คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทิ้งฟ้องฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4889/2549 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ชำระค่าขึ้นศาล ทำให้คดีขาดอายุความและศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 1,042,857.79 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ต้องชำระดอกเบี้ยทั้งหมด จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์พิพาทในชั้นฎีกาตามจำนวนดอกเบี้ยที่จำเลยต้องชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกา 200 บาท อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์เป็นการไม่ถูกต้อง เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่จากจำเลยให้ครบถ้วน และศาลชั้นต้นได้มีหมายแจ้งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่แล้ว แต่จำเลยไม่ยอมชำระ ถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (5) ประกอบด้วยมาตรา 246 และมาตรา 247
(คำสั่งศาลฎีกา)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6726/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากการเพิกเฉยไม่ชำระค่าขึ้นศาลตามคำสั่งศาล
ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยของเงินต้นแต่ละช่วงเวลาจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง จำเลยต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาตามทุนทรัพย์ทั้งในส่วนของต้นเงินและดอกเบี้ยของเงินต้นแต่ละช่วงเวลาดังกล่าวนับถึงวันฟ้องด้วย แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเฉพาะตามทุนทรัพย์ในส่วนของต้นเงินยังขาดในส่วนของดอกเบี้ย เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลที่ขาดอยู่จากจำเลยให้ครบถ้วน และศาลชั้นต้นมีหมายแจ้งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยไม่ยอมชำระ กรณีถือได้ว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด เป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9319/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยทิ้งฟ้องฎีกา และการพิจารณาคดีตามรูปคดีเดิมหลังยกคำร้อง
หลังจากที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสองแล้ว โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฟ้องฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องดังกล่าวว่า จำเลยทั้งสองนำส่งสำเนาคำฟ้องฎีกาแล้ว ค่าคำร้องเป็นพับ อันมีผลเป็นการยกคำร้องของโจทก์ทั้งสอง โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวต่อศาลฎีกา ที่จำเลยทั้งสองแก้อุทธรณ์ว่าโจทก์ทั้งสองต้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์นั้น ปัญหาดังกล่าวเป็นกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวเนื่องกับฎีกาของจำเลยทั้งสอง เนื่องจากหากฟังว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฟ้องฎีกา ศาลฎีกาก็ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยทั้งสอง โจทก์ทั้งสองจึงชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวต่อศาลฎีกาได้ การพิจารณาสั่งว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฟ้องฎีกาหรือไม่ เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลฎีกา ที่ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องของโจทก์ทั้งสองดังกล่าวเสียเอง จึงเป็นการไม่ชอบ แต่คดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสอง โดยให้จำเลยทั้งสองนำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ทั้งสองภายใน 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้องฎีกาและจำเลยทั้งสองได้เสียค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาฟ้องฎีกาเมื่อล่วงพ้นกำหนด 7 วันไปแล้ว ซึ่งถือได้ว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฟ้องฎีกาซึ่งศาลฎีกามีอำนาจจำหน่ายคดีได้ก็ตาม แต่การจะจำหน่ายคดีหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล คดีนี้ปรากฎว่าจำเลยทั้งสองเสียค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาฎีกาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2543 ภายหลังล่วงพ้นระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดเพียง 2 วัน ในขณะที่ยังไม่มีการจำหน่ายคดี ทั้งต่อมาในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2543 เจ้าหน้าที่ศาลก็ได้ไปส่งสำเนาฎีกาให้แก่โจทก์ทั้งสองและส่งได้ ศาลฎีกาจึงไม่เห็นสมควรที่จะสั่งจำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7560/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกาและไม่แถลงภายในกำหนด
แม้โจทก์ทั้งหกจะนำส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยทั้งสองตามคำสั่งศาลชั้นต้นแล้วก็ตาม แต่เมื่อส่งไม่ได้ โจทก์ทั้งหกก็ยังมีหน้าที่ต้องแถลงต่อศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ส่งไม่ได้ การที่โจทก์ทั้งหกเพิกเฉยไม่แถลงต่อศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยทั้งสองภายในกำหนดเวลาตามคำสั่งศาลชั้นต้น จึงเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5224/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ชำระค่าขึ้นศาล ทำให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์ตามสัญญาเช่าและเรียกค่าเสียหายจากจำเลย จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกอุทธรณ์ของจำเลยเนื่องจากเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 วรรคสอง ขอให้ศาลวินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลย เสียใหม่ จึงเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็น ราคาเงินได้ ตามบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งตาราง 1 ข้อ 2(ข) ต้องเสียค่าขึ้นศาล 200 บาท เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลดังกล่าวและศาลชั้นต้นได้มีหมายแจ้งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาแล้ว แต่จำเลย ไม่ยอมชำระถือได้ว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลา ที่ศาลกำหนด เป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่ง มาตรา 174(2),246 และมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8780/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง – การปฏิบัติตามหน้าที่ราชการ – การทิ้งฟ้องฎีกา
การที่จำเลยซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินจังหวัดผู้มีหน้าที่ดำเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินได้รับคำขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมของโจทก์ไว้ แล้วไม่ดำเนินการโอนให้แก่โจทก์เนื่องจากจำเลยต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ให้รอการโอนกรรมสิทธิ์ไว้ก่อนอันเป็นการกระทำตามหน้าที่โดยชอบและเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของทางราชการ ถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำการอย่างใดอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์แล้ว ต้องถือว่าคดีอยู่ในอำนาจของศาลฎีกา การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 2เพราะเหตุโจทก์ทิ้งฟ้องฎีกา จึงไม่ถูกต้อง แต่เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาจึงสั่งให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 2 เพราะเหตุโจทก์ทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 174 (2), 132 (1) และมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5923/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลให้ชำระค่าขึ้นศาลฎีกา ถือเป็นการทิ้งฟ้องฎีกา
จำเลยที่ 1 เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาไม่ถูกต้อง เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่จากจำเลยให้ครบถ้วน และศาลชั้นต้นได้มีหมายแจ้งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่ยังขาดอยู่แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยไม่ยอมชำระ กรณีถือได้ว่า จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2), 246 และมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทิ้งฟ้องฎีกาจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และสิทธิเรียกร้องค่าขาดแรงงานครัวเรือนที่ซ้ำซ้อนกับคดีอื่น
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ที่2และให้โจทก์ที่2นำส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยภายใน5วันไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิดหากส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงภายใน15วันนับแต่วันส่งไม่ได้มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้องฎีกา ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ที่2ให้นำฎีกามายื่นลงชื่อทราบคำสั่งแล้วถือว่าโจทก์ที่2ได้ทราบคำสั่งแล้วต่อมาพนักงานเดินหมายนำหมายส่งสำเนาฎีกาไปส่งให้แก่จำเลยที่1แต่ส่งไม่ได้โจทก์ที่2ไม่ได้แถลงต่อศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน15วันจึงเป็นการ ทิ้งฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2) ค่าขาดแรงงานในครอบครัวที่ภริยาโจทก์ที่1ถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำละเมิดของจำเลยทั้งสามเมื่อโจทก์ที่2ซึ่งเป็นบุตรของโจทก์ที่1กับผู้ตายอาศัยอยู่บ้านเดียวกับโจทก์ที่1การที่โจทก์ที่1จ้างบุคคลอื่นมาทำงานแทนผู้ตายโจทก์ที่2ย่อมได้รับประโยชน์จากการทำงานของบุคคลอื่นนี้ด้วยทั้งโจทก์ที่2ก็มิได้จ้างบุคคลอื่นมาช่วยทำงานอีกเมื่อศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าเสียหายส่วนนี้แก่โจทก์ที่1แล้วความเสียหายของโจทก์ที่2ในส่วนนี้ย่อมหมดไปโจทก์ที่2ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5512/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ชำระค่าขึ้นศาล แม้คดีมีทุนทรัพย์ ศาลสั่งจำหน่ายคดี
โจทก์ฟ้องขอเพิกถอนนิติกรรมการให้ที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้าง แล้วถอนชื่อจำเลยจากโฉนดที่ดินและให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินคืนโจทก์หรือกองมรดก เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เป็นคดีมีทุนทรัพย์ตามราคาที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ศาลฎีกามีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาให้ถูกต้องแต่โจทก์ไม่ยอมเสียภายในเวลาที่กำหนด ถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด เป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบด้วยมาตรา 246 และ 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และผลกระทบต่อการเป็นผู้จัดการมรดกหลังการเสียชีวิต
ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 2 นำส่งสำเนาฎีกาให้ผู้ร้องภายใน 7 วัน โดยมีคำสั่งในวันเดียวกับวันที่ผู้คัดค้านที่ 2ยื่นฎีกา จึงถือว่าผู้คัดค้านที่ 2 ได้ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นแล้วเมื่อผู้คัดค้านที่ 2 ไม่นำส่งสำเนาฎีกาตามคำสั่งของศาลชั้นต้นถือว่าผู้คัดค้านที่ 2 ทิ้งฎีกา สำหรับผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 2 ได้รับแต่งตั้งจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1ต่อมาผู้คัดค้านที่ 1 ขอให้เพิกถอนคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้คัดค้านที่ 1 เมื่อผู้คัดค้านที่ 2 ถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาคำสั่งของศาลที่แต่งตั้งให้ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่มีผลต่อไปและการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นการเฉพาะตัวของผู้คัดค้านที่ 2 จะรับมรดกความกันไม่ได้
of 2