พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6294/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาตอบแทนเพื่อเป็นพยานขัดต่อความสงบเรียบร้อย ถือเป็นโมฆะ
จำเลยเป็นผู้อาศัยปลูกบ้านอยู่ในที่ดินพิพาท ไม่ใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีที่ ล. มารดาโจทก์ฟ้องบังคับให้ ท. จดทะเบียนโอนที่ดิน การที่จำเลยกับ ล. ทำหนังสือสัญญากันระบุว่า ล. จะจดทะเบียนแบ่งแยกโอนที่ดินพิพาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินในคดีที่ ล. พิพาทกับ ท. ให้แก่จำเลยเมื่อคดีถึงที่สุดกับให้เงินสดแก่จำเลยเพื่อตอบแทนที่จำเลยไปเบิกความเป็นพยานให้นั้น แสดงว่าจำเลยยอมไปเบิกความเป็นพยานก็โดยเห็นแก่ประโยชน์ที่จะได้ที่ดินพิพาทและเงินจาก ล. เป็นการตอบแทน จึงเป็นการที่จำเลยแสวงหาประโยชน์จากการเป็นความของบุคคลอื่น ข้อตกลงตามหนังสือสัญญาจึงเป็นสัญญาที่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150
โจทก์ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป แต่ศาลล่างทั้งสองให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจึงเกินคำขอของโจทก์ ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาแต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5) ประกอบมาตรา 246,247
โจทก์ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป แต่ศาลล่างทั้งสองให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจึงเกินคำขอของโจทก์ ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาแต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5) ประกอบมาตรา 246,247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเก็บกินจากการตอบแทนการยกที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: สิทธิเรียกร้องบังคับให้จดทะเบียนได้
การที่จำเลยตกลงด้วยวาจาให้โจทก์มีสิทธิเก็บกินในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตลอดชีวิตของโจทก์ก็เพื่อเป็นการ ตอบแทนที่โจทก์ยกที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แก่จำเลยข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงพิเศษอย่างสัญญาต่างตอบแทนก่อให้เกิดบุคคลสิทธิแก่โจทก์ในอันที่จะเรียกร้องให้จำเลยไปจดทะเบียนสิทธิเก็บกินนั้น และเมื่อได้มีการจดทะเบียนเช่นนั้นแล้ว การได้มาโดยนิติกรรมดังกล่าวซึ่งสิทธิเก็บกินอันเป็นทรัพย์สิทธิก็ย่อมบริบูรณ์ตามกฎหมายสมเจตนาของคู่กรณี สิทธิของโจทก์ตามนิติกรรมดังกล่าวนี้เป็นสิทธิ เรียกร้องระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่กรณี ตราบใดที่ จำเลยผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังมิได้ โอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แก่บุคคลอื่น โจทก์ย่อมมีอำนาจ ฟ้องต่อศาลขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนสิทธิเก็บกินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งเสริมการขายและการตอบแทนไม่ถือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ
โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานที่แจ้งชัดมาแสดงโดยตรงว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกัน การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนกเวชภัณฑ์ของบริษัท บ. ดำเนินการให้บริษัท บ. เพิ่มส่วนลดให้โจทก์พนักงานของบริษัท บ. ไม่นำฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์มไปขายในท้องที่ที่โจทก์ขายอยู่ และบริษัท บ. ให้ของแถมเพื่อให้โจทก์นำไปแจกแก่ลูกค้าของโจทก์อีกต่อหนึ่งซึ่งทำให้โจทก์มีกำไรจากการซืสินค้าจากบริษัท บ. ไปขายมากขึ้น ล้วนแต่เป็นการส่งเสริมการขายเพื่อทำให้บริษัท บ. ขายสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาในทางการค้า แม้โจทก์จ่ายเงินให้จำเลยร้อยละห้าของกำไรที่ได้จากการขายฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์ม ก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยตกลงเข้ากันเป็นหุ้นส่วนซื้อฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์มจากบริษัท บ. ไปขายเพื่อประสงค์จะแบ่งปันกำไรแต่เป็นเรื่องจำเลยดำเนินการให้โจทก์มีกำไรจากกิจการค้ามากขึ้นและโจทก์ให้เงินแก่จำเลยเป็นการตอบแทน จำเลยจึงไม่ต้องร่วมรับผิดในหนี้สินอันเกิดจากกิจการค้านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความถูกต้องของพินัยกรรมและการเรียกร้องสิทธิในมรดก โดยมีข้อโต้แย้งเรื่องการตอบแทนและพินัยกรรมใหม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า มารดาของโจทก์จำเลยได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จำเลยและหลาน ดังสำเนาท้ายฟ้องโจทก์ไปขอรับมรดกที่ดินตามรายการข้อ 1 ของพินัยกรรมครึ่งหนึ่งจำเลยร้องคัดค้านเจ้าพนักงานจึงงดการรับมรดกไว้ และสั่งให้โจทก์ฟ้องต่อศาล ที่จำเลยคัดค้านการรับมรดกนั้นเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายการที่โจทก์ขอรับมรดกเพื่อลงชื่อเป็นเจ้าของนั้น เพราะโจทก์ได้ออกเงิน (ค่าที่ดิน)ทำศพ ตามคำสั่งของผู้ตายแล้ว ดังนี้ แม้รายการข้อ 1ของพินัยกรรมท้ายฟ้องจะว่าที่ดินแปลงนี้ให้โจทก์จำเลยบุตรจัดการขาย นำเงินที่ขายได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เมื่อตาย แต่เมื่ออ่านประกอบฟ้องก็พอจะได้ความว่ามิใช่กรณีรับมรดกเฉยๆ หากแต่มีการกระทำของโจทก์เป็นการตอบแทนอยู่ ครั้นเมื่อจำเลยให้การ จำเลยมิได้เถียงถึงสิทธิของโจทก์อันจะได้จากพินัยกรรมนี้เลย เป็นแต่เถียงว่าผู้ตายทำพินัยกรรมใหม่แล้วยกเลิกพินัยกรรมที่โจทก์อ้าง ประเด็นในคดีคงมีแต่เพียงว่าพินัยกรรมที่ฝ่ายใดอ้างเป็นพินัยกรรมที่ใช้ได้ ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาต่อไป จะว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกครึ่งหนึ่ง และพิพากษายกฟ้องเสียโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงต่อไปนั้น ไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาใหม่จากการบอกเลิกสัญญาเดิมและการตอบแทนกัน การมอบหมายกิจการและวัสดุเพื่อทุ่นค่าใช้จ่ายถือเป็นสัญญาที่ผูกพันได้
โจทก์ได้เข้าทำสัญญารับเหมาก่อสร้างตลาดให้จำเลย แต่ทำไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาและว่าจะดำเนินการก่อสร้างเองต่อไป ถ้ามีเงินเหลือจะคืนให้โจทก์ ให้โจทก์จัดการมอบหมายกิจการก่อสร้างตลาดทั้งหมดให้คณะกรรมการเพื่อเป็นการทุ่นรายจ่ายในการที่จะจัดซื้อต่อไป ฝ่ายโจทก์ก็สนองรับและได้มอบกิจการกับวัสดุก่อสร้างที่เหลืออยู่ ณ ที่ก่อสร้าง และที่โจทก์เก็บไว้ที่อื่นให้คณะกรรมการ ทั้งโจทก์ได้เข้าเป็นลูกจ้างรายวันเพื่อมีโอกาศดูแลควบคุมให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปโดยสมควรและถูกต้อง เพื่อหวังจะได้เงินที่เหลือดังนี้ แสดงให้เห็นว่า มีการตอบแทนกัน ก่อให้เกิดเป็นสัญญาขึ้นใหม่ซึ่งมีผลบังคับได้ มิใช่เป็นเรื่องจะให้เงินโดยเสน่หาอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาใหม่เกิดจากการตอบแทนหลังบอกเลิกสัญญาเดิม ไม่ใช่การให้โดยเสน่หา
โจทก์ได้เข้าทำสัญญารับเหมาก่อสร้างตลาดให้จำเลย แต่ทำไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จำเลยจึงบอกเลิกสัญญา และว่าจะดำเนินการก่อสร้างเองต่อไปถ้ามีเงินเหลือจะคืนให้โจทก์ ให้โจทก์จัดการมอบหมายกิจการก่อสร้างตลาดทั้งหมดให้คณะกรรมการเพื่อเป็นการทุ่นรายจ่ายในการจัดซื้อต่อไปฝ่ายโจทก์ก็สนองรับ และได้มอบกิจการกับวัสดุก่อสร้างที่เหลืออยู่ ณ ที่ก่อสร้างและที่โจทก์เก็บไว้ที่อื่นให้คณะกรรมการทั้งโจทก์ได้เข้าเป็นลูกจ้างรายวัน เพื่อมีโอกาสดูแลควบคุมให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปโดยสมควรและถูกต้อง เพื่อหวังจะได้เงินที่เหลือดังนี้ แสดงให้เห็นว่ามีการตอบแทนกันก่อให้เกิดเป็นสัญญาขึ้นใหม่ซึ่งมีผลบังคับได้มิใช่เป็นเรื่องจะให้เงินโดยเสน่หาอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินเพื่อตอบแทนการช่วยเหลือชำระหนี้จำนอง ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา จึงไม่อาจเพิกถอนได้
ยกที่ดินส่วนหนึ่งให้ตอบแทนการที่ผู้รับให้ช่วยออกเงินบางส่วนชำระหนี้ไถ่จำนองที่ดินทั้งแปลงนั้นจากผู้รับจำนอง ดังนี้ถือว่ามิได้มีการยกที่ดินให้โดยเสน่หา อันจะถอนคืนเพราะเหตุเนรคุณได้