พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7812/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารใช้ถามค้านพยานแล้วนำสืบเป็นพยานได้ แม้ไม่ได้ระบุในบัญชีพยาน
ใบสั่งซื้อสินค้าเป็นเอกสารที่โจทก์ใช้ในการถามค้านจำเลยที่ 2 ที่อ้างตนเองเป็นพยาน เมื่อจำเลยที่ 2 เบิกความรับรองเอกสารนั้นแล้ว โจทก์จึงอ้างส่งเป็นพยานหลักฐานต่อศาลชั้นต้น จึงมิใช่พยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของโจทก์ แม้โจทก์จะไม่ได้ระบุเอกสารดังกล่าวไว้ในบัญชีระบุพยานของโจทก์ และมิได้ส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวต่อศาลชั้นต้นก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 7 วัน ก็ไม่ต้องห้ามมิให้รับฟัง กรณีไม่อยู่ในบังคับ ป.วิ.พ. มาตรา 88 และมาตรา 90 จึงรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6654/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ถามค้านพยานตาม ป.วิ.พ. มาตรา 89 วรรคแรก (ข) ต้องเกี่ยวข้องกับการกระทำของผู้ที่ถึงแก่ความตาย
กรณีที่คู่ความซึ่งมีหน้าที่นำสืบพยานภายหลังต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนไว้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 89 วรรคแรก (ข) นั้น หมายความว่าเพื่อพิสูจน์ข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกี่ยวด้วยการกระทำหรือถ้อยคำหรือหนังสือซึ่งพยานที่มาเบิกความได้กระทำขึ้น ดังนั้น พยานที่รับเงินสดจากโจทก์ที่ธนาคาร ก. สาขาบางโพ ก็คือนาย ว. แต่คดีนี้นาย ว. มิได้มาเบิกความเป็นพยานเนื่องจากถึงแก่ความตายไปก่อน ส่วนพยานจำเลยปากอื่นก็มิได้รู้เห็นเกี่ยวข้องกับการชำระเงินสดของนาย ว. ทั้งตัวจำเลยก็มิได้มาเบิกความต่อศาล จึงมิใช่กรณีที่โจทก์ต้องถามค้านพยานไว้ก่อนตามบทกฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2358/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานที่ไม่ได้รับการถามค้าน: กรณีผู้เสียหายไม่มาเบิกความหลังเสนอเงินชดใช้
ศาลชั้นต้นสืบพยานปากผู้เสียหายจนถึงเวลา12นาฬิกาแล้วให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อนัดหน้าแต่นัดต่อมาผู้เสียหายไม่มาศาลซึ่งโจทก์ได้แถลงว่าก่อนที่จำเลยที่1จะได้รับประกันตัวไปจำเลยทั้งสามเคยเสนอให้เงินแก่ผู้เสียหายแต่ตกลงกันไม่ได้ต่อมาเมื่อจำเลยที่1ได้รับประกันตัวไปผู้เสียหายและมารดาไม่ยอมรับหมายเรียกอีกเข้าใจว่าได้รับเงินจากฝ่ายจำเลยและมีข้อตกลงว่าจะไม่ยอมมาเบิกความที่ศาลจำเลยทั้งสามมิได้แถลงคัดค้านว่าไม่เป็นความจริงและศาลมีคำสั่ง งดสืบพยานโจทก์ปากผู้เสียหายดังนี้เมื่อการไม่สามารถนำตัวผู้เสียหายมาเบิกความไม่ใช่ความผิดของโจทก์ทั้งผู้เสียหายได้เบิกความต่อศาลแล้วย่อมรับฟังได้ส่วนการที่จำเลยทั้งสาม ไม่ได้ ถามค้านจะทำให้พยานโจทก์ปากผู้เสียหายมีน้ำหนักน่าเชื่อเพียงใดหรือไม่เป็นเรื่องที่จะได้พิจารณาชั่งน้ำหนักต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2329/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการนำสืบพยานจำเลย แม้ไม่ได้ถามค้านพยานโจทก์ - สัญญาจำนอง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ทำสัญญาจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 เพื่อเป็นประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 ให้การว่าไม่เคยทำสัญญาจำนองกับโจทก์ จำเลยที่ 2 จึงมีสิทธินำสืบว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้ทำสัญญากับโจทก์เพราะตามวันเวลาที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 เดินทางไปต่างประเทศได้ไม่เป็นการนำสืบโดยกล่าวอ้างประเด็นขึ้นใหม่ ทั้งจำเลยที่ 2 ไม่จำเป็นต้องถามค้านพยานโจทก์ไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2251/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานเอกสารหลังหมดกำหนด – พยานประกอบคำถามค้าน
หลังจากที่จำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนสืบพยานเสร็จและแถลงหมดพยานแล้ว จำเลยยื่นเอกสารในระหว่างถามค้านตัวโจทก์ที่อ้างตนเองเป็นพยานอีก เมื่อโจทก์รับรองเอกสารนั้น จำเลยย่อมอ้างเป็นพยานหลักฐานประกอบคำของโจทก์ได้ เพราะพยานเอกสารดังกล่าวมิใช่เป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของจำเลยซึ่งจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนของกฎหมาย จำเลยจึงไม่ต้องยื่นคำร้องต่อศาล อ้างเหตุถึงการไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานได้ภายในกำหนด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3427/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชั่งน้ำหนักพยาน: คำเบิกความยังฟังได้แม้ไม่ได้ถามค้านก่อนพยานถึงแก่กรรม
ศาลสืบพยานจำเลยได้เพียงตอบคำซักถามของจำเลย แล้วเลื่อนคดี พยานจำเลยถึงแก่กรรมก่อนถึงวันนัด ทำให้โจทก์ไม่ได้ถามค้าน ไม่ทำให้คำเบิกความของพยานจำเลยรับฟังไม่ได้ กรณีเป็นเรื่องการชั่งน้ำหนักคำพยานเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4158/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานคดีแรงงาน: ศาลอนุญาตให้จำเลยสืบพยานได้ แม้ไม่ได้ถามค้านโจทก์ก่อน เนื่องจากต้องการข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์
การสืบพยานในคดีแรงงานแตกต่างจากคดีแพ่งสามัญพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 45 วรรคสอง บัญญัติว่า "ในการสืบพยานไม่ว่าจะเป็นพยานที่คู่ความฝ่ายใดอ้างหรือที่ศาลแรงงานเรียกมาเอง ให้ศาลแรงงานเป็นผู้ซักถามพยานตัวความหรือทนายความจะซักถามพยานได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน" ฉะนั้น การที่จำเลยนำสืบพยานบุคคลในภายหลังว่าโจทก์ซึ่งเป็นพนักงานของจำเลยเรียกร้องเงินจากคนงานที่จะทำงานกับจำเลยอันเป็นการเลิกจ้างที่มีเหตุเลิกจ้าง โดยจำเลยมิได้ถามค้านโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายที่นำสืบก่อนในข้อนี้ไว้ ถือได้ว่าศาลแรงงานอนุญาตแล้ว เพราะศาลแรงงานต้องการได้ข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์และให้ได้ความแจ้งชัดในข้อเท็จจริงแห่งคดี จะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 มาใช้บังคับในการพิจารณาคดีแรงงานไม่ได้ ศาลแรงงานย่อมรับฟังคำพยานจำเลยดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการถามค้านพยานภายหลังตามมาตรา 89 วรรค 1(ก) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 89 วรรค 1(ก) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่บัญญัติถึงการที่ผู้นำสืบพยานภายหลัง สืบพยานหักล้างหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขถ้อยคำพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนนั้น หมายเฉพาะถึงเมื่อข้อความที่ผู้นำสืบภายหลังเป็นข้อความที่พยานของฝ่ายนำสืบก่อนเป็นผู้รู้เห็นอยู่ด้วยเท่านั้น กฎหมายจึงบัญญัติให้ผู้นำสืบพยานภายหลังถามค้านไว้ก่อนเพื่อให้พยานผู้นั้นอธิบายข้อความที่ตนรู้เห็นในข้อที่ฝ่ายหลังนี้นำสืบไว้เสียก่อน เพื่อป้องกันมิให้ฝ่ายหลังเอาเปรียบโดยนำสืบหักล้างมิให้ฝ่ายแรกรู้ตัว ไม่มีโอกาสเสนอพยานหลักฐานครบถ้วน เป็นการเสียความยุติธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการถามค้านพยานภายหลังตามมาตรา 89 วรรคหนึ่ง (ก) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 89 วรรคหนึ่ง (ก) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่บัญญัติถึงการที่ผู้นำสืบพยานภายหลัง สืบพยานหักล้างหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขถ้อยคำพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนนั้น. หมายเฉพาะถึงเมื่อข้อความที่ผู้นำสืบภายหลังเป็นข้อความที่พยานของฝ่ายนำสืบก่อนเป็นผู้รู้เห็นอยู่ด้วยเท่านั้น กฎหมายจึงบัญญัติให้ผู้นำสืบพยานภายหลังถามค้านไว้ก่อนเพื่อให้พยานผู้นั้นอธิบายข้อความที่ตนรู้เห็นในข้อที่ฝ่ายหลังนี้นำสืบไว้เสียก่อน เพื่อป้องกันมิให้ฝ่ายหลังเอาเปรียบโดยนำสืบหักล้างมิให้ฝ่ายแรกรู้ตัวไม่มีโอกาสเสนอพยานหลักฐานครบถ้วน เป็นการเสียความยุติธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อาจนำสืบพยานหลังไม่ได้ถามค้านพยานฝ่ายตรงข้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89
จำเลยมิได้ถามค้านพยานโจทก์ในประเด็นข้อใดไว้ แล้วนำพยานของตนในประเด็นข้อนั้นมาสืบในภายหลัง เป็นการต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ศาลจะไม่ยอมรับฟังคำพยานจำเลยในประเด็นข้อนั้นได้