คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทรัพย์สินไม่ตรง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3774/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดเนื่องจากทรัพย์สินไม่ตรงตามที่ยึด และอำนาจศาลในการแก้ไขกระบวนการบังคับคดี
โจทก์นำยึดที่ดินอ้างว่าโฉนดเลขที่ 20174 และตึกแถวเลขที่ 121/13 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ ต่อมาปรากฏว่าตึกแถวเลขที่ 121/13 มิได้ปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 20174 แต่อยู่ทางด้านหน้าของที่ดินโฉนดดังกล่าว การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นติดกันไปจึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อผู้ร้องซึ่งซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดไม่อ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจออกคำสั่งยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใด ๆ โดยเฉพาะนั้นเสียได้ก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้นลง โจทก์ทั้งสองและผู้ร้องซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ และการที่ศาลชั้นต้นได้ทำการตรวจสอบฟังคำแถลงของผู้ร้องและโจทก์ทั้งสองแล้วเห็นว่ามีการผิดพลาด ย่อมถือได้ว่าได้มีการไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้ว ทั้งจำเลยทั้งสองก็มิได้คัดค้านคำร้องไม่เป็นความจริง เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้ขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยไม่ชอบ ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งยกเลิกการบังคับคดีนั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3774/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ทรัพย์สินไม่ตรงกับที่ยึด เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการไม่ชอบ
โจทก์นำยึดที่ดินและตึกแถวอ้างว่าตึกแถวปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ ต่อมาปรากฏว่าตึกแถวมิได้ปลูกอยู่บนที่ดิน การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นติดกันไปจึงเป็นการไม่ชอบเมื่อผู้ร้องซึ่งซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดไม่อ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ศาลย่อมมีอำนาจออกคำสั่งยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใด ๆ โดยเฉพาะนั้นเสียได้ก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้นลง โจทก์ทั้งสองและผู้ร้องซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ และการที่ศาลชั้นต้นได้ทำการตรวจสอบฟังคำแถลงของผู้ร้องและโจทก์ทั้งสองแล้วเห็นว่ามีการผิดพลาด ย่อมถือได้ว่าได้มีการไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้วทั้งจำเลยทั้งสองก็มิได้คัดค้านว่าคำร้องไม่เป็นความจริงเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้ขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยไม่ชอบศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งยกเลิกการบังคับคดีนั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความถูกต้องของทรัพย์สินในคดีลักทรัพย์และรับของโจร หากทรัพย์สินไม่ตรงตามที่กล่าวอ้างในฟ้อง การลงโทษฐานรับของโจรเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องว่าคนร้ายบังอาจลักเอาโทรทัศน์ยี่ห้อ อาร์.ที. เอ.ขนาด 19 นิ้วของผู้เสียหายไป เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยโทรทัศน์ของกลาง ทางพิจารณาผู้เสียหายเบิกความว่าโทรทัศน์ที่ถูกคนร้ายลักไปยี่ห้อเซียร่า จึงต้องฟังว่าโทรทัศน์ของกลางกับของผู้เสียหายเป็นโทรทัศน์คนละเครื่อง เพราะต่างยี่ห้อกัน โทรทัศน์ของกลางอาจไม่ใช่ของผู้เสียหายที่หายไป แม้จะฟังว่าจำเลยได้รับโทรทัศน์ของกลางไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของที่ได้มาโดยการกระทำผิดฐานลักทรัพย์จริง ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะโทรทัศน์ของกลางไม่ใช่ของผู้เสียหายดังโจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับของโจรต้องมีทรัพย์สินตรงตามที่ถูกลักไป หากทรัพย์สินไม่ตรงกัน แม้ทราบว่าเป็นของผิดกฎหมายก็ไม่มีความผิด
โจทก์ฟ้องว่าคนร้ายบังอาจลักเอาโทรทัศน์ยี่ห้อ อาร์.ที. เอ. ขนาด 19 นิ้วของผู้เสียหายไป เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยโทรทัศน์ของกลาง ทางพิจารณาผู้เสียหายเบิกความว่าโทรทัศน์ที่ถูกคนร้ายลักไปยี่ห้อเซียร่า จึงต้องฟังว่าโทรทัศน์ของกลางกับของผู้เสียหายเป็นโทรทัศน์คนละเครื่องเพราะต่างยี่ห้อกัน โทรทัศน์ของกลางอาจไม่ใช่ของผู้เสียหายที่หายไป แม้จะฟังว่าจำเลยได้รับโทรทัศน์ของกลางไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของที่ได้มาโดยการกระทำผิดฐานลักทรัพย์จริงก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะโทรทัศน์ของกลางไม่ใช่ของผู้เสียหายดังโจทก์ฟ้อง