คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทรัพย์สาธารณประโยชน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สาธารณประโยชน์ โทรศัพท์สาธารณะเป็นทรัพย์ที่ประชาชนใช้ได้ทั่วไป จำเลยต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360
โทรศัพท์สาธารณะขององค์การโทรศัพท์ฯ เสียค่าบริการใช้อย่างเดียวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะใช้และใช้ได้ทุกเวลาตามที่ต้องการ จึงเป็นทรัพย์ที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ เมื่อจำเลยทำให้หูโทรศัพท์สาธารณะแตกเสียหายใช้การไม่ได้จึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สาธารณประโยชน์: ป้ายบอกชื่อหนองน้ำสาธารณะเข้าข่ายทรัพย์เพื่อประโยชน์สาธารณะ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360
ป้ายบอกชื่อหนองน้ำสาธารณะ เป็นทรัพย์ที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ เมื่อจำเลยถอนป้ายทิ้ง จึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้เขื่อนกันดินไม่ใช่ทรัพย์สาธารณประโยชน์ตามประมวลกฎหมายอาญา
ไม้เขื่อนกันดินเพื่อถมดินวางรางของการรถไฟถือเป็นเพียงเครื่องก่อสร้างสำหรับทำทางเพื่อวางรางรถไฟ ไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(10)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้เขื่อนกันดินไม่ใช่ทรัพย์สาธารณประโยชน์ตามประมวลกฎหมายอาญา
ไม้เขื่อนกันดินเพื่อถมดินวางรางของการรถไฟถือเป็นเพียงเครื่องก่อสร้างสำหรับทำทางเพื่อวางรางรถไฟ ไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(10)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้เขื่อนกันดินไม่ใช่ทรัพย์สาธารณประโยชน์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(10)
ไม้เขื่อนกันดินเพื่อถมดินวางรางของการรถไฟถือเป็นเพียงเครื่องก่อสร้างสำหรับทำทางเพื่อวางรางรถไฟ. ไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(10).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สาธารณประโยชน์: เจตนาและองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยบังอาจทำลายทรัพย์ที่ใช้และมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยจำเลยขุดดินทำร่องน้ำทำคันนากั้นน้ำ แล้วปักดำข้าวลงในที่สาธารณประโยชน์ชื่อ 'กุดบ้านลาด' เป็นเหตุให้ประชาชนผู้มีสิทธิที่จะใช้ที่สาธารณประโยชน์เสียหายไร้ประโยชน์ที่จะใช้ร่วมกันขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 เป็นการแสดงให้เห็นได้ว่า โจทก์ได้ฟ้องหาว่าจำเลยทำลาย ทำให้เสียหาย และทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์อันครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา360 แล้ว
กระทำโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรค 2หมายถึงบุคคลกระทำโดยตั้งใจและประกอบด้วยประสงค์ต่อผลอย่างหนึ่งหรืออาจเล็งเห็นผลจากการกระทำนั้นอีกอย่างหนึ่งถ้าบุคคลกระทำการใดโดยตั้งใจ แม้ประสงค์ต่อผลอย่างอื่นแต่บุคคลนั้นอาจเล็งเห็นผลจะพึงบังเกิดขึ้นจากการกระทำของตนว่าจะบังเกิดผลอย่างใดแล้วก็ถือได้ว่า ผู้นั้นเจตนาต่อการกระทำอันจะบังเกิดผลเช่นนั้น
จำเลยมุ่งประสงค์ต่อการทำนาในหนองน้ำสาธารณ แต่การกระทำของจำเลยเป็นการทำลายหรือทำให้เสียหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งหนองนั้นซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะบังเกิดขึ้นดังกล่าว ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนาทำลายหรือทำให้เสียหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งหนองน้ำนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16410/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ-สิทธิระงับ: การกระทำความผิดต่อเนื่องฐานทำลายทรัพย์สาธารณประโยชน์และความผิดฐานประกอบกิจการโรงงาน
คดีก่อนพนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ฟ้องจำเลยที่ 1 ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2371/2550 ของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในความผิดฐานร่วมกันประกอบกิจการโรงงานโดยทำการดูดทรายบนที่ดินอันเป็นการแปรสภาพลำเลียงและทำลายหิน กรวด ดิน ทราย โดยใช้เครื่องจักรอันเป็นโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กับพวกประกอบกิจการดูดทรายทำให้ริมตลิ่งคลองบางบาลพังไปเป็นคุ้งน้ำยาวตามลำน้ำประมาณ 300 เมตร ลึกเข้าไปจากริมตลิ่งประมาณ 200 เมตร ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ทำการดูดทรายบริเวณพื้นที่ติดต่อกับคลองบางบาล เป็นเหตุให้ชายตลิ่งริมคลองบางบาลถูกทำลายจนพังทลายลง การกระทำของจำเลยที่ 1 ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2371/2550 ของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคดีนี้จึงเป็นการกระทำในสถานที่เกิดเหตุเดียวกันคือ การดูดทรายในที่ดินบริเวณริมคลองบางบาล ตำบลวัดยม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาเดียวกัน หาใช่เป็นการกระทำแยกจากกันหรือต่างกรรมต่างวาระกันไม่ ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นฟ้องที่ศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (4)