบรรดาหนี้ของจำเลยที่ 1 โดยไม่จำกัดจำนวนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1077 (2) ประกอบด้วยมาตรา 1087 แห่ง ป.พ.พ. จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2251/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจของหุ้นส่วนผู้จัดการในการผูกพันห้างหุ้นส่วนจำกัด แม้ไม่มีตราประทับ และความรับผิดของหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด
จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด การดำเนินกิจการของจำเลยที่ 1 ย่อมต้องอาศัยบุคคลธรรมดาเป็นผู้กระทำ ซึ่งก็คือ จำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการ เมื่อจำเลยที่ 2ทำบันทึกข้อตกลงให้แก่โจทก์ในนามของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้ชำระหนี้ตามบันทึกข้อตกลงข้ออื่น ๆ ในนามของจำเลยที่ 1 ให้แก่โจทก์บางส่วน ทั้งได้จดทะเบียนถอนโจทก์ออกจากการเป็นผู้ถือหุ้นตามบันทึกข้อตกลงแล้ว เท่ากับจำเลยที่ 1ยอมรับการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำของจำเลยที่ 1แม้บันทึกข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ได้ประทับตราของจำเลยที่ 1 ตามข้อบังคับก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำการแทนจำเลยที่ 1จึงผูกพันจำเลยที่ 1 ที่ต้องปฏิบัติการชำระหนี้ให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนสมรสที่สมบูรณ์ แม้ไม่มีตราประทับนายทะเบียน และผลของการสมรสซ้อน
แม้ใบทะเบียนการสมรสมิได้ประทับตรานายทะเบียน ก็หาทำให้ทะเบียนการสมรสไม่สมบูรณ์หรือเป็นโมฆะ เพราะพระราชบัญญัติการจดทะเบียนครอบครัวฯ กำหนดเพียงให้นายทะเบียนลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องประทับตรานายทะเบียนแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10229/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการทำสัญญาเช่า และผลผูกพันตามสัญญา แม้ไม่มีตราประทับ
แม้สัญญาเช่ามิได้ประทับตราสำคัญของโจทก์ก็ตาม แต่ตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร โจทก์ได้จดทะเบียนกำหนดให้ ส.เป็นกรรมการลงชื่อผูกพันโจทก์ได้ ตามสัญญาเช่าก็มีข้อความกล่าวไว้ชัดในตอนต้นแห่งสัญญาว่าทำขึ้นระหว่างจำเลยผู้ให้เช่าฝ่ายหนึ่ง กับบริษัท ค.โดย ส.กรรมการ ผู้เช่าอีกฝ่ายหนึ่ง ข้อความเช่นนี้แสดงชัดว่า ส.ทำสัญญาในนามของโจทก์นั่นเองหาได้ทำเป็นส่วนตัวไม่ ทั้งจำเลยก็ได้ยอมรับผลแห่งสัญญาตั้งแต่ต้นตลอดมาจำเลยต้องผูกพันตามสัญญา จะอ้างว่าสัญญาไม่ได้ประทับตราสำคัญของโจทก์ไม่มีผลผูกพันโจทก์และโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่
จำเลยได้ให้การรับว่าได้ทำสัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามฟ้องกับโจทก์จริง โจทก์จึงไม่มีภาระต้องพิสูจน์และอ้างส่งสัญญาฉบับดังกล่าวเป็นพยานอีก ฉะนั้นแม้สัญญาฉบับดังกล่าวซึ่งโจทก์อ้างจะไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.รัษฎากร มาตรา ๑๑๘

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3394/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดของตัวการต่อบุคคลภายนอกจากการกระทำของตัวแทน แม้ไม่มีตราประทับ
ตามพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ปล่อยปละละเลยให้จำเลยที่ 2และที่ 3 รับฝากเงินในสำนักงานของจำเลยที่ 1 โดยเปิดเผยไม่มีการห้ามปรามหรือดำเนินคดีกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ถือได้ว่าจำเลยที่ 1เชิดจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นตัวแทนของตน จำเลยที่ 1 จะปฏิเสธความรับผิดว่า มีข้อห้ามตามกฎหมายมิให้จำเลยที่ 1 รับฝากเงินและไม่มีหลักฐานว่าจำเลยที่ 1 รับฝากเงินไว้ในกิจการของจำเลยที่ 1กิจการดังกล่าวอยู่นอกเหนือวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 1 และกิจการทั้งหมดจำเลยที่ 2 กระทำในนามส่วนตัวไม่ได้ ดังนั้น จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้ฝากเงินซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นตัวแทนของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองสภาพหนี้จากการประทับตราสัญญาเช่าซื้อ และข้อจำกัดในการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงที่ไม่เคยว่ากล่าว
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยทำสัญญาเช่าซื้อกับโจทก์ จำเลยมิได้ให้การถึงตราที่ใช้ประทับอยู่ในช่องผู้เช่าซื้อในหนังสือสัญญาเช่าซื้อว่าชอบหรือไม่อย่างไร เมื่อจำเลยไม่ให้การถึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าเป็นตราของจำเลยที่ 1 คู่ความไม่ต้องพิสูจน์ในข้อเท็จจริงนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 84(1) ศาลไม่รับวินิจฉัยพยานจำเลยที่นำสืบว่าตราที่ประทับในช่องผู้เช่าซื้อไม่ใช่ตราของจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองให้การว่า เดิมรถยนต์เป็นของจำเลยที่ 1 ส.กระทำโดยไม่สุจริตโอนรถยนต์ให้โจทก์ แล้วจึงมีการทำสัญญาเช่าซื้อจำเลยทั้งสองมิได้ต่อสู้ว่าขณะทำสัญญาเช่าซื้อโจทก์มิได้เป็นเจ้าของรถยนต์สัญญาเช่าซื้อจึงไม่ผูกพันจำเลยทั้งสอง อุทธรณ์ของจำเลยที่ว่าโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ในขณะทำสัญญาเช่าซื้อจึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น เมื่อปัญหาดังกล่าวมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงต้องห้ามมิให้ยกขึ้นมากล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ไม่เคยทำสัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 1 ให้ไว้แก่โจทก์ เอกสารท้ายฟ้องโจทก์เป็นผู้กรอกข้อความเองทั้งสิ้นสัญญาค้ำประกันดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมแต่ตามสัญญาค้ำประกันเอกสารท้ายฟ้องจำเลยที่ 2 ได้ลงชื่อเป็นผู้ค้ำประกันไว้การที่จำเลยที่ 2 ให้การเพียงว่าโจทก์เป็นผู้กรอกข้อความในเอกสารทั้งสิ้น จึงเป็นเอกสารปลอม โดยจำเลยที่ 2 มิได้ให้การว่าเหตุใดจึงได้ลงชื่อไว้ในเอกสารดังกล่าวและเหตุใดโจทก์จึงนำเอกสารนั้นไปกรอกข้อความจนกลายเป็นเอกสารปลอมได้ ถือว่าไม่มีเหตุแห่งการปฏิเสธโดยชัดแจ้งเป็นคำให้การที่ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177วรรคสอง ไม่ก่อให้เกิดประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี: ตราประทับบริษัทใช้ได้แม้ขนาดเล็กกว่าที่จดทะเบียน หากเป็นตราที่ใช้ในกิจการทั่วไป
ตราสำคัญของบริษัทโจทก์ที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับตราสำคัญซึ่งได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ และเป็นตราที่โจทก์ใช้ในกิจการทั่ว ๆ ไปเป็นประจำทั้งกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ยืนยันว่าเป็นผู้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จึงชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1736/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานปลอมแปลงเอกสารและยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตราประทับของราชการโดยมิชอบ ทำให้ราชการเสียหาย
จำเลยรับราชการเป็นพนักงานจ้าง ตำแหน่งพนักงานบำรุงป่าได้รับมอบหมายให้ใช้และรักษาดวงตราก้อนเหล็กประทับไม้ต.3986 ของกรมป่าไม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรต้องแต่งตั้งโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา75 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 จำเลยจึงเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม มาตรา4(16) ที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ ดังกล่าวจำเลยได้รับมอบหมายให้ช่วยป่าไม้อำเภอตรวจสอบไม้ผ่านด่านออกใบเบิกทางจำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160
of 3