คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ตัดค่าจ้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7235/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาและอำนาจตัดค่าจ้างทำให้ขาดคุณสมบัติสมาชิกสหภาพแรงงาน
โจทก์ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกงบประมาณและการเงินระดับ 8 มีอำนาจในการตัดค่าจ้างหรือลดค่าจ้างแก่พนักงานหรือลูกจ้างซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของโจทก์ตามระเบียบและข้อบังคับของจำเลยที่ 1 โจทก์จึงมีฐานะเป็นฝ่ายบริหารของจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543และเป็นเหตุให้ขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกและกรรมการของสหภาพแรงงาน ตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 มาตรา 51 วรรคสอง และมาตรา 56 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6262/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกรรมการลูกจ้าง กรณีฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับ – ศาลอนุญาตลงโทษตัดค่าจ้างตามเจตนาเดิม
ผู้ร้องลงโทษตัดค่าจ้างผู้คัดค้านในกรณีที่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างประจำบริษัทผู้ร้องกระทำผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน เนื่องจากเข้าปฏิบัติงานตามหน้าที่สาย โดยผู้ร้องไม่ได้ขออนุญาตต่อศาลแรงงานก่อน เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 52 ย่อมไม่มีผลเป็นการลงโทษผู้คัดค้านตามกฎหมาย การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านเป็นคดีนี้อีกจึงไม่เป็นการขอให้ลงโทษผู้คัดค้าน 2 ครั้ง ในการกระทำความผิดครั้งเดียวกัน ผู้ร้องย่อมมีสิทธิขออนุญาตต่อศาลแรงงานลงโทษผู้คัดค้านได้เป็นคดีนี้ได้
ในระหว่างที่หนังสือเตือน เรื่องผู้คัดค้านกระทำความผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่เข้าปฏิบัติหน้าที่สายมีผลใช้บังคับ ผู้คัดค้านได้กระทำผิดซ้ำคำเตือน โดยเข้าปฏิบัติหน้าที่สายอีก 4 ครั้ง ถือได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุอันสมควรอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านได้ แต่พฤติการณ์การกระทำความผิดของผู้คัดค้านดังกล่าวผู้ร้องเคยแสดงเจตนาลงโทษผู้คัดค้านเพียงตัดค่าจ้าง ศาลฎีกาจึงเห็นควรอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านเพียงตัดค่าจ้างเท่าที่ผู้ร้องได้ตัดค่าจ้างผู้คัดค้านไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6262/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางวินัยของลูกจ้าง: การตัดค่าจ้างต้องได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน การกระทำผิดซ้ำมีเหตุผลในการลงโทษ
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 52กำหนดห้ามมิให้นายจ้าง เลิกจ้าง ลดค่าจ้าง ลงโทษกรรมการลูกจ้าง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลแรงงานการที่ผู้ร้องลงโทษตัดค่าจ้างผู้คัดค้านในกรณีที่ผู้คัดค้านกระทำผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเข้าปฏิบัติงานตามหน้าที่สาย 4 ครั้ง โดยไม่ได้ขออนุญาตต่อศาลแรงงานก่อน ย่อมเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติ ดังกล่าว ไม่มีผลเป็นการลงโทษผู้คัดค้านตามกฎหมาย เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขออนุญาตต่อศาลแรงงานกลาง เลิกจ้างผู้คัดค้านด้วยเหตุกระทำผิดระเบียบข้อบังคับดังกล่าว จึงไม่เป็นการลงโทษ 2 ครั้ง ในการกระทำความผิด ครั้งเดียวกัน ผู้ร้องยังคงมีสิทธิขออนุญาตต่อศาลแรงงานกลาง ลงโทษผู้คัดค้านได้ และการที่ผู้คัดค้านเคยถูกว่ากล่าว ตักเตือนเป็นหนังสือเรื่องการเข้าปฏิบัติหน้าที่สาย มาก่อนแต่กลับมากระทำผิดซ้ำคำเตือนอีก 4 ครั้ง ถือได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุอันสมควรอนุญาตให้ผู้ร้อง ลงโทษผู้คัดค้านได้ แต่การกระทำความผิดดังกล่าวผู้ร้องเคยแสดงเจตนาลงโทษผู้คัดค้านเพียงตัดค่าจ้างเท่านั้นจึงเห็นควรอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านเพียงตัดค่าจ้างเท่าที่ผู้ร้องได้ตัดค่าจ้างผู้คัดค้านไปแล้ว โดยให้คืนค่าจ้างที่ตัดไปโดยมิชอบแก่ผู้คัดค้านก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจนายจ้างตัดค่าจ้างลูกจ้างต้องเป็นไปตามข้อบังคับหรือกฎหมาย หากไม่มีข้อความกำหนดไว้ชัดเจน การกระทำนั้นเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลง
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างและเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างไม่มีข้อตกลงเรื่องตัดค่าจ้างของลูกจ้างในกรณีลูกจ้างขาดงาน มีแต่กำหนดว่า ถ้าลูกจ้างละทิ้งงานติดต่อกัน 3 วัน ให้พ้นจากการเป็นลูกจ้างการที่นายจ้างกำหนดมาตรการการลงโทษลูกจ้างที่ละทิ้งการงานติดต่อกัน 3 วัน เป็นว่าให้ตัดค่าจ้าง จึงเป็นการกำหนดมาตรการลงโทษขึ้นใหม่ แม้ไม่เป็นการขัดหรือแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯมาตรา 20 แต่การเพิ่มเติมสภาพการจ้าง เช่นนี้ ไม่มีกำหนดไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างว่านายจ้างมีอำนาจทำได้ตามมาตรา 11(7) ดังนั้นการที่นายจ้างใช้อำนาจตัดค่าจ้างลูกจ้างจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง เป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจนายจ้างตัดค่าจ้างลูกจ้างต้องเป็นไปตามข้อตกลงสภาพการจ้าง หากไม่มีข้อตกลงรองรับ การตัดค่าจ้างเป็นโมฆะ
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างและเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างไม่มีข้อตกลงเรื่องตัดค่าจ้างของลูกจ้างในกรณีลูกจ้างขาดงาน มีแต่กำหนดว่า ถ้าลูกจ้างละทิ้งงานติดต่อกัน 3 วัน ให้พ้นจากการเป็นลูกจ้าง การที่นายจ้างกำหนดมาตรการการลงโทษลูกจ้างที่ละทิ้งการงานติดต่อกัน 3 วันเป็นว่าให้ตัดค่าจ้าง จึงเป็นการกำหนดมาตรการลงโทษขึ้นใหม่แม้ไม่เป็นการขัดหรือแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 20 แต่การเพิ่มเติมสภาพการจ้าง เช่นนี้ ไม่มีกำหนดไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างว่านายจ้างมีอำนาจทำได้ตามมาตรา 11(7) ดังนั้นการที่นายจ้างใช้อำนาจตัดค่าจ้างลูกจ้างจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง เป็นการไม่ชอบ