พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คุณสมบัติผู้รับโอนสิทธิการเช่าที่ดินปฏิรูปการเกษตร: เกษตรกรต้องไม่มีที่ดินทำกินเพียงพอ
การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีเจตนารมณ์เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินและเกษตรกรผู้นั้นจะต้องไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรม เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเกษตรกรได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว จำนวน 20 ไร่ 2 งาน 84 ตารางวา โดยทำนาทั้งแปลงจึงถือได้ว่าโจทก์มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง และมีรายได้เพียงพอแก่การครองชีพแล้ว โจทก์จึงขาดคุณสมบัติที่จะได้รับโอนที่ดินพิพาทแม้ทางมรดกตกทอดของบิดาโจทก์ ดังนั้น การที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ออกคำสั่งให้โจทก์รับมรดกตกทอดสิทธิการเช่าในที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าขัดกับกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 นั้นชอบแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ และไม่จำต้องวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิจะได้รับมรดกที่ดินพิพาทหรือไม่ เพราะถึงแม้ได้รับมาก็ไม่มีมีสิทธิรับโอนอยู่แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คุณสมบัติผู้รับโอนสิทธิทำกินในเขตปฏิรูปที่ดิน: เกษตรกรต้องไม่มีที่ดินทำกินพอเลี้ยงชีพ
โจทก์เป็นเกษตรกรได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว 20 ไร่ 2 งาน 84 ตารางวา โดยทำนาทั้งแปลง ถือได้ว่าโจทก์มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองและมีรายได้เพียงพอแก่การครองชีพแล้ว โจทก์จึงขาดคุณสมบัติที่จะได้รับโอนที่ดินพิพาทแม้ทางมรดกตกทอด จำเลยซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชอบที่จะไม่ออกคำสั่งให้โจทก์รับมรดกตกทอดสิทธิการเช่าในที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าขัดกับกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3021/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินและการมอบที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ทำให้เกิดสิทธิครอบครอง เจ้าของที่ดินมีสิทธิถอนคำร้องออก น.ส.3
จำเลยกู้เงินโจทก์และได้มอบที่นาให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยแม้โจทก์จะเป็นฝ่ายเสียภาษีบำรุงท้องที่ ก็เป็นการเสียแทนจำเลย ไม่ทำให้เกิดสิทธิครอบครองแต่อย่างไร โจทก์มิใช่เจ้าของที่พิพาท จึงไม่มีสิทธิอะไรที่จะมาฟ้องขอให้บังคับจำเลยไปถอนคำร้องขอออกน.ส.3 ที่ดินนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 684/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินสาธารณะต้องมีพระราชกฤษฎีกาประกาศ การครอบครองทำกินต่อเนื่องเป็นสิทธิเจ้าของ
การที่ทางราชการจะให้อำเภอหรือจังหวัดจัดทำที่ดินสงวนไว้เป็นที่สาธารณะประจำหมู่บ้านหรือตำบลนั้น จะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตที่ดินซึ่งสงวนไว้เป็นสาธารณะ ทั้งที่นั้นก็ต้องเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ไม่มีเอกชนเป็นเจ้าของอยู่ และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการหวงห้ามที่พินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2478 มาตรา 4,5 การที่ผู้ใหญ่บ้านได้เขียนป้ายนำไปปิดประกาศไว้ว่าเป็นที่สาธารณะ นั้น ไม่ทำให้ที่ดินนั้นกลายสภาพเป็นที่สาธารณะหวงห้ามไปได้ เพราะทางการยังไม่ได้ดำเนินการออกเป็นพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามไว้เพื่อประชาชน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 684/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณะต้องมีพระราชกฤษฎีกาประกาศ การครอบครองทำกินต่อเนื่องเป็นสิทธิเจ้าของ
การที่ทางราชการจะให้อำเภอหรือจังหวัดจัดหาที่ดินสงวนไว้เป็นที่สาธารณะประจำหมู่บ้านหรือตำบลนั้นจะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตที่ดินซึ่งสงวนไว้เป็นสาธารณะทั้งที่นั้นก็ต้องเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ไม่มีเอกชนเป็นเจ้าของอยู่และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2478 มาตรา 4,5 การที่ผู้ใหญ่บ้านได้เขียนป้ายนำไปปิดประกาศไว้ว่า เป็นที่สาธารณะ นั้นไม่ทำให้ที่ดินนั้นกลายสภาพเป็นที่สาธารณะหวงห้ามไปได้เพราะทางการยังไม่ได้ดำเนินการออกเป็นพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามไว้เพื่อประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินทำกินโดยอายุความและหน้าที่การนำสืบพยาน
โจทก์ฟ้องว่า ซื้อที่ดินมือเปล่าจากจำเลย ครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว บัดนี้จำเลยมาขัดขวางโจทก์มิให้โจทก์ใช้สอยที่ดินที่ดินโดยอ้างว่าเป็นของจำเลย จึงขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยต่อสู้ว่า มิได้ขายที่พิพาทให้โจทก์ เป็นแต่จำนำไว้ ให้โจทก์ยึดถือที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ย ดังนี้
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน
จำเลยต่อสู้ว่า มิได้ขายที่พิพาทให้โจทก์ เป็นแต่จำนำไว้ ให้โจทก์ยึดถือที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ย ดังนี้
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินทำกินก่อนมีคำสั่งสาธารณะประโยชน์ และเจตนาขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน
ในเรื่องขอให้ลงโทษฐานตัดไม้ประเภทหวงห้ามโจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า ที่ที่ตัดไม้นั้นเป็นที่ป่า
ในเรื่องความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานนั้น จำเลยจะต้องรู้ว่า คำสั่งนั้นชอบด้วยกฎหมาย และมีเจตนาขัดขืนจึงจะมีความผิด
ในเรื่องความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานนั้น จำเลยจะต้องรู้ว่า คำสั่งนั้นชอบด้วยกฎหมาย และมีเจตนาขัดขืนจึงจะมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินทำกินและการตัดไม้ในที่ดินนั้น ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาป่า หากที่ดินนั้นมีสภาพเป็นไร่สวน
ผู้ใดตัดฟันไม้ประเภทหวงห้ามในที่ดินซึ่งตนครอบครองมาช้านานแม้จะมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานก็ดี ก็ไม่มีความผิด คำว่า " ป่า " ตาม พ.ร.บ.รักษาป่าหมายถึงที่ดินที่มีสภาพเป็นป่า ที่ดินใดแม้จะยังมิได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ออกโฉนดให้แก่ผู้ใดก็ดี เมื่อที่ดินนั้นเป็นที่ไร่สวนมีผู้ครอบครองยึดถือตลอดมาเช่นนี้ หาเป็นที่ป่าตามความใน พ.ร.บ.นั้นไม่