คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ติดตามคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7066/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์: เหตุสุดวิสัยต้องมีจริง ผู้ถูกกล่าวหาต้องขวนขวายติดตามคดีด้วยตนเอง
ที่จำเลยอ้างว่า ได้มอบคดีและค่าทนายความให้ อ.ทนายความดำเนินการยื่นอุทธรณ์ให้แล้ว แต่ อ.มิได้ ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดและไม่แจ้งให้จำเลยทราบ ทั้งจำเลยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้านคดี แต่จำเลยจบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ มีวุฒิภาวะพอที่จะเข้าใจได้ว่าผลของการคำพิพากษากระทบต่อเสรีภาพของตน จำเลยน่าจะต้องขวนขวายติดตามคดีเพื่อรักษาสิทธิและประโยชน์ของตนแต่กลับมิได้ใส่ใจหรือขวนขวาย ทั้งข้ออ้างว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้านคดีความ ก็มิใช่เหตุที่ยกขึ้นอ้างได้ และการยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์พ้นกำหนดก็เป็นข้อผิดพลาดบกพร่องของทนายความ มิใช่เหตุสุดวิสัยจึงไม่มีเหตุที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกและการติดตามคดีของผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ
ขณะทำสัญญาเช่าซื้อ จำเลยที่ 1 ได้ระบุภูมิลำเนาตามฟ้องไว้ในสัญญาอันเป็นภูมิลำเนาตรงตามบัตรประชาชน และตรงตามสำเนาทะเบียนบ้านของจำเลยที่ 1 การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องก็ได้มีการส่งตามบ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้ให้การต่อสู้คดีแล้ว ที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าการส่งหมายครั้งอื่นของพนักงานเดินหมายก่อนส่งคำบังคับได้นำไปส่งยังบ้านเลขที่อื่นที่เป็นสำนักงานของจำเลยที่ 1 แสดงว่าพนักงานเดินหมายทราบดีว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้อยู่บ้านเลขที่ตามฟ้องนั้น ป.วิ.พ. มาตรา 77 ได้บัญญัติถึงการส่งคำคู่ความหรือเอกสาร โดยเจ้าพนักงานศาลไปยังที่อื่นหรือสำนักทำการงาน การที่พนักงาน-เดินหมายไปส่งยังสำนักทำการงานของจำเลยที่ 1 ตามที่ปรากฏในท้ายสำนวนนั้นย่อมไม่ใช่แสดงว่า เจ้าพนักงานทราบดีว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้อยู่ที่บ้านเลขที่ตามฟ้องแต่อย่างใด อาจเป็นเพียงแต่เจ้าพนักงานเห็นว่าสะดวกกว่าการส่งไปยังภูมิลำเนาตามฟ้องก็เป็นได้ โดยเฉพาะจำเลยที่ 1 ประกอบอาชีพทนายความ ย่อมทราบขั้นตอนการพิจารณาของศาลเป็นอย่างดี แต่อ้างว่าเพิ่งติดตามคดี ทั้ง ๆ ยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2535 เพิ่งติดตามตรวจสำนวนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2536 ซึ่งห่างจากวันยื่นคำให้การถึง 7 เดือนเศษ เป็นการผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพทนายความอย่างยิ่ง จึงมิใช่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2206/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดชอบของผู้แต่งทนาย ความบกพร่องในการติดตามคดี และเหตุสมควรขอพิจารณาใหม่
การที่จำเลยได้ แต่งตั้ง ทนายความ แต่ ทนายความของจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การและไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์ เป็นความบกพร่อง ของจำเลยเองที่ไม่หาผู้ที่รับมอบหมายที่เชื่อถือ ได้ และไม่สนใจ ติดตามเรื่องที่ตน ถูก ฟ้อง ดังนี้ ไม่ใช่เหตุสมควรที่จะขอให้ พิจารณาใหม่ ตามป.วิ.พ. มาตรา 209.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2133/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยต้องมีความรับผิดชอบในการติดตามคดีด้วยตนเอง แม้จะเข้าใจผิดเรื่องการมอบหมายทนาย
คำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 1 ที่ว่า การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาของจำเลยที่ 1 เกิดจากความเข้าใจผิดของจำเลยทั้งสอง โดย จำเลยที่ 1 เข้าใจผิดว่า จำเลยที่ 2 ได้ มอบหมายให้ทนายความประจำตัวของจำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การและ ดำเนินกระบวนพิจารณาต่าง ๆ แทนจำเลยที่ 1 ด้วย และทนายความ ของจำเลยที่ 2 ก็เข้าใจว่า จำเลยที่ 1 ได้ มอบหมายให้ทนายความ ประจำบริษัทของจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การและดำเนิน กระบวนพิจารณา ของจำเลยที่ 1เอง เหตุผลดังกล่าวแม้จะเป็นความจริงก็ไม่อาจ กล่าวอ้างได้ ว่าจำเลยที่ 1 ไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัด พิจารณา เพราะจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้อง เอาใจใส่ในการต่อสู้ คดี ของจำเลยที่ 1 เอง จำเลยที่ 1 จะอ้างความเข้าใจผิดมาเป็น ข้อแก้ตัวว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยมีหน้าที่ต้องติดตามคดีด้วยตนเอง ความเข้าใจผิดของทนายความไม่ถือเป็นเหตุจงใจขาดนัด
คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 1 อ้างเหตุว่าจำเลยที่และทนายของจำเลยทั้งสองต่าง เข้าใจผิดว่าต่าง ได้ ดำเนินการยื่นคำให้การและดำเนินการพิจารณาแทนกันไปแล้ว จึงเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาโดย ไม่จงใจนั้นดังนี้แม้หากจะได้ความจริงตาม ข้ออ้างดังกล่าวก็ ไม่อาจกล่าวได้ ว่าจำเลยที่ 1 ไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เพราะจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้อง เอาใจใส่ในการต่อสู้ คดีของจำเลยที่ 1 เอง จะอ้างความเข้าใจผิดมาเป็นข้อแก้ตัวว่ามิได้จงใจหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความบกพร่องของศาล & หน้าที่โจทก์ติดตามคดี: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิมเนื่องจากโจทก์มิได้ติดตามเรื่องนับโทษ
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอีกเรื่องหนึ่งศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนา และสอบถามจำเลยในวันสืบพยานแต่ก็ไม่ได้สอบจนพิพากษาไปแล้วแม้จะถือว่าเป็นความบกพร่องของศาลที่ไม่สอบถามจำเลยโจทก์ก็มีส่วนบกพร่องไม่ติดตามแถลงต่อศาลก่อนพิพากษา ศาลฎีกาไม่เห็นสมควรแก้ไข