พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เทศบาลต้องรับผิดต่อความเสียหายจากต้นไม้ล้มทับเนื่องจากละเลยดูแล แม้ไม่มีเหตุสุดวิสัย
ต้นสนที่ล้มทับรถยนต์ของโจทก์เสียหายและโจทก์ได้รับอันตรายสาหัส มีสภาพผุกลวงอยู่ในความครอบครองดูแลของเทศบาลเมืองสงขลาจำเลยที่ 1วันเกิดเหตุมีฝนตกเล็กน้อยและปานกลางเป็นช่วงสั้น ๆ และมีฟ้าคะนอง ความเร็วลมเพียง 5 ถึง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นความเร็วลมปกติ การที่ต้นสนดังกล่าวล้มลงทับรถของโจทก์จึงมิใช่เกิดจากเหตุสุดวิสัย แต่เป็นความบกพร่องของจำเลยที่ 1ที่ไม่ยอมโค่นหรือค้ำจุนต้นสนดังกล่าวเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์
ค่าเสียหายเพราะเหตุที่โจทก์ต้องทุพพลภาพตลอดชีวิต โดยระบบประสาทไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ เสียสมรรถภาพทางเพศ และไม่สามารถเดินได้ กับค่าเสียหายที่โจทก์ต้องทนทุกข์ทรมานจากการทุพพลภาพตลอดชีวิตนั้น ถือเป็นค่าเสียหายอันมิใช่ตัวเงินตาม ป.พ.พ. มาตรา 446 ทั้งสองกรณี อันเนื่องมาจากเหตุที่ต่างกัน จึงแยกจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่ให้ชดใช้ตามเหตุที่แยกออกจากกันเป็นแต่ละเหตุได้
ค่าเสียหายเพราะเหตุที่โจทก์ต้องทุพพลภาพตลอดชีวิต โดยระบบประสาทไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ เสียสมรรถภาพทางเพศ และไม่สามารถเดินได้ กับค่าเสียหายที่โจทก์ต้องทนทุกข์ทรมานจากการทุพพลภาพตลอดชีวิตนั้น ถือเป็นค่าเสียหายอันมิใช่ตัวเงินตาม ป.พ.พ. มาตรา 446 ทั้งสองกรณี อันเนื่องมาจากเหตุที่ต่างกัน จึงแยกจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่ให้ชดใช้ตามเหตุที่แยกออกจากกันเป็นแต่ละเหตุได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เทศบาลต้องรับผิดชอบความเสียหายจากต้นไม้ล้มทับรถยนต์ เนื่องจากละเลยไม่ดูแลรักษา แม้สภาพอากาศปกติ
ต้นสนที่อยู่ข้างถนนซึ่งเทศบาลจำเลยที่1มีหน้าที่ดูแลมีสภาพผุกลวงแม้จะมีฝนตกและฟ้าคะนองในวันเกิดเหตุแต่ก็เป็นฝนตกเล็กน้อยและปานกลางในช่วงสั้นๆและความเร็วของลมก็เป็นความเร็วลมปกติการที่ต้นสนล้มลงทับรถยนต์โจทก์จึงมิใช่เกิดจากเหตุสุดวิสัยเนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนแต่เป็นความบกพร่องของจำเลยที่1ที่ไม่ยอมโค่นหรือค้ำจุนต้นสนเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นจำเลยที่1จึงต้องรับผิด ค่าเสียหายเพราะเหตุที่โจทก์ต้องทุพพลภาพตลอดชีวิตโดยระบบประสาทไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้เสียสมรรถภาพทางเพศและไม่สามารถเดินได้กับค่าเสียหายที่โจทก์ต้องทนทุกข์ทรมานจากการทุพพลภาพตลอดชีวิตเป็นค่าเสียหายอันมิใช่ตัวเงินทั้งสองกรณีอันเนื่องมาจากเหตุที่ต่างกันจึงแยกจำนวนให้ชดใช้ตามเหตุที่แยกออกจากกันเป็นแต่ละเหตุได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากเหตุต้นไม้ล้มขวางทาง: ผู้ขับขี่ทราบเหตุแล้ว หักเลี้ยวชนรถคันอื่น จำเลยไม่ต้องรับผิด
คืนเกิดเหตุต้นไทรริมทางหลวงล้มขวางทาง ได้มีผู้ตัดกิ่งตอนปลายออกเป็นทางเดินรถเหลือทางเดียว โดยกรมทางหลวงจำเลยที่ 1ไม่ทราบเหตุดังกล่าว อีกประมาณ 1 ชั่วโมงรถยนต์โดยสารปรับอากาศซึ่งโจทก์เป็นผู้เช่าซื้อแล่นมาโดยคนขับทราบก่อนแล้วว่ามีต้นไม้ล้มขวางทางอยู่ในทางหลวงข้างหน้าห่างประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะรถของโจทก์แล่นมาห่างต้นไม้ 5 เมตร คนขับรถของโจทก์หักเลี้ยวรถไปทางขวาเข้าไปในทางเดินรถแลนด์โรเวอร์วิ่งแล่นสวนทางมาเพื่อหลบหลีกต้นไม้ จึงชนกันขึ้น เหตุดังกล่าวหาใช่เป็นผลโดยตรงหรือเนื่องมาจากจำเลยที่ 1 ไม่ทำเครื่องหมายให้ทราบว่ามีต้นไม้ล้มอยู่ข้างหน้าหรือไม่ติดโคมไฟฟ้าหรือแขวนตะเกียงไว้ที่ต้นไม้ให้เห็นชัดเจนไม่ ทั้งต้นไม้ล้มลงก่อนเกิดเหตุรถยนต์ชนกันเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง และไม่มีผู้ใดแจ้งเรื่องให้จำเลยทั้งสองหรือเจ้าหน้าที่ของจำเลยทั้งสองทราบทันที ย่อมไม่อยู่ในวิสัยที่จำเลยทั้งสองจะดำเนินการดังกล่าวได้ทัน ถือไม่ได้ว่าเหตุที่รถชนกันเป็นผลเนื่องมาจากความประมาทของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2ผู้แทนของจำเลยที่ 1 บกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4128/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ความเสียหายจากต้นไม้ล้ม: โจทก์ต้องพิสูจน์ความบกพร่องในการดูแลของจำเลย
แม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 434 จะบัญญัติให้ผู้ครองหรือเจ้าของต้นไม้ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ตาม แต่มูลละเมิดในเรื่องนี้เป็นกรณีที่โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า ความเสียหายของโจทก์เกิดขึ้นจากความบกพร่องในการปลูกหรือค้ำจุนต้นมะพร้าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ของจำเลย โจทก์ก็มีภาระที่จะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า เหตุที่ต้นมะพร้าวล้มจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เกิดจากความบกพร่องในการปลูก หรือค้ำจุนของจำเลยหาใช่ว่าโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องพิสูจน์ดังกล่าวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4128/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ความเสียหายจากต้นไม้ล้ม: ผู้กล่าวอ้างต้องพิสูจน์ความบกพร่องในการดูแล
แม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 434 จะบัญญัติให้ผู้ครองหรือเจ้าของต้นไม้ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ตามแต่มูลละเมิดในเรื่องนี้เป็นกรณีที่โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า ความเสียหายของโจทก์เกิดขึ้นจากความบกพร่องในการปลูกหรือค้ำจุนต้นมะพร้าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ของจำเลยโจทก์ก็มีภาระที่จะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า เหตุที่ต้นมะพร้าวล้มจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เกิดจากความบกพร่องในการปลูกหรือค้ำจุนของจำเลยหาใช่ว่าโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องพิสูจน์ดังกล่าวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3593/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากต้นไม้ล้มทับ - อายุความ - การกระทำละเมิดต่อเนื่อง
ต้นไม้ของจำเลยล้มเอนเข้าไปในที่ดินของโจทก์โจทก์บอกกล่าวให้ จำเลยตัด จำเลยก็ไม่ยอมตัดและไม่ยอมให้โจทก์ ตัดแสดงว่าจำเลย ยังครอบครองและแสดงความหวงแหนเป็นเจ้าของต้นไม้นั้นอยู่ดังนั้น ตราบใดที่จำเลยยังคงปล่อยให้ต้นไม้ของจำเลยล้มเอนเข้าไปในที่ดิน ของโจทก์โดยไม่ยอมค้ำจุนหรือตัดออกเพื่อระงับความเสียหาย อันจะพึงเกิดแก่โจทก์ต่อไป ย่อมถือได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ ติดต่อกันมาอยู่ตราบนั้นโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายส่วนที่ยังไม่พ้นกำหนด 1 ปีย้อนหลังไปนับแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในความเสียหายจากต้นไม้ล้ม: เจ้าของต้องรับผิดชอบหากทราบถึงความชำรุดแต่ไม่ป้องกัน
ต้นนุ่นที่มีความชำรุดโดยรากโคนไม่ดีจนลำต้นมิได้ตั้งตรงโอนเอนมาทางเรือนโจทก์. โจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วถึงความชำรุด. ก็มิได้จัดการป้องกันแต่ประการใด. เมื่อต้นนุ่นล้มทับเรือนโจทก์เสียหาย. แม้จะเป็นโดยพายุหรือมิใช่ก็ตาม.จำเลยก็ต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2575/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารรายงานประจำวันของตำรวจไม่ใช่เอกสารมหาชน และการพิสูจน์ความเสียหายจากต้นไม้ล้มทับ
เอกสารใดจะเป็นเอกสารมหาชนหาได้ถือเอาแต่การที่พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำขึ้นตามอำนาจหน้าที่ของตนไม่ แต่ข้อความในเอกสารนั้นต้องพาดพิงถึงประชาชนในทางใดทางหนึ่ง ทั้งต้องกระทำขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากเอกสารนั้นได้ ด้วยการตรวจสอบหรืออ้างอิงข้อเท็จจริงจากเอกสารดังกล่าว แต่รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีเป็นเพียงเอกสารราชการที่เจ้าพนักงานตำรวจทำขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่ามีการแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานตำรวจเท่านั้น มิได้มีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนอ้างอิงข้อเท็จจริงในเอกสารดังกล่าวจึงไม่เป็นเอกสารมหาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5205/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากต้นไม้ล้มทับ - กรมทางหลวงต้องรับผิดชอบหากละเลยไม่บำรุงรักษาต้นไม้ที่อยู่ในความดูแลจนเกิดอันตราย
วันเกิดเหตุฝนตกไม่มากและลมพัดไม่แรง การที่ต้นจามจุรีริมทางหลวงล้มทับผู้ตายขณะขับรถจักรยานยนต์ไปตามทางหลวงจนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายมิใช่เกิดจากเหตุสุดวิสัย แต่เป็นเพราะความบกพร่องของกรมทางหลวงจำเลยที่ไม่โค่นเหรือปล่อยปละละเลยไม่สั่งเจ้าหน้าที่ของจำเลยไปโค่นต้นจามจุรีที่มีสภาพผุกลวงเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น อันเป็นการกระทำละเมิดของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์