พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2205/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของเจ้าของตู้นิรภัยต่อการสูญหายของทรัพย์สินที่ฝากเก็บ
จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าทรัพย์สินโจทก์ทั้งสามมิได้สูญหายจริง แม้จำเลยที่ 1 จะยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ แต่ปรากฏว่า จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ตามสัญญาเช่าตู้นิรภัยเป็นการเช่าเพื่อเก็บทรัพย์สินซึ่งตู้นิรภัยอยู่ในความควบคุมดูแลของจำเลยที่ 1 ดังนั้นแม้จำเลยที่ 1 จะไม่รู้เห็นการนำทรัพย์สินเข้าเก็บหรือนำออกจากตู้นิรภัย จำเลยที่ 1 ก็ไม่หลุดพ้นจากความรับผิดหากทรัพย์สินที่เก็บในตู้นิรภัยนั้นสูญหายจริง และข้อเท็จจริงยังปรากฏว่ามีลายนิ้วมือแฝงที่ตู้นิรภัยซึ่งมิใช่ของโจทก์ที่ 1และที่ 2 และมิใช่ของเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ด้วยเป็นข้อที่ชี้ให้เห็นว่า มีคนร้ายเข้าไปเปิดตู้นิรภัยและนำเอา ทรัพย์สินที่เก็บไปจริง จำเลยที่ 1 อ้างว่าอาจเป็นลายนิ้วมือแฝงของคนของโจทก์ที่ 1 และที่ 2 นั้นก็เป็นการคาดคะเน โดยปราศจากข้อเท็จจริงสนับสนุน การที่คนร้ายลักเอาทรัพย์สิน ในตู้นิรภัยไปถือเป็นความบกพร่องในหน้าที่ของจำเลยที่ 1ในการดูแลป้องกันภัยแก่ทรัพย์สิน ความระมัดระวังของจำเลยที่ 1 จึงไม่พอ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ที่ 1 และที่ 2 จึงต้องรับผิด ชดใช้แก่โจทก์ที่ 1 และที่ 2 ทรัพย์บางรายการโจทก์ที่ 1 และที่ 2 รับฝากไว้จาก อ.โจทก์ที่ 1 และที่ 2 จึงมีนิติสัมพันธ์ที่จะต้องรับผิดชอบต่ออ. ย่อมถือเป็นความเสียหายที่เกิดแก่โจทก์ที่ 1 และที่ 2ซึ่งจำเลยที่ 1 มีหน้าที่รับผิดชอบเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4328/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดของพนักงานธนาคารจากความประมาทเลินเล่อในการดูแลตู้นิรภัย
จำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นพนักงานของธนาคาร ก. มีหน้าที่รักษากุญแจตู้นิรภัยอันเป็นที่เก็บเงินตราต่างประเทศคนละ 1 ดอก และต้องใช้กุญแจทั้งสองดอกเปิดประตูนิรภัยพร้อมกัน จำเลยที่ 1 และที่ 3 ทราบรหัสการเปิดตู้นิรภัย เมื่อการที่เงินตราต่างประเทศซึ่งเก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยสูญหายไปโดบไม่ปรากฏการงัดแงะย่อมเกิดจากการที่มีผู้ใช้กุญแจเปิดตู้นิรภัยและทราบรหัวสเปิดตู้นิรภัยเอาเงินตราไปหรือเกิดจากการเปิดตู้นิรภัยไว้แล้วไม่มีการปิดล็อกดังเดิม นอกจากนี้การเก็บรักษากุญแจตู้นิรภัย ธนาคาร ก.ได้มีระเบียบให้พนักงานธนาคารเก็บรักษากุญแจคนละดอกเพื่อป้องกันการทุจริตของพนักงานและเพื่อให้มีการตรวจสอบซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้งจำเลยที่ 1 และที่ 3 ต่างทราบระเบียบของธนาคารดังกล่าวดี แต่ด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 และที่ 3 จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงมักมอบหมายให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้เปิดตู้นิรภัยโดยไม่กระทำร่วมกัน โดยเฉพาะในวันศุกร์ก่อนวันหยุดทำการซึ่งเป็นวันเกิดเหตุนั้นเอง จำเลยที่ 1 และที่ 3 ก็ไม่ได้เคร่งครัดปฏิบัติตามระเบียบของธนาคารในการที่จะรักษาครอบครองกุญแจตู้นิรภัย รวมทั้งการตรวจตราปิดเปิดล็อกตู้นิรภัยเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงและเป็นเหตุให้เงินตราที่เก็บไว้ในตู้นิรภัยสูญหายไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงเป็นการร่วมกันละเมิดต่อธนาคาร ก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4328/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของพนักงานธนาคารต่อการสูญหายของเงินในตู้นิรภัย และความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
จำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นพนักงานของธนาคาร ก.มีหน้าที่รักษากุญแจตู้นิรภัยอันเป็นที่เก็บเงินตราต่างประเทศคนละ 1 ดอก และต้องใช้กุญแจทั้งสองดอกเปิดประตูนิรภัยพร้อมกัน จำเลยที่ 1 และที่ 3 ทราบรหัส การเปิดตู้นิรภัย การที่เงินตราต่างประเทศซึ่งเก็บรักษาไว้ใน ตู้นิรภัยสูญหายไปโดยไม่ปรากฏการงัดแงะย่อมเกิดจากการที่มีผู้ใช้กุญแจเปิดตู้นิรภัยและทราบรหัส เปิดตู้นิรภัยเอา เงินตราไปหรือเกิดจากการเปิดตู้นิรภัยไว้แล้วไม่มีการปิดล็อกดังเดิม นอกจากนี้การเก็บรักษากุญแจตู้นิรภัย ธนาคาร ก.ได้มีระเบียบให้พนักงานธนาคารเก็บรักษากุญแจคนละดอกเพื่อป้องกันการทุจริตของพนักงานและเพื่อให้มีการตรวจสอบซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้งจำเลยที่ 1 และที่ 3 ต่างทราบระเบียบของธนาคารดังกล่าวดี แต่ด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 และที่ 3 จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงมักมอบหมายให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้เปิดตู้นิรภัยโดยละเว้นไม่กระทำร่วมกันโดยเฉพาะในวันศุกร์ก่อนวันหยุดทำการซึ่งเป็นวันเกิดเหตุนั้นเอง จำเลยที่ 1 และที่ 3 ก็ไม่ได้เคร่งครัดปฏิบัติ ตามระเบียบของธนาคารในการที่จะรักษาครอบครองกุญแจตู้นิรภัยรวมทั้งการตรวจตราปิดล็อกตู้นิรภัยจึงเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงและเป็นเหตุให้เงินตราที่เก็บไว้ในตู้นิรภัยสูญหายไป การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงเป็นการร่วมกันละเมิดต่อธนาคาร ก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4699/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อความเสียหายจากเงินหายในตู้นิรภัย อันเกิดจากความประมาทเลินเล่อในการรักษาความปลอดภัย
จำเลยเป็นลูกจ้างโจทก์ดำรงตำแหน่งผู้จัดการสาขาน่านจำเลยจึงมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการบริหารงานของสาขาโจทก์ที่จำเลยเป็นผู้จัดการทั้งหมดทั้งเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานของโจทก์ที่ทำงานอยู่ในสาขาเดียวกันกับจำเลยจำเลยจะต้องควบคุมดูแลให้พนักงานปฏิบัติงานตามระเบียบข้อบังคับของโจทก์โดยเคร่งครัดรวมทั้งตัวจำเลยด้วยทั้งนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของโจทก์ตามสัญญาจ้างแรงงานจำเลยเป็นผู้เก็บรักษากุญแจและรหัสประตูห้องมั่นคงและตู้นิรภัยชุดหนึ่งซึ่งจำเลยสามารถจะเจ้าไปเปิดห้องมั่นคงและตู้นิรภัยได้ตลอดเวลาโดยลำพังผู้เดียวส่วนกุญแจและรหัสประตูห้องมั่นคงและตู้นิรภัยอีกชุดหนึ่งมีการแยกเก็บรักษาโดยร.เป็นผู้เก็บรักษากุญแจและรหัสประตูห้องมั่นคงส่วนพ. ผู้เก็บรักษากุญแจและรหัสตู้นิรภัยลำพังเพียงร. หรือพ. คนใดคนหนึ่งไม่สามารถจะเปิดตู้นิรภัยได้ก่อนวันเกิดเหตุและระหว่างวันเกิดเหตุพ. กลับจากลาพักผ่อนประจำปีเข้ามาทำงานตามปกติและได้รับมอบกุญแจและรหัสตู้นิรภัยมาเก็บรักษาแล้วดังนั้นระหว่างวันเกิดเหตุผู้เก็บรักษากุญแจและรหัสประตูห้องมั่นคงหรือรและผู้เก็บรักษากุญแจและรหสตู้นิรภัยคือพ. เมื่อเป็นเช่นนี้ในขณะเกิดเหตุร. หรือพ. จึงไม่อาจจะเข้าไปเปิดตู้นิรภัยตามลำพังเพียงคนเดียวได้แต่จำเลยเพียงผู้เดียวสามารถที่จะเข้าไปเปิดได้เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีที่ส่วนหนึ่งของเงินที่หายไปอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของพ. ซึ่งศาลแรงงานกลางฟังว่าเงินของโจทก์หายไปเกิดจากการกระทำของผู้เก็บรักษากุญแจและรหัสประตูห้องมั่นคงกับตู้นิรภัยแล้วสำหรับร. และพ. นั้นต่างคนต่างเก็บรักษากุญแจและรหัสประตูห้องมั่นคงและตู้นิรภัยอันเป็นการแยกเก็บรักษาตามหน้าที่ของตนตามปกติจึงถือมิได้ว่าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อทำให้เงินของโจทก์หายส่วนกรณีเงินที่หายไปจากตู้นิรภัยส่วนหนึ่งกับเงินที่มิได้เก็บไว้ในตู้นิรภัยแต่ไปอยู่ที่ลิ้นชักโต๊ะทำงานของพ. นั้นก็ไม่ทำให้เห็นว่าพ. ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือประมาทเลินเล่อเพราะเงินที่หายไปเป็นเงินที่ได้นำไปเก็บไว้ในตู้นิรภัยเรียบร้อยแล้วหากพ. ทำการทุจริตก็คงจะไม่นำเงินที่ตนเอาไปเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะในที่ทำงานเช่นนี้สำหรับจำเลยนั้นมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการบริหารงานสาขาโจทก์ที่จังหวัดน่านให้ดำเนินไปด้วยดีโดยจำเลยจะต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่โจทก์วางไว้อย่างเคร่งครัดการที่จำเลยปฏิบัติหน้าที่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงโดยไม่เปลี่ยนรหัสประตูห้องมั่นคงและรหัสตู้นิรภัยเมื่อมีการสับเปลี่ยนพนักงานระดับบริหารที่เก็บรักษากุญแจและรหัสประตูห้องมั่นคงกับตู้นิรภัยและจำเลยเองก็เป็นผู้เก็บรักษาทั้งกุญแจและรหัสประตูห้องมั่นคงกับตู้นิรภัยซึ่งจำเลยสามารถเข้าไปเปิดตู้นิรภัยตามลำพังได้ตลอดเวลาเมื่อเงินของโจทก์ที่เก็บไว้ในตู้นิรภัยหายไปก็ไม่สามารถที่จะสอบหาตัวผู้ทุจริตได้เช่นนี้ถือได้ว่าความเสียหายเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยจำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินที่หายแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6704/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของธนาคารต่อการลักทรัพย์ในตู้นิรภัยจากความประมาทเลินเล่อของลูกจ้าง
จำเลยที่ 1 เป็นธนาคารประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการเงินอันเป็นธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 4 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 มีหน้าที่รับและจ่ายเงิน แต่การลักทรัพย์ที่อยู่ในตู้นิรภัยของจำเลยที่ 1 ที่ให้โจทก์ที่ 1เช่าเก็บทรัพย์สินเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมิใช่งานในหน้าที่ของจำเลยที่ 4การที่จำเลยที่ 4 ลักทรัพย์ของโจทก์จึงมิใช่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1
การที่โจทก์ที่ 1 กับ น.เช่าตู้นิรภัยจากจำเลยที่ 1 เพื่อใช้เป็นที่เก็บทรัพย์นั้น ทุกครั้งที่โจทก์ที่ 1 กับ น.ภริยาโจทก์ที่ 1 นำทรัพย์ไปเก็บโจทก์ที่ 1 กับ น. มิได้ส่งมอบทรัพย์ที่เก็บให้แก่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1ก็มิได้มีส่วนรู้เห็นว่า โจทก์ที่ 1 กับ น. นำทรัพย์อะไรไปเก็บไว้บ้าง เมื่อโจทก์ที่ 1กับ น. ต้องการนำทรัพย์ที่เก็บไว้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนกลับคืนก็ไปนำกลับมาเองโดยโจทก์ที่ 1 กับ น.เพียงแต่ยื่นคำร้องขอให้จำเลยที่ 1 นำกุญแจต้นแบบของธนาคารมาร่วมไขเปิดตู้นิรภัยด้วยเท่านั้น โดยจำเลยที่ 1 มิได้ทำการส่งมอบทรัพย์คืน สัญญาเช่าตู้นิรภัยจึงมิใช่สัญญาฝากทรัพย์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 657
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 กับ น. เช่าตู้นิรภัยจากจำเลยที่ 1 เพื่อใช้เป็นที่เก็บทรัพย์ แล้วจำเลยทั้งสี่จงใจหรือประมาทเลินเล่อไม่ดูแลกุญแจธนาคารให้ดี ปล่อยให้จำเลยที่ 4 นำกุญแจธนาคารไปไขตู้นิรภัยของโจทก์ แล้วลักเอาทรัพย์ที่เก็บไว้ไป ทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยทั้งสี่จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ทั้งสอง คำฟ้องดังกล่าวชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว ฟ้องโจทก์ทั้งสองจึงไม่เคลือบคลุม
จำเลยที่ 3 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 มีหน้าที่เก็บรักษากุญแจต้นแบบของธนาคารและมีหน้าที่นำกุญแจต้นแบบของธนาคารไปเปิดตู้นิรภัยร่วมกับลูกค้าของธนาคาร เมื่อจำเลยที่ 3 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อปล่อยให้จำเลยที่ 4 นำกุญแจต้นแบบของธนาคารไปเปิดตู้นิรภัยเองตามลำพังเป็นเหตุให้จำเลยที่ 4 ถือโอกาสลักกุญแจของโจทก์ที่ 1 และ น. มาเปิดตู้นิรภัยลักเอาทรัพย์มีค่าของโจทก์ที่ 1 และ น.ไปได้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 3ประมาทเลินเล่อในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลเยที่ 3 ต่อโจทก์ทั้งสองด้วย
การที่โจทก์ที่ 1 กับ น.เช่าตู้นิรภัยจากจำเลยที่ 1 เพื่อใช้เป็นที่เก็บทรัพย์นั้น ทุกครั้งที่โจทก์ที่ 1 กับ น.ภริยาโจทก์ที่ 1 นำทรัพย์ไปเก็บโจทก์ที่ 1 กับ น. มิได้ส่งมอบทรัพย์ที่เก็บให้แก่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1ก็มิได้มีส่วนรู้เห็นว่า โจทก์ที่ 1 กับ น. นำทรัพย์อะไรไปเก็บไว้บ้าง เมื่อโจทก์ที่ 1กับ น. ต้องการนำทรัพย์ที่เก็บไว้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนกลับคืนก็ไปนำกลับมาเองโดยโจทก์ที่ 1 กับ น.เพียงแต่ยื่นคำร้องขอให้จำเลยที่ 1 นำกุญแจต้นแบบของธนาคารมาร่วมไขเปิดตู้นิรภัยด้วยเท่านั้น โดยจำเลยที่ 1 มิได้ทำการส่งมอบทรัพย์คืน สัญญาเช่าตู้นิรภัยจึงมิใช่สัญญาฝากทรัพย์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 657
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 กับ น. เช่าตู้นิรภัยจากจำเลยที่ 1 เพื่อใช้เป็นที่เก็บทรัพย์ แล้วจำเลยทั้งสี่จงใจหรือประมาทเลินเล่อไม่ดูแลกุญแจธนาคารให้ดี ปล่อยให้จำเลยที่ 4 นำกุญแจธนาคารไปไขตู้นิรภัยของโจทก์ แล้วลักเอาทรัพย์ที่เก็บไว้ไป ทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยทั้งสี่จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ทั้งสอง คำฟ้องดังกล่าวชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว ฟ้องโจทก์ทั้งสองจึงไม่เคลือบคลุม
จำเลยที่ 3 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 มีหน้าที่เก็บรักษากุญแจต้นแบบของธนาคารและมีหน้าที่นำกุญแจต้นแบบของธนาคารไปเปิดตู้นิรภัยร่วมกับลูกค้าของธนาคาร เมื่อจำเลยที่ 3 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อปล่อยให้จำเลยที่ 4 นำกุญแจต้นแบบของธนาคารไปเปิดตู้นิรภัยเองตามลำพังเป็นเหตุให้จำเลยที่ 4 ถือโอกาสลักกุญแจของโจทก์ที่ 1 และ น. มาเปิดตู้นิรภัยลักเอาทรัพย์มีค่าของโจทก์ที่ 1 และ น.ไปได้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 3ประมาทเลินเล่อในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลเยที่ 3 ต่อโจทก์ทั้งสองด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อของเหรัญญิกในการเก็บรักษาเงินสดเกินระเบียบสหกรณ์ และการเก็บลูกกุญแจตู้นิรภัยไม่ปลอดภัย
สหกรณ์โจทก์มีระเบียบว่าด้วยการรับจ่ายและเก็บรักษาเงินของสหกรณ์ พ.ศ. 2520 ข้อ 8 ว่า เหรัญญิก หรือเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์จะเก็บรักษาเงินสดของสหกรณ์ไว้ได้ไม่เกินหนึ่งพันบาทเงินสดส่วนที่เกินให้นำส่งเข้าฝากในธนาคารที่สหกรณ์เปิดบัญชีเงินฝากไว้ ในกรณีจำเป็นไม่สามารถนำเข้าฝากได้ทันในเวลานั้น ๆให้ทำบันทึกเสนอประธานกรรมการ หรือรองประธานกรรมการทราบและให้นำส่งเข้าฝากในวันแรกที่เปิดทำการ เงินสดที่เก็บรักษาไว้ดังกล่าวข้างต้นให้เก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยของสหกรณ์ ซึ่งจำเลยทราบระเบียบดังกล่าวดีอยู่แล้ว การที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบกลับรักษาเงินสดของโจทก์ไว้เป็นจำนวนมากถึง 43,878.22 บาทโดยละเลยไม่นำส่วนที่เกินหนึ่งพันบาทไปฝากธนาคารทั้งไม่ทำบันทึกเสนอประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการของโจทก์รับทราบและเก็บรักษาลูกกุญแจตู้นิรภัยเก็บเงินไว้ในโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ห่างตู้นิรภัยเพียง 1 เมตร ง่ายต่อการที่คนร้ายจะค้นพบแล้วนำไปไขเปิดตู้นิรภัยนั้น พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เมื่อมีคนร้ายลักลอบเข้ามางัดโต๊ะทำงานและค้นได้ลูกกุญแจนำไปไขตู้นิรภัยแล้วลักเอาเงินสดจำนวนดังกล่าวข้างต้นไป ความเสียหายย่อมเป็นผลโดยตรงจากการประมาทเลินเล่อของจำเลย ถือได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14931/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารมีความรับผิดต่อทรัพย์สินลูกค้าสูญหายจากความประมาทเลินเล่อในการเก็บรักษาตู้นิรภัย
จำเลยที่ 1 ให้โจทก์เช่าตู้นิรภัยเพื่อเก็บรักษาทรัพย์สินโดยมีจำเลยที่ 2 ที่ 4 และที่ 5 เป็นพนักงานมีหน้าที่ในการเก็บรักษารหัสและกุญแจห้องมั่นคง การที่จำเลยที่ 2 เก็บสำเนารหัสและวิธีการเปิดห้องมั่นคงไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน จำเลยที่ 4 เก็บกุญแจห้องมั่นคงไว้ในตู้นิรภัยเล็ก และจำเลยที่ 5 เก็บกุญแจห้องมั่นคงอีกดอกหนึ่งไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานอันเป็นการผิดระเบียบของจำเลยที่ 1 จนเป็นเหตุให้คนร้ายรื้อค้นพบและนำไปใช้เปิดห้องมั่นคงแล้วลักทรัพย์ของโจทก์ที่เก็บไว้ในตู้นิรภัยไปจึงต้องถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 2 ที่ 4 และที่ 5 ในการเก็บรักษารหัสและกุญแจห้องมั่นคงอันเป็นผลโดยตรงต่อเกิดเหตุลักทรัพย์ของโจทก์ มิใช่เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่อาจป้องกันได้ การที่จำเลยที่ 2 ที่ 4 และที่ 5 ประมาทเลินเล่อในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ที่ 4 และที่ 5 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 425 อีกโสตหนึ่งด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 3 โดยมิได้สั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม ศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไข ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 3 โดยมิได้สั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม ศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไข ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง