พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1052/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมในการใช้ทาง - การใช้สิทธิไม่สุจริต - การโอนสิทธิ
โจทก์มีบ้านให้บุคคลอื่นเช่าในที่ดินของโจทก์ซึ่งไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะแม้หากผู้เช่าสามารถเดินเข้าออกที่ดินพิพาทได้โดยเป็นภาระจำยอมแล้ว โจทก์จะได้ประโยชน์จากการเก็บค่าเช่ามากขึ้น ทั้งทำให้ที่ดินของโจทก์มีราคาสูงขึ้นด้วย ก็ยังถือไม่ได้ว่าการที่โจทก์นำคดีมาฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนภาระจำยอมและรื้อถอนรั้วที่ปิดกั้นระหว่างที่ดินของโจทก์กับที่ดินพิพาท เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทล้อมรั้วที่ดินพิพาทโดยด้านหน้ามีไม้กั้นติดข้อความว่า"ที่หวงห้าม ห้ามผ่าน" ด้านหลังใช้เสาไม้อันเดียวปักไว้มีป้ายติดข้อความว่า "ที่ส่วนตัวห้ามเดิน"และด้านข้างปักป้ายมีข้อความว่า "ที่สงวนลิขสิทธิ์" แต่ต่อมาในเดือนเดียวกันมีผู้รื้อถอนไม้ที่ใช้กั้นที่ดินพิพาทออก โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และผู้ที่เคยใช้ที่ดินพิพาทเป็นทางผ่านเข้าออกก็ยังคงใช้ที่ดินพิพาทเป็นทางผ่านเข้าออกต่อมาอีก การกั้นรั้วไม้ดังกล่าวไม่มีผลให้รับฟังว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ได้ใช้ที่ดินพิพาทโดยความไม่สงบหรือมิได้ใช้ติดต่อกันมาเกิน 10 ปี
บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387 และมาตรา 1393แสดงว่าสิทธิการใช้ที่ดินพิพาทอันตกเป็นภาระจำยอม กฎหมายบัญญัติเพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์หาได้มุ่งเพื่อประโยชน์ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะไม่ ทั้งตกติดไปยังผู้รับโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสามยทรัพย์นั้นด้วย เมื่อปรากฏว่าขณะที่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โจทก์ที่ 1 ที่ 2ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางออกจากที่ดินของตนไปสู่ทางสาธารณะ แม้ต่อมาภายหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว โจทก์ที่ 1 ที่ 2 จะได้โอนขายที่ดินของตนแก่บุคคลอื่น ก็หาทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ระงับไปไม่
เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทล้อมรั้วที่ดินพิพาทโดยด้านหน้ามีไม้กั้นติดข้อความว่า"ที่หวงห้าม ห้ามผ่าน" ด้านหลังใช้เสาไม้อันเดียวปักไว้มีป้ายติดข้อความว่า "ที่ส่วนตัวห้ามเดิน"และด้านข้างปักป้ายมีข้อความว่า "ที่สงวนลิขสิทธิ์" แต่ต่อมาในเดือนเดียวกันมีผู้รื้อถอนไม้ที่ใช้กั้นที่ดินพิพาทออก โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และผู้ที่เคยใช้ที่ดินพิพาทเป็นทางผ่านเข้าออกก็ยังคงใช้ที่ดินพิพาทเป็นทางผ่านเข้าออกต่อมาอีก การกั้นรั้วไม้ดังกล่าวไม่มีผลให้รับฟังว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ได้ใช้ที่ดินพิพาทโดยความไม่สงบหรือมิได้ใช้ติดต่อกันมาเกิน 10 ปี
บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387 และมาตรา 1393แสดงว่าสิทธิการใช้ที่ดินพิพาทอันตกเป็นภาระจำยอม กฎหมายบัญญัติเพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์หาได้มุ่งเพื่อประโยชน์ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะไม่ ทั้งตกติดไปยังผู้รับโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสามยทรัพย์นั้นด้วย เมื่อปรากฏว่าขณะที่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โจทก์ที่ 1 ที่ 2ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางออกจากที่ดินของตนไปสู่ทางสาธารณะ แม้ต่อมาภายหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว โจทก์ที่ 1 ที่ 2 จะได้โอนขายที่ดินของตนแก่บุคคลอื่น ก็หาทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ระงับไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4100/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวม การใช้สิทธิไม่ขัดต่อสิทธิผู้อื่น การรื้อถอนสิ่งกีดขวางทาง
โจทก์จำเลยและพวกรวม 11 คน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งซึ่งใช้เป็นที่ปลูกบ้านอยู่อาศัย ทางทิศตะวันออกของที่ดินมีทางเดินและสะพานลงสู่แม่น้ำได้โจทก์และชาวบ้านละแวกนั้นใช้เป็นท่าน้ำท่าเรือข้ามฟากร่วมกันมานานหลายสิบปี เช่นนี้ การที่จำเลยทำรั้วปิดกั้นทางเดินพิพาท จึงทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมได้รับความเดือดร้อน แม้จำเลยจะมีสิทธิใช้ทรัพย์สินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์รวมได้ แต่การใช้นั้นจะต้องไม่ขัดสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวผู้หนึ่งด้วย การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วที่จำเลยกั้นไว้แต่โจทก์จะขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์มีสิทธิรื้อถอนรั้วที่จำเลยทำไว้ออกเสียโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ไม่ได้ โจทก์ชอบที่จะขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ทวิ.
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วที่จำเลยกั้นไว้แต่โจทก์จะขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์มีสิทธิรื้อถอนรั้วที่จำเลยทำไว้ออกเสียโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ไม่ได้ โจทก์ชอบที่จะขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ทวิ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2903/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางจำเป็นและการได้สิทธิภารจำยอม: การใช้โดยวิสาสะไม่ถือเป็นการได้สิทธิ
การที่โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเป็นทางเดินล้ำเข้าไปในที่พิพาทก็ดีและใช้รถยนต์ผ่านเข้าไปในที่พิพาทก็ดี ก็โดยอาศัยความเป็นเพื่อนบ้านและความเกี่ยวพันเป็นญาติกันจึงเป็นการใช้โดยถือวิสาสะ ไม่ถือว่าเป็นการใช้โดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาให้ได้สิทธิภารจำยอม ที่พิพาทจึงไม่ตกเป็นภารจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2053/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางโดยได้รับอนุญาตไม่ทำให้เกิดสิทธิภารจำยอม แม้จะใช้ต่อเนื่องเกิน 10 ปี
ที่ดินโจทก์อยู่ติดกับที่ดินจำเลย ต่อมาจำเลยออกไปเป็นทางสาธารณะโจทก์ใช้ทางพิพาทเดินผ่านที่ดินจำเลยออกสู่ทางสาธารณะมากว่า 10 ปี แต่โจทก์ใช้โดนขออนุญาตจำเลย จึงไม่ถือว่าเป็นการใช้โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาจะให้ได้สิทธิภารจำยอม โจทก์ไม่ได้สิทธิภารจำยอมโดยอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอม: ขอบเขตความรับผิดชอบจำเลยในการรักษาสภาพทางและจัดการสิ่งกีดขวาง
ทางภาระจำยอมกว้าง 3 เมตร บางจุดกว้าง 2.95 เมตรเพราะรั้วสังกะสีของบ้านข้างเคียงเอียงเข้ามา จำเลยไม่ต้องรับผิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1390 และไม่ต้องเทปูนให้ตลอด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมไม่ใช่การอาศัยสิทธิ ผู้ขายต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำทาง
ทางภาระจำยอมที่ก่อให้เกิดมีขึ้นระหว่างผู้ซื้อที่ดินและผู้ขายที่ดินนั้นไม่ใช่ลักษณะของการให้อาศัยสิทธิอันเป็นการให้เปล่าฝ่ายเดียวโดยไม่มีสินจ้างหรือข้อผูกพัน แม้โจทก์จะแถลงรับโดยใช้คำว่า'อาศัยใช้'ก็มิใช่ลักษณะแห่งการอาศัยตามนัยแห่งกฎหมาย
เมื่อผู้ขายที่ดินปลูกเรือนบนทางภาระจำยอมเป็นเหตุให้ผู้ซื้อที่ดินใช้ทางภาระจำยอมนั้นไม่สะดวกเหมือนเช่นเดิม ผู้ขายที่ดินต้องรื้อเรือนนั้นออกไปให้พ้นทางและเกลี่ยที่ดินให้เสมอทางตามเดิม
เมื่อผู้ขายที่ดินปลูกเรือนบนทางภาระจำยอมเป็นเหตุให้ผู้ซื้อที่ดินใช้ทางภาระจำยอมนั้นไม่สะดวกเหมือนเช่นเดิม ผู้ขายที่ดินต้องรื้อเรือนนั้นออกไปให้พ้นทางและเกลี่ยที่ดินให้เสมอทางตามเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมเกิดขึ้นได้จากอายุความ แม้มีทางอื่น หรือมีการโอนที่ดิน
ทางเดินที่ใช้มานานจนเป็นภาระจำยอมแล้วเมื่อมีการโอนที่ดินภารยะทรัพย์ต่อไป หรือมีทางเดินทางอื่นอีก ก็ไม่ทำให้ที่ดินนั้นขาดสภาพภารจำยอมไปได้,ภารจำยอมย่อมเกิดขึ้นได้โดยอายุความ โดยไม่จำเป็นว่าที่ดินนั้นจะอยู่ในที่ล้อมหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636-638/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้ทางสาธารณะ vs. สัญญาอนุญาตเดินรถ การห้ามสิทธิสาธารณะต้องมีกฎหมายรองรับ
สัญญา ละเมิด เดิรรถรับส่งคนโดยสาน การที่ห้ามสิทธิของสาธารณชนที่มีอยู่แล้วจะต้องบัญญัติเป็นกฎหมายหรือได้รับพระบรมราชานุญาติเป็นพิเศษ ผู้ที่ได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้เดิรรถรับส่งคนโดยสานในถนนหลวงไม่มีอำนาจรจะหวงกันสิทธิของสาธารณชนที่จะใช้รถเดิรบนถนนนั้นได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางเป็นวิสาสะในชนบท ไม่ถือเป็นการครอบครองปรปักษ์ ไม่เกิดภาระจำยอม
การอยู่ร่วมกันของคนในชนบทตามปกติจะใช้ที่ดินข้างเคียงเป็นทางผ่านได้โดยถือวิสาสะ อันเป็นการเอื้อเฟื้ออาทรต่อกัน การใช้ทางพิพาทของโจทก์ในลักษณะเช่นว่านี้ จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทในลักษณะปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แม้จะใช้นานกว่า 10 ปี ทางพิพาทก็ไม่ตกเป็นภาระจำยอมแก่โจทก์โดยอายุความตามมาตรา 1401