คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทรัพย์สินจากความผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2070/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเงินที่ได้จากการกระทำผิด แม้ไม่ใช่เงินที่ได้จากการกระทำผิดในคดีปัจจุบัน ศาลมีอำนาจริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา
ธนบัตรของกลางจำนวน 700 บาท เป็นเงินที่จำเลยได้จากการขายเมทแอมเฟตามีนก่อนหน้าที่จะถูกจับ กรณีจึงเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำความผิด ทั้งคดีนี้โจทก์ได้ฟ้องจำเลยในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายและขายเมทแอมเฟตามีน แม้ศาลจะไม่มีอำนาจสั่งริบเงินสดของกลางจำนวน 700 บาท ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 102 ซึ่งเป็นบทเฉพาะก็ตาม และแม้ธนบัตรของกลางจะไม่ได้มาโดยการขายเมทแอมเฟตามีนในคดีนี้โดยตรงก็ตาม ศาลก็มีอำนาจริบได้ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4190/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเงินที่ได้จากการกระทำผิดยาเสพติด: ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ริบเงินจากจำเลยที่รับสารภาพ โดยอาศัยคำรับสารภาพเป็นหลัก
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสี่กับพวกร่วมกันมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และยึดได้ธนบัตรจากจำเลยที่ 1 จากจำเลยที่ 3 และจากจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นธนบัตรที่จำเลยรับมาเพื่อใช้ในการหาซื้อกัญชา และใช้เป็นค่าขนย้ายกัญชาเป็นของกลางเมื่อจำเลยที่ 3 ที่ 4 ให้การรับสารภาพตามฟ้อง จึงต้องฟังว่าธนบัตรของกลางที่ยึดได้จากจำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งศาลมีอำนาจริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าธนบัตรของกลางที่ยึดได้จากจำเลยที่ 3 ที่ 4 มิใช่เป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด หรือได้มาจากการกระทำผิด นั้น เป็นการฟังข้อเท็จจริงที่ผิดไปจากคำรับสารภาพของจำเลย ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งให้การปฏิเสธเป็นคดีใหม่ เป็นการสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176 และมีผลทำให้คำขอของโจทก์ในคดีนี้ที่ให้ริบธนบัตรของกลางที่ยึดได้จากจำเลยที่ 1 สิ้นสภาพไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10220/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินจากการกระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ต้องพิสูจน์ได้ว่าเงินที่ยึดได้มาจากการกระทำความผิดโดยตรง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 นำแผ่นวีซีดีเพลงและแผ่นซีดีรอมเอ็มพีสาม ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายทั้งสามออกขาย เสนอขาย และมีไว้เพื่อการขายแก่บุคคลทั่วไปเพื่อการค้า จำนวน 1,406 แผ่น เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองพร้อมยึดได้แผ่นวีซีดีเพลงและแผ่นซีดีรอมเอ็มพีสามที่ละเมิดลิขสิทธิ์จำนวน 1,406 แผ่น และเงิน 8,540 บาท ที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการจำหน่ายแผ่นซีดีรอมเอ็มพีสามและแผ่นซีดีเพลงเป็นของกลาง ข้อเท็จจริงดังกล่าวยังรับฟังไม่ได้ชัดเจนว่า เงินของกลางจำนวนดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่จำเลยที่ 1 ได้มาจากการขายเสนอขายและมีไว้เพื่อขายแผ่นวีซีดีเพลงและแผ่นซีดีรอมเอ็มพีสาม จำนวน 1,406 แผ่น ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้เสียหายทั้งสามในคดีนี้ หรือที่ได้มาจากการกระทำการในครั้งก่อนซึ่งโจทก์ก็มิได้ฟ้องถึงการกระทำดังกล่าวในครั้งก่อนมาด้วย กรณีจึงไม่อาจฟังได้ว่าเงิน 8,540 บาท เป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้มาโดยได้กระทำความผิดตามความหมายของ ป.อ. มาตรา 33 (2) ที่จะลงโทษทางอาญาแก่จำเลยที่ 1 ด้วยการริบทรัพย์สินได้ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางสั่งไม่ริบเงินของกลางชอบแล้ว