พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและใช้เอกสารราชการปลอมเพื่อขอมีบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อทางราชการ
บัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารสำคัญของทางราชการที่ออกให้โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการแสดงตนของบุคคล การที่จำเลยที่ 1 แจ้งความเท็จว่าตนชื่อ ป. และบัตรประจำตัวประชาชนของตนสูญหายไป เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานหลงเชื่อจดข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวลงในเอกสารราชการและจำเลยที่ 2 รับรองต่อเจ้าพนักงานว่าจำเลยที่ 1 คือ ป. และบัตรประจำตัวประชาชนของจำเลยที่ 1 สูญหายจริงพร้อมทั้งลงลายมือชื่อในช่องผู้รับรอง และจำเลยทั้งสองยังร่วมกันใช้เอกสารราชการปลอมที่จำเลยทั้งสองร่วมกันทำปลอมขึ้นแสดงต่อเจ้าพนักงานเพื่อขอมีบัตรใหม่ อันเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานออกบัตรประจำตัวประชาชนฉบับใหม่ให้แก่จำเลยที่ 1 นั้น นับว่าก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทางราชการ และอาจสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนผู้สุจริตทั่วไปที่จำเลยที่ 1 อาจนำบัตรประจำตัวประชาชนฉบับใหม่ไปใช้แอบอ้างอีกด้วย พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3162/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเกี่ยวกับเอกสารหายเพื่อออกฉบับใหม่ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
ก่อนจำเลยแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์สูญหายไป จำเลยทราบดีว่าเอกสารดังกล่าวมิได้สูญหาย แต่ อ.เป็นผู้เอาไปจากตู้เก็บเอกสารของ ก.และไม่ยอมคืนให้จำเลยเพราะอ้างว่าเป็นเจ้าของรถยนต์และจำเลยทราบจากเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกว่าทางราชการจะออกใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ให้เจ้าของรถใหม่ต่อเมื่อฉบับเก่าสูญหายโดยมีหลักฐานของเจ้าพนักงานตำรวจมาแสดง เมื่อเป็นความประสงค์ของจำเลยเองที่ต้องการให้ทางราชการออกใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ให้จำเลยใหม่โดยจำเลยไม่ต้องเสียเวลาในการฟ้องร้อง อ. จำเลยจึงแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์สูญหายไปอันเป็นความเท็จ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ครบองค์ประกอบในความผิดฐานแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานตามที่ ป.อ.มาตรา 137 บัญญัติไว้เพราะหากกรมการขนส่งทางบกเชื่อว่าใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์สูญหายไปจริงตามที่จำเลยแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ทางราชการก็จะต้องออกเอกสารดังกล่าวฉบับใหม่ขึ้นแทน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนทางทะเบียนเป็นที่เสียหายแก่เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก พนักงานสอบสวนและประชาชนทั่วไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5297/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิลาเพื่อร่วมกิจกรรมสหภาพแรงงาน: ขอบเขตการลาเพื่อร่วมประชุมที่ทางราชการกำหนด
พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 102 เป็นการให้สิทธิลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานลาเพื่อไปดำเนินกิจการสหภาพแรงงาน และไปร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดได้ จึงต้องหมายถึงการไปร่วมประชุมในเรื่องที่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานที่ทางราชการกำหนดขึ้นและต้องเป็นสหภาพแรงงานที่ลูกจ้างดังกล่าวสังกัดอยู่เท่านั้น มิใช่สหภาพแรงงานใดก็ได้โดยไม่มีขอบเขตจำกัด มิฉะนั้นลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานก็จะอ้างสิทธิไปร่วมประชุมในเรื่องที่ทางราชการกำหนดได้ทุกเรื่อง หากกฎหมายประสงค์จะให้สิทธิลูกจ้างไปประชุมในเรื่องอื่นก็จะต้องบัญญัติไว้ ดังนั้น การที่ ส.ไปร่วมประชุมในฐานะอนุกรรมการแรงงานสัมพันธ์เกี่ยวกับกรณีลูกจ้างบริษัท ว.ยื่นคำร้องกล่าวหาว่าถูกนายจ้างกระทำการอันไม่เป็นธรรม ซึ่งไม่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานโจทก์ที่ส.สังกัดอยู่ ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการเป็นส่วนตัว หาใช่เป็นการร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดไม่ จึงไม่ก่อให้ ส.เกิดสิทธิลาไปร่วมประชุมตามนัยมาตรา 102 จึงถือไม่ได้ว่าวันที่ ส.ลาไปร่วมประชุมคณะอนุกรรมการแรงงานสัมพันธ์ดังกรณีข้างต้นรวม 8 วัน เป็นวันทำงาน เมื่อ ส.เป็นลูกจ้างรายวันและไม่ได้ทำงานในวันดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันลาทั้ง 8 วันนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืมเงินทดรองของทางราชการไม่ใช่การยืมเงินทั่วไป หากยักยอกถือเป็นความผิดอาญา แม้มีระเบียบให้ฟ้องเรียกคืนทางแพ่งได้
จำเลยเป็นเจ้าพนักงาน ให้ยืมเงินทดรองเพื่อนำไปซื้อสิ่งของตามหน้าที่ของจำเลย แต่เอาเงินไปใช้เสีย ดังนี้ เป็นความผิดทางอาญาแล้ว เพราะการยืมเงินทดรองของทางราชการหรือเทศบาลหามีลักษณะเหมือนการยืมเงินธรรมดาในระหว่างเอกชนด้วยกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืมเงินทดรองของทางราชการไม่ใช่การยืมเงินทั่วไป หากนำไปใช้ผิดประเภท ถือเป็นความผิดอาญา แม้มีระเบียบให้ฟ้องทางแพ่งได้
จำเลยเป็นเจ้าพนักงาน ได้ยืมเงินทดรองเพื่อนำไปซื้อสิ่งของตามหน้าที่ของจำเลยแต่เอาเงินไปใช้เสีย ดังนี้เป็นความผิดทางอาญาแล้ว เพราะการยืมเงินทดรองของทางราชการหรือเทศบาลหามีลักษณะเหมือนการยืมเงินธรรมดาในระหว่างเอกชนด้วยกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินผลประโยชน์ในฐานะผู้ช่วยสมุหบัญชีถือเป็นการรับเงินในทางราชการ แม้ไม่มีหน้าที่โดยตรง
ผู้ช่วยสมุหบัญชีแม้จะไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับเงินผลประโยชน์ที่มีผู้ส่งมาก็ดี แต่เมื่อรับเงินในระหว่างที่รักษาการในตกแหน่งสมุหบัญชี หรือระหว่างปฏิบัติการรับเงินแทนสมุหบัญชี เช่นนี้ย่อมถือได้ว่ารับเงินไว้โดยหน้าที่
การที่ผู้ช่วยสมุหบัญชีลงชื่อรับเงินในฐานะสมุหบัญชีแล้วเสนอนายตำรวจลงชื่อในฐานะแทนผู้กำกับการเช่นนี้ย่อมเป็นการรับเงินในทางราชการนั่นเอง หาใช่ส่วนตัวไม่
การที่ผู้ช่วยสมุหบัญชีลงชื่อรับเงินในฐานะสมุหบัญชีแล้วเสนอนายตำรวจลงชื่อในฐานะแทนผู้กำกับการเช่นนี้ย่อมเป็นการรับเงินในทางราชการนั่นเอง หาใช่ส่วนตัวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จในเอกสารราชการ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
ปลัดอำเภอกับผู้ช่วยนายด่านศุลกากร และศุลการักษ์ด้านศุลกากรสมคบกันจดข้อความเท็จลงในสมุดบัญชีและทำ รายงานเท็จรับรองการขนสินค้าขึ้นท่า ซึ่งความจริงสินค้ารายนั้นได้ถูกขนย้ายไปสิงคโปร์ โดยมิได้ผ่านการตรวจ รับของพวกจำเลยเลย ดังนี้ ย่อมเป็นการเสียหายแก่ทางราชการในหน้าที่ของจำเลยโดยตรง จำเลยจึงต้องมีความ ผิดตาม าก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 230.
(อ้างฎีกาที่ 1450/2494)
(อ้างฎีกาที่ 1450/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จในเอกสารราชการ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
ปลัดอำเภอกับผู้ช่วยนายด่านศุลกากร และศุลการักษ์ด่านศุลกากรสมคบกันจดข้อความเท็จลงในสมุดบัญชี และทำรายงานเท็จรับรองการขนสินค้าขึ้นท่า ซึ่งความจริงสินค้ารายนั้นได้ถูกขนย้ายไปสิงคโปร์ โดยมิได้ผ่านการตรวจรับของพวกจำเลยเลย ดังนี้ ย่อมเป็นการเสียหายแก่ทางราชการในหน้าที่ของจำเลยโดยตรง จำเลยจึงต้องมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 (อ้างฎีกาที่ 1450/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายต่อทางราชการต้องพิสูจน์ได้ การกระทำที่ไม่มีความเสียหายหรือความเสียหายไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้อง
คดีที่โจทก์หาว่า จำเลยปลอมหนังสือสำคัญในราชการนั้น เมือข้อเท็จจริงได้ความว่า ทางราชการไม่เสียหายแล้ว ส่วนข้อที่ว่าอาจจะเกิดการเสียหายหรือไม่นั้น หากกรณีเป็นที่สงสัย โจทก์6้องนำสืบให้ได้ความชัด มิฉะนั้น ไม่ถือว่าอาจจะเกิดการเสียหายและศาลพิพากษายกฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 866-870/2484)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากความประมาทเลินเล่อของผู้รับขนส่งข้าวสารของทางราชการ
ข้าหลวงประจำจังหวัด+นามประชาชนคณะกรมการจังหวัด โดยหน้าที่ราชการเป็นผู้อำนวยการและจัดการควบคุมดูแลและรับผิดชอบการขนส่งและการจำหน่ายข้าวสารปัน ส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งข้าวสารปันส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น เมื่อผู้รับขนส่งประมาทเลินเล่อทำให้ข้าวสารของทางราชการนั้นเสียหายไป