คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ที่ดินเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผิดสัญญาเช่าที่ดินจากการปรับสภาพพื้นที่โดยการลงลูกรัง ทำให้ที่ดินเสียหาย โจทก์มีสิทธิบังคับคดีได้
ระหว่างพิจารณาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ศาลพิพากษาตามยอม ซึ่งตามสัญญามีเงื่อนไขว่า โจทก์ยอมให้จำเลยใช้ที่ดินของโจทก์ปลูกกล้วยไม้และพืชล้มลุกอายุไม่เกิน 6 ปีมีกำหนด 6 ปี แต่ต้องไม่ทำให้สภาพเนื้อที่ดินของโจทก์ได้รับอันตราย ครบกำหนดแล้วจำเลยจะขนย้ายสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ออกไปถ้าจำเลยผิดสัญญาก็ให้บังคับคดีได้ทันทีนั้น. การที่จำเลยนำลูกรังไปลงทำเป็นถนนในที่พิพาทมีความกว้างประมาณ 3.50เมตร ยาวประมาณ 120 เมตร และเกลื่อนร่องสวนของโจทก์ลงกว้างประมาณ 80 เมตร ย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดแจ้งว่าทำให้สภาพเนื้อที่ดินของโจทก์ได้รับอันตรายคือเปลี่ยนสภาพไปจากที่ดินเดิมจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาต่อไปได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2474/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดดินใกล้เขตที่ดินของผู้อื่นจนทำให้ที่ดินเสียหาย เป็นละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การที่จำเลยขุดดินห่างจากแนวเขตที่ดินของโจทก์เพียง 1เมตร ลึกเกินสมควรจนเต็มเนื้อที่ เป็นเหตุให้ที่ดินโจทก์พังทลาย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 1343 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยจึงต้องรับผิดจัดการป้องกันความเสียหายเพื่อไม่ให้ที่ดินของโจทก์พังทลายต่อไป
จำเลยอ้างว่ามีฝนตกหนักและน้ำท่วมมากเป็นเหตุให้แนวเขตที่ดินพัง อันเป็นเหตุสุดวิสัยที่จำเลยจะป้องกันได้ แต่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คดีก่อน จ.ผู้เช่าที่ดินของโจทก์อีกแปลงหนึ่งฟ้อง พ. กับจำเลยที่ 1 คดีนี้ขอให้ใช้ค่าเสียหายที่ขุดดินทำให้บ่อปลาของ จ.เสียหาย แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้จัดการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ที่ดินของโจทก์คนละแปลงกับที่ดินที่ให้ จ.เช่าเป็นคนละกรณีกัน ทั้งโจทก์ก็มิได้เป็นคู่ความในคดีก่อนร่วมกับจ.ด้วย ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจัดการป้องกันความเสียหายอันเกิดแก่ความอยู่มั่น แห่งที่ดินของโจทก์ ที่ติดต่อกับที่ดินที่จำเลยขุด มิใช่เรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดโดยตรง. จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448