พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเราต่างสถานที่และเวลา ไม่ถือเป็นการโทรมหญิง ผู้เสียหายถอนฟ้องคดีระงับ
ครั้งแรกผู้เสียหายถูกพวกของจำเลยข่มขืนกระทำชำเราในสวนปาล์มโดยจำเลยมิได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย หลังจากผู้เสียหายนุ่งกางเกงและเดินมาถึงถนนข้างสวนปาล์มจึงพบกับจำเลย จำเลยได้กอดและลากพาตัวผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเราที่ข้างจอมปลวกใหญ่ในป่าหญ้าคา ดังนี้จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่างสถานที่ ต่างเวลาและขาดตอนจากการที่พวกของจำเลยกระทำในครั้งแรก จึงหาใช่เป็นการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ตาม ป.อ.มาตรา 276 วรรคสองไม่ คงเป็นความผิดตามมาตรา276 วรรคหนึ่งและ มาตรา 278 เท่านั้น
จำเลยกระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราและกระทำอนาจารโดยไม่ปรากฏว่ามีเหตุใดเหตุหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 281 จึงเป็นความผิดอันยอมความได้ ผู้เสียหายมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์ได้ก่อนคดีถึงที่สุด เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ในขณะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเช่นนี้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39(2) คำพิพากษาของศาลล่างย่อมระงับไปในตัวไม่มีผลบังคับอีกต่อไป ศาลฎีกาต้องจำหน่ายคดี.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
จำเลยกระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราและกระทำอนาจารโดยไม่ปรากฏว่ามีเหตุใดเหตุหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 281 จึงเป็นความผิดอันยอมความได้ ผู้เสียหายมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์ได้ก่อนคดีถึงที่สุด เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ในขณะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเช่นนี้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39(2) คำพิพากษาของศาลล่างย่อมระงับไปในตัวไม่มีผลบังคับอีกต่อไป ศาลฎีกาต้องจำหน่ายคดี.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)