คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทำร้ายเจ้าพนักงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1580/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนขับรถเมาแล้วประมาท ทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจ ศาลฎีกาไม่รอการลงโทษ แต่ให้กักขังแทนจำคุก
จำเลยมีความรู้ระดับปริญญาตรีซึ่งควรจะรู้จักผิดชอบเป็นอย่างดี กลับดื่มสุราจนมึนเมาแล้วขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงด้วยความประมาทและน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตราย แก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อน ของผู้อื่นเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจะจับกุม จำเลยก็ขับรถยนต์ ฝ่าด่านและใช้เท้าถีบเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งกระทำการตามหน้าที่จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย แต่ไม่ปรากฏว่า จำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้ลงโทษ กักขังแทนโทษจำคุก การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุรา ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43(2) โดยมิได้ระบุบทกำหนดโทษตามมาตรา 160 วรรคสาม ด้วยนั้น เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องและในความผิดดังกล่าวศาลล่างทั้งสอง ลงโทษปรับจำเลย 500 บาท แต่ตามมาตรา 160 วรรคสาม มีระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับตั้งแต่สองพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสอง พิพากษามาจึงเป็นการลงโทษปรับจำเลยต่ำกว่าอัตราโทษขั้นต่ำ ตามที่กฎหมายกำหนด แต่เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์และฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยเพิ่มขึ้น ศาลฎีกาจึงลงโทษปรับจำเลย เพิ่มขึ้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายเจ้าพนักงานด้วยการขับรถชนและการริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด
จำเลยขับรถยนต์ของกลางชนท้ายรถจิ๊ปที่ร้อยตำรวจตรีส.ขับขี่โดยมีเจตนาทำร้ายเพราะโกรธเคืองที่จับจำเลยมาสถานีตำรวจและไม่ยอมปล่อยจำเลยตามคำขอร้องของจำเลยจนร้อยตำรวจตรี ส.ได้รับบาดเจ็บจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 รถยนต์ของกลางจึงเป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำผิดศาลมีอำนาจริบเสียได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายเจ้าพนักงาน: การพิจารณาจากลักษณะบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยวิ่งหนีเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานแล้วล้มลงผู้เสียหายเข้าจับกุมจำเลย จำเลยจึงใช้มีดของกลางที่ถือติดมืออยู่ยาวทั้งด้ามและตัวมีดประมาณ 1 คืบ แทงถูกที่บริเวณหน้าท้องของผู้เสียหาย 1 ทีในที่มืดโดยไม่มีโอกาสเลือกแทงเพราะกำลังดิ้นให้หลุดจากการจับกุมของผู้เสียหาย ดังนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตราย สาหัสเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการกระทำซ้ำและการทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
จำเลยแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอกเหนือหัวใจจนทะลุในครั้นผู้ตายล้มลง จำเลยคร่อมจะแทงซ้ำอีก เช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
พลตำรวจลาหยุดราชการในระหว่างที่ลาหยุดนั้น ไปเที่ยวในงานมหรสพซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ซึ่งตนประจำการอยู่ จ่าสิบตำรวจตรีคนหนึ่งซึ่งรักษาการอยู่ในงานนั้นได้ขอร้องให้ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในงานนั้นด้วยจำเลยได้แสดงกิริยามึนเมาสุราในบริเวณงานพลตำรวจนั้นได้ห้ามปรามและขอให้จำเลยกลับไปบ้าน จำเลยได้ใช้มีดแทงพลตำรวจผู้นั้นถึงบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 298

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาจากขนาดบาดแผลและเหตุการณ์ขณะกระทำ
จำเลยตั้งใจจะหนีให้พ้นการจับกุม เป็นการจวนตัวจึงได้แทงไปหมายจะเอาตัวรอดเท่านั้นทั้งบาดแผลที่ตำรวจถูกแทงที่คอก็มีขนาดเล็ก กว้าง 3/4 เซนติเมตรยาว3/4เซนติเมตร ลึก 1 เซนติเมตร ต่อมาประมาณ 1 เดือน ตำรวจก็ตายเพราะแผลที่เย็บไม่ติดกัน ให้อาหารไม่ได้โดยอาหารรั่วออกทางแผล ร่างกายทรุดโทรมลงจนกระทั่งตายเช่นนี้ถือว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าให้ถึงตายจำเลยยังไม่มีผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานตาม มาตรา 289 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานจนถึงตาย ตามมาตรา 290 วรรคท้าย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยที่ 2 ผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานจนถึงตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคท้ายจำคุก 18 ปี ลด 1 ใน 3 ตาม มาตรา 78คงจำคุก 12 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานฆ่าเจ้าพนักงานตามมาตรา 289 ศาลฎีกาเห็นด้วยกับศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ผิดตามมาตรา 289 คงผิดตามมาตรา 290 วรรคท้าย แต่ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์วางโทษเบาและลดโทษให้มากไปศาลฎีกามีอำนาจแก้เป็นให้จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 20 ปีลดโทษให้ 4 ปีคงจำคุก 16 ปีได้ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายเจ้าพนักงานไม่ถึงบาดเจ็บ ความผิดตามมาตรา 338(3)
ทำร้ายเจ้าพนักงานไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่เป็นผิดตาม มาตรา255คงเป็นผิดตาม มาตรา 338(3) เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายกำนันขณะปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจกฎหมาย ถือเป็นความผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงาน
ท้าทายให้ฟันกัน กำนันเข้าห้ามกลับทำรา้ายกำนันบาดเจ็บสาหัสเป็นผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ ตามมาตรา 257

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่และการทำร้ายร่างกายธรรมดา ความผิดตามกฎหมายอาญา
ทำร้ายเจ้าพนักงานทำการตามหน้าที่ วิธีพิจารณาอาญา ปลัดอำเภอซึ่งขณะออกไปตรวจจับผู้ร้ายเป็นเจ้าพนักงานทำการตามหน้าที่ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ศาลเดิมลงโทษ 7 ปี ฐานทำร้ายเจ้าพนักงานสาหัสตาม ม.257 ศาลอุทธรณ์แก้ว่าทำร้ายคนธรรมดาไม่สาหัสตาม ม.254 จำคุก 2 ปี ฎีกาได้